คำว่า Sisu มีรากศัพท์จากภาษาฟินนิชที่แปลว่า ภายใน, ข้างใน หรือเป็นอารมณ์ของการมีใจกล้าหาญ โดยในวัฒนธรรมฟินแลนด์ให้คุณค่าแก่ Sisu สูงมาก โดยถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของนิสัยชาวฟินแลนด์ที่แสดงออกเมื่อเผชิญกับความลำบากต่างๆ เช่น สภาพอากาศอันโหดร้าย, สงคราม หรือการผ่านบททดสอบต่างๆ ในชีวิต แม้แต่ในวารสาร Time ก็ยังเคยระบุว่า Sisu คือ the word that explains Finland เลยล่ะ!
Life จึงขอพาผู้อ่านไปรู้จักกับแนวคิดนี้ให้มากขึ้น
มีบางวันที่เรารู้สึกว่า เราเหนื่อยเกินไปแล้วทั้งร่างกาย อารมณ์ และความคิด เหมือนแบตที่ชาร์จยังไงก็ไม่ค่อยเข้า เหมือนกำลังเดินอยู่บนถนนที่ยาวไกล และไม่รู้ว่าปลายทางอยู่ตรงไหน หลายคนอาจจะรู้สึกว่าบางวันแค่ลุกขึ้นมาอยู่กับโลกอีกหนึ่งวัน
ก็ถือเป็นความกล้าขั้นสูงที่สุดเท่าที่คนคนหนึ่งจะทำได้แล้ว และในวัฒนธรรมของฟินแลนด์ มีคำหนึ่งที่อธิบายความรู้สึกนี้ได้ลึกมาก คำนั้นคือ Sisu (อ่านว่า ซี-ซู)
มันไม่ได้แปลว่า อดทน เฉยๆ ไม่ใช่แค่ความเข้มแข็ง หรือใจสู้อย่างที่เราคุ้นเคย
แต่เป็นพลังเงียบที่เกิดขึ้นในตอนที่เราคิดว่า เราไม่ไหวแล้ว แต่เรายังเลือกจะก้าวต่อไปอีกหนึ่งก้าว และก้าวนั้น มันสำคัญมาก เพราะมันคือก้าวที่เกิดในวันที่หัวใจแทบจะไม่มีแรงเหลือ
Sisu คืออะไร?
Sisu คือการนิ่งอยู่กับความเจ็บปวด โดยไม่วิ่งหนี คือการยอมรับว่ามันยาก แต่มันไม่ใช่จุดจบ และเป็นแนวคิดที่สอนให้รู้ว่าแม้ตอนนี้เรากลัว เหนื่อย ท้อ แต่อย่างน้อยเราจะยังไม่ยอมแพ้ในวันนี้ มันคือแรงขับเคลื่อนพิเศษที่อยู่ข้างใน ไม่ได้ดัง ไม่ต้องประกาศ แต่มันทำให้เรายังเป็นเราอยู่ได้ในวันที่โลกดูโหดเกินไป
สิ่งสำคัญคือ Sisu ไม่บังคับให้เราเก่งตลอด ไม่ใช่ ต้องสู้สิ! ต้องเข้มแข็งสิ! เพราะความดื้อดึง หรือกดความรู้สึกจนพัง นั่นไม่ใช่ Sisu
Sisu อ่อนโยนกว่านั้น เพราะมันคือการซื่อสัตย์กับตัวเองว่า ตอนนี้ฉันเหนื่อยมาก
แต่ฉันจะค่อยๆ เดินต่อทีละลมหายใจ โดยไม่ทำร้ายตัวเอง Sisu มีหัวใจ
และหัวใจของมันคือการใจดีต่อตัวเอง
เราทุกคนมี Sisu อยู่แล้วไม่ต้องฝึกเพิ่ม แค่ต้องมองเห็นมันในตัวเอง คุณเคยผ่านเรื่องหนักในชีวิตมาแล้ว คุณเคยร้องไห้จนไม่มีน้ำตา แต่ก็ยังตื่นขึ้นมาวันรุ่งขึ้น
คุณเคยเสียใจจนแทบขาดใจ แต่หัวใจของคุณก็ยังเต้นอยู่ นั่นแหละ Sisu มันอยู่ตรงนั้นเสมอ เพียงแต่เราไม่ได้เรียกมันด้วยชื่อนี้เท่านั้นเอง
ถ้าวันนี้คุณรู้สึกเหนื่อย ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องรีบฮึด ไม่ต้องเก่งตอนนี้ก็ได้ ขอแค่
หายใจเข้าช้าๆ วางความคิดลงทีละนิด แล้วบอกตัวเองเบาๆ ว่าฉันกำลังพยายามอยู่ และแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับวันนี้
Sisu ไม่ใช่การพุ่งไปไกล มันคือการอยู่กับปัจจุบันให้ไหว และค่อยๆ ขยับเข้าหาพรุ่งนี้ ช้าแค่ไหนก็ได้ แต่ขอให้คุณยังอยู่ตรงนี้กับหัวใจที่ยังเต้น เท่านี้…ก็ถือว่าคุณเดินอยู่บนเส้นทางแล้ว


