Shabu Nashi ร้านชาบูญี่ปุ่นที่เน้นทั้งเนื้อ บรรยากาศ และความดั้งเดิม

เพราะความหลงใหลในชาบูและหารสชาติที่ชอบในเมืองไทยไม่เจอสักที นี่คือเหตุผลที่ทำให้เกิด Shabu Nashi ร้านชาบูแสนเรียบง่ายสไตล์ดั้งเดิม ที่จะทำให้ทุกคนกินแล้วนึกถึงประเทศญี่ปุ่นขึ้นมา

เนื่องจากร้านนี้ไม่เน้นความหวือหวา แต่เน้นความตรงไปตรงมาตั้งแต่เนื้อที่เลือกใช้ จะเสิร์ฟแบบหน้าใหญ่โชว์ลายเต็มชิ้น ไปจนถึงน้ำซุปใสๆ เบาๆ ที่จะช่วยชูรสเนื้อและทำให้เราตักซดได้เรื่อยๆ จนจบ

The Vibe

Shabu Nashi เป็นร้านชาบูสไตล์เคาน์เตอร์บาร์ ทุกที่นั่งจึงมีหม้อประจำของตัวเอง และนั่งเรียงหันหน้าเข้าหาครัวเปิดตรงกลางที่มีพนักงานและเชฟคอยเตรียมเนื้อให้ดูสดๆ ภายในจะตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมผสมความโมเดิร์น ด้วยการใช้ไม้เข้มลายสวยตัดกับผนังและเบาะสีอ่อนดูสบายๆ

ส่วนโลเคชันจะเปิดอยู่ชั้นล่างสุดของศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก ที่ตอนนี้กำลังมีร้านใหม่ๆ ทยอยเข้ามาเปิดเป็นเพื่อนบ้านกันอยู่เรื่อยๆ

The Taste

Shabu Nashi เสิร์ฟอาหารเป็นเซ็ต เน้นเนื้อพรีเมียมที่มีให้เลือก 4 ชนิด ซึ่งบางชนิดก็พิเศษถึงขนาดที่ว่าไม่มีวางขายที่ไหน แถมทุกวันยังมี ‘Chef Selected’ เนื้อพิเศษประจำฤดูกาล ที่ขึ้นอยู่กับเชฟว่าจะเลือกส่วนไหนมาให้ลองด้วย โดยจะเปลี่ยนชนิดไปเรื่อยๆ ตามความน่าสนใจที่เชฟค้นพบ

ซึ่งเชฟผู้ที่จะคอยสรรหาเนื้อมาให้ รวมถึงเป็นผู้ออกแบบรสชาติทั้งซอส ของกินเล่น ไปจนถึงน้ำซุปให้ Shabu Nashi ก็คือ เชฟแทน ไกรสรกิตติคุณ แห่ง 35 Dry Aged Beef เพราะฉะนั้นสายเนื้อแทบไม่ต้องสงสัยแล้วว่าเนื้อของที่นี่จะกินแล้วฟินแค่ไหน

ชาบูชุดหนึ่งจะเสิร์ฟข้าวหรืออุด้งเส้นสด ไข่นกกระทายางมะตูมที่นำไปแช่ซอส 4 ชั่วโมงก่อนนำไปคั่วและปอกเปลือก สลัด, ผักชาบู, ซอสงาโฮมเมด, ซอสพอนสึที่ใช้ยูซุญี่ปุ่น เรามีหน้าที่เลือกเนื้อริบอายสายพันธุ์ที่อยากชิม โดยร้านจะวางเสิร์ฟมาแบบแผ่นใหญ่ๆ เหมือนร้านชาบูพรีเมียมในประเทศต้นตำรับ

สายพันธุ์แรกคือ Premium Local Beef (850 บาท) เป็นเนื้อจากฟาร์มวัวชั้นเยี่ยมในประเทศไทย รสชาติจะเข้มข้น เหมาะจิ้มกับซอสงาเป็นพิเศษ

ใครอยากลองเนื้อญี่ปุ่นจะมี Wagyu F1 หรือ Kuroge Wagyu (1,250 บาท) เนื้อจากจังหวัดอิวาเตะที่ผสมข้อดีของวัว 2 สายพันธุ์เข้าด้วยกันคือ เนื้อแองกัสที่รสชัดเจนกับเนื้อวากิวที่นุ่มนวลเพราะไขมันแทรกกำลังดี ลวกให้พอสุกไม่เกิน 10 วินาทีแล้วชิมคู่ซอสพอนสึได้เลย

แต่หากเป็น Furano Wagyu A5 (1,650 บาท) เนื้อวากิวจากจังหวัดฮอกไกโด จะเหมาะกับคนชอบเนื้อมีไขมันแทรกเยอะๆ กินแล้วนุ่มละลายในปาก แถมร้านสไลซ์เนื้อให้มีหน้ากว้างกว่าปกติด้วย รับรองว่าเต็มคำ!

ส่วนเนื้อจาก Chef Selected ในช่วงนี้จะเป็น Sendai Wagyu A5 (2,050 บาท) เนื้อวากิวลายสวยระดับพรีเมียมที่หมดแล้วหมดเลย รสชาติมีทั้งความนุ่ม เด้ง และหอมเข้มข้น เพราะวัวได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ไร้ความเครียด

สำหรับใครที่ไม่กินเนื้อก็แวะมาได้เช่นกันนะ โดยร้านจะมีชุดหมูราคา 650 บาท เป็นเนื้อหมูส่วนสันนอกที่ติดกับสามชั้น ลวกกินชิ้นหนึ่งจะได้สองเนื้อสัมผัส ทั้งมีเนื้อให้เคี้ยวและมีชั้นไขมันนุ่มละลาย

Good For

คนรักชาบูแถมยังเป็นสายเนื้อตัวยงต้องไม่พลาดแวะมาที่ Shabu Nashi เพราะร้านนี้ตั้งใจเน้นชาบูแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ไม่แต่งเติมอะไรมาก มีแค่น้ำซุปรสชาติเบาสบาย ผัก และเนื้อพรีเมียมส่วนริบอายที่คัดเกรดมาให้อย่างดี เรากินจนจบแล้วซดน้ำซุปต่อก็ยังรู้สึกเบาท้อง เพราะไม่มีความเค็มมากวนลิ้นหรือมีไขมันหนักๆ ลอยเต็มหม้อให้รำคาญใจ

อ้อ ขอแนะนำว่าให้ลวกเนื้อพอสุกตามที่ร้านแนะนำด้วยนะ ถึงจะได้รสชาติฟินๆ ของเนื้ออย่างเต็มที่