นี่คือบาร์ค็อกเทลที่เราอยากพาทุกคนไปนั่งดื่มในวันที่อยากฟังเรื่องราวของความรัก เพราะ Ruby’s บาร์แห่งใหม่ในย่านหลังสวนซึ่งมีเพียง 16 ที่นั่งเท่านั้น ได้แรงบันดาลใจในการรังสรรค์ค็อกเทลแต่ละแก้วจากเรื่องราวของหญิงสาวที่อกหัก ผิดหวังจากความรัก บาร์เทนเดอร์จึงตีความความรู้สึกของเธอโดยใช้อัญมณีเป็นตัวแทนบอกเล่าความรู้สึกรูปแบบต่างๆ มาพร้อมกับบรรยากาศโรแมนติก เรียบหรู ที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกปรารถนาที่จะได้ใช้เวลาในที่แห่งนี้มากยิ่งขึ้น
The Vibe
Ruby’s เปิดอยู่ด้านในร้านอาหารอิตาเลียน Ms.Jigger ของโรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ ถ้าหากใครมานั่งกินมื้อค่ำแล้วอยากจิบค็อกเทลต่อก็สามารถเดินเข้ามาได้เลย เพราะเครื่องดื่มและของกินเล่นจะเสิร์ฟตรงหน้าบาร์เท่านั้น โดยบรรยากาศด้านในมีความเรียบหรู เป็นส่วนตัว เนื่องจากเป็นเคาน์เตอร์บาร์ขนาด 16 ที่นั่ง เพราะฉะนั้นหากใครมาคนเดียวก็อาจได้เพื่อนคุยเป็นแน่
The Taste
เรื่องราวความรักในค็อกเทลของ Ruby’s เป็นชีวิตของ Ms.Jigger หญิงสาวที่ต้องการตามหารักแท้ และเธอได้มาพบกับชายหนุ่มชาวอิตาลี แต่เมื่อทั้งสองตกลงปลงใจคบกัน ความสัมพันธ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เธอจึงต้องเจอกับความเจ็บปวด แตกสลาย และเต็มไปด้วยความแค้น ซึ่งความรู้สึกทั้งหมดของเธอได้ถูกตีความเป็นค็อกเทล 14 แก้ว พร้อมกับม็อกเทลอีก 2 เมนู ที่ใช้อัญมณีต่างๆ แทนความรู้สึก
เมนูแนะนำที่เราได้ลอง เช่น Ruby (440 บาท) ทับทิมเม็ดแดงสวยที่ใช้จินเป็นเบส มีความหอมหวานเปรี้ยวซ่านิดๆ จากโซดาและผลไม้อย่างสตรอว์เบอร์รีและทับทิม ตามด้วยกลิ่นหอมของดอกชบาและดอกมะลิ แก้วนี้เป็นสไตล์สดชื่นดื่มง่าย
แก้วที่ส่องประกายวิบวับ Diamond (520 บาท) ใช้เบสเป็นเตกีลาผสมลิเคียวรสโยเกิร์ตฮอกไกโดและลูกแพร์ มีความนุ่มนวล ครบรส
ส่วน Emerald (480 บาท) เป็นค็อกเทลเบสเมซคาลผสมจิน มีความหวานซ่อนเปรี้ยว เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวเหนียวมะม่วง ด้านบนจึงท็อปด้วยโฟมกะทิทุเรียนที่จะทิ้งกลิ่นหอมฟุ้งในปาก
Blue Sapphire (460 บาท) แก้วนี้มีสีฟ้าไพลินจากสาหร่ายสไปรูลินาและดอกอัญชัน โดยใช้วอดก้าผสมสาเกลูกแพร์ แก้วนี้ดื่มสบายๆ มีความหวานอมเปรี้ยวนิดๆ
แต่สำหรับ Onyx (480 บาท) เป็นค็อกเทลรสเผ็ดร้อน เนื่องจากใช้วอดก้าเป็นเบส ก่อนผสมด้วยความเผ็ดจากพริกไทย และเพิ่มมิติด้วยแตงกวา มะเขือเทศ และเกลือดำ
แต่หากใครชอบค็อกเทลสไตล์หนักแน่น จิบยาวๆ ได้ทั้งคืน บาร์เทนเดอร์แนะนำเมนู Opal (480 บาท) ค็อกเทลที่ทวิสต์มาจากเนโกรนี ผสมเหล้าบ๊วยเค็ม เหล้าอาร์ติโชก และมีกลิ่นสมุนไพรจากใบกระวาน
Aquamarine (540 บาท) แก้วนี้ใช้เบสวิสกี้ผสมไวน์ มีกลิ่นหอมจากน้ำมันชาไทยใบเตย ด้านบนมีช็อกโกแลตให้กินคู่กันเพื่อให้ได้ทั้งความหวานและความขม
ส่วนของกินเล่นจะเสิร์ฟเป็นคอร์ส โดยมีให้เลือกคือ 3 ชิ้น 590 บาท, 6 ชิ้น 1,090 บาท และ 11 ชิ้น 1,690 บาท เมนูที่เราได้ลอง เช่น บริยอชวากิวย่างท็อปทรัฟเฟิล รีซอตโตในถ้วยพาร์เมซานกรอบ คอนชิกลีโอนีไส้มะเขือเทศกับซอสเพสโต้ ฟัวกราส์ย่าง และหอยนางรมเทมปุระ ซึ่งของกินเล่นแต่ละเมนูจับคู่กับเครื่องดื่มแล้วเข้ากันดี เราว่าอาจทำให้หลายคนเอ็นจอยค็อกเทลมากขึ้นเลยละ
Good for
Ruby’s เป็นบาร์ที่เหมาะชวนคนรักมาเดต ใช้เวลาพูดคุยกันสบายๆ เพราะบรรยากาศค่อนข้างโรแมนติกและเป็นส่วนตัว หรือใครจะนัดเพื่อนมานั่งอัปเดตปัญหาหัวใจก็ได้นะ ยิ่งสั่งดริงก์ที่ตรงกับความรู้สึกช่วงนั้นอาจทำให้อินขึ้น และถ้าหากใครมาคนเดียวก็ไม่ต้องกลัวเหงาเช่นกัน เพราะคุณอาจได้เพื่อนใหม่ในคืนนี้
Ruby’s
Address: โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ
Open: ทุกวัน เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป
Contact: Ruby’s
Budget: 1,000-3,000 บาท
Map: