×

RICA ไฟน์ไดนิ่งไวบ์สบายที่เสิร์ฟความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน

24.07.2023
  • LOADING...

หากคุณเคยแวะเวียนไป RICI และ RICO’S ที่กลางวันเป็นคาเฟ่แต่ตกดึกเป็นร้านชิลแล้ว ก็ควรจะต้องแวะขึ้นไปยกระดับต่อมรับรสกันที่ RICA ร้านที่นิยามตัวเองว่าเป็นบูติกอัปสเกลไดนิ่งที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 เพื่อให้ครบเครือ  

 

 

The Vibe

 

หากคุณยังไม่เคยแวะมาร้านใดร้านหนึ่งในเครือนี้ ก็คงจะไม่รู้เลยว่าในซอยสุขุมวิท 26 มีร้านลับแบบนี้อยู่ด้วย จากชั้นล่างที่เป็นคาเฟ่ เมื่อขึ้นไปยังชั้นบนก็สัมผัสได้ถึงไวบ์ที่แตกต่าง ด้วยห้องอาหารที่มีโต๊ะขาวนวล บนโต๊ะถูกเรียงรายอย่างเป็นระเบียบสวยงามด้วยแก้ว จาน แจกันดอกไม้ โคมไฟสีทอง ทุกอย่างถูกตกแต่งอย่างเรียบหรู แต่ในขณะเดียวกันก็ยังให้ความรู้สึกโฮมมี่เบาๆ ไม่ทางการจนเกินไป  

 

 

The Taste

 

สไตล์อาหารของที่นี่จะเน้นเป็นยุโรป-เอเชียฟิวชัน นำเสนอผ่านคอร์สเมนูต่างๆ ทั้ง 4-Courses Tasting Menu, 5-Courses Journey Menu และ 8-Courses Experience Menu ซึ่งวันนี้เราเลือกเป็น 8 คอร์ส และถือโอกาสลองรายการอื่นๆ ที่เสิร์ฟในแต่ละคอร์สด้วย

 

 

เริ่มกันที่ Welcome Drink ที่วันนี้เสิร์ฟเป็นม็อกเทลแอปเปิ้ล ให้ความสดชื่นได้ดี ก่อนจะตามมาด้วย Welcome Break ที่เสิร์ฟเป็นขนมปังฟอกกาเซียและฮันนี่บัลซามิก ซึ่งต้องขอติดดาวให้กับจานนี้จริงๆ เพราะรสชาติทำออกมาได้เซอร์ไพรส์มาก ตัวขนมปังมีความกรอบนอกนุ่มใน สอดแทรกมะกอกดำและแครนเบอร์รีที่กินเปล่าๆ ก็อร่อยแล้ว แต่พอราดซอสที่ให้มาด้วยรู้ตัวอีกทีก็คือหมดชิ้นในไม่กี่นาที  

 

 

เรียกน้ำย่อยกันต่อด้วย Amuse Bouche ที่เสิร์ฟเป็นชูครีมไส้ครีมทรัฟเฟิล แซลมอนรมควันและครีมชีส ท็อปด้วยอิคุระ รสชาติละมุนครีมมี่สุดๆ เรียกว่าถูกใจสายทรัฟเฟิลแน่นอน 

 

 

ต่อด้วย Cold Starter 3 จานที่วันนี้ล้วนมีวัตถุดิบหลักเป็นอะโวคาโดและส้มโอ เริ่มที่ Gillardeau Oyster Avocado Ceviche รสเปรี้ยวจากส้มโอและความหวานจากองุ่นทำให้คำนี้ไม่คาวแต่อย่างใด เพิ่มเท็กซ์เจอร์เคี้ยวสนุกกับคริสปี้ควินัว และกัวคาโมเล ซึ่งในตัวกัวคาโมเลจะมีข้าวโพดหวานออร์แกนิกคลุกเคล้ามาด้วย ทำให้รสชาติหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น กินเพลิน 

 

 

Salmon Tartare Crostini เป็นอีกจานที่มีเท็กซ์เจอร์ให้เคี้ยวสนุกอีกเช่นกัน รสชาติเข้ากันอย่างลงตัวกับแซลมอนที่ท็อปมาด้านบน

 

 

Hot Starter วันนี้เสิร์ฟเป็น Hokkaido Scallop & Black Truffle หอยเชลล์ฮอกไกโดท็อปด้วยทรัฟเฟิลดำราดด้วยล็อบสเตอร์บิสก์รสเข้มข้น ตักกินกับถั่วแระญี่ปุ่นยิ่งมันปาก ตามมาด้วยอีกจานที่น่าสนใจอย่าง Pan-Seared Duck Breast เสิร์ฟกับแครอตพิวเร ตัวเป็ดย่างมาได้นุ่มกำลังดี เข้ากันดีกับซอสแครนเบอร์รีหวานๆ ชวนให้นึกถึงเป็ดพะโล้ในเวอร์ชันไฟน์ไดนิ่ง   

 

 

เติมพื้นที่ในกระเพาะอีกนิดก่อนจะเข้าสู่เมนคอร์สกับ Black Truffle Lobster Ravioli ที่สายชีสน่าจะปลื้มด้วยตัวพาสต้าสดสอดไส้หางกุ้งล็อบสเตอร์ ครีมชีสฟิลาเดลเฟีย และมาสคาร์โปเนชีส ราดด้วยซุปไก่ใส (Chicken Consommé) 

 

 

เดินทางเข้าสู่จานหลักในค่ำคืนนี้ที่มีวัตถุดิบหลักเป็นแซลมอน ปลาฮามาจิ และแกะ เริ่มกันที่ Salmon & Pickled Salad เนื้อแซลมอนมีความแน่นนุ่ม เสิร์ฟพร้อมกับสลัดผักดองและซอสบัลซามิกฮันนี่มัสตาร์ด รสชาติเบาๆ กินได้เรื่อยๆ เหมาะจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่ชอบรสชาติที่ไม่ปรุงแต่งเยอะ  

 

 

ยกระดับความเข้มข้นของรสชาติขึ้นมากับ Pan-Seared Yellowtail Hamachi ปลาฮามาจิแพนเซียร์เสิร์ฟกับข้าวดอกกะหล่ำหวานกรุบกรอบ เข้ากันดีกับดอกกะหล่ำพิวเร และซอสมะเขือเทศ Bloody Mary 

 

 

มาถึง Roasted Spring Lamb Loin หมักสมุนไพรจากฝรั่งเศส เสิร์ฟกับมันฝรั่ง โรสแมรี มะเขือเทศ และเรดไวน์เบบี้แครอต ตัวแกะจะไม่ได้มีกลิ่นแรงมาก แต่ถ้าใครชอบความ ‘แกะตะโกน’ แนะนำให้ราดกับซอสที่เสิร์ฟมาด้วย  

 

 

หลังจากอิ่มเอมกับอาหารไปแล้วก็ต้องล้างปากด้วยของหวาน เริ่มกันที่ Passion Mango ที่แค่เห็นก็สดชื่นแล้ว ความเปรี้ยวของ Passion Fruit Curd ตัดรสหวานของ Vanilla Ganache Montee และบิสกิตคาเคานิบส์ได้ดี ที่เห็นชิ้นสี่เหลี่ยมนั้นคือมาร์ชเมลโลมะนาว กินกับมะม่วงซอร์เบตยิ่งสดชื่น 

 

ส่วนจานข้างๆ ก็ยังคงอยู่ในหมวดที่ให้ความสดชื่นกับ Citrus Semifreddo ซึ่งคำว่า Semifreddo นั้นเป็นคำภาษาอิตาลีที่มีความหมายว่า ‘ครึ่งเย็น’ สื่อถึงขนมแช่แข็งที่คล้ายคลึงกับไอศกรีม ซึ่งจานนี้จะเป็นมูสเลมอนที่นำไปแช่แข็งนั่นเอง กินกับผลไม้ก็สดชื่น หรือถ้าจะเพิ่มรสหวานหน่อยแนะนำให้ปาดเลมอนบัตเตอร์สกอตและเมอแรงก์ไปด้วย

 

 

มาถึงของจานของหวานที่เรายกให้เป็นเดอะเบสต์ของคืนนี้ Chocolate Parfait ที่น่าจะถูกใจสายช็อกโกแลตไม่น้อยกับไวต์ช็อกโกแลตพาร์เฟต์ ไอศกรีมช็อกโกแลตท็อปด้วยช็อกโกแลตตูเลบางกรอบ ด้านล่างยังมีบราวนี่และช็อกโกแลตครัมเบิลให้ตักกินด้วย 

 

 

ปิดท้ายค่ำคืนกับความหวานจับใจอันเป็นเอกลักษณ์ของ Petite Froid ที่เสิร์ฟเป็น Farewell Passion Caramel Bonbon ช็อกโกแลตไส้คาราเมลเสาวรส และ Petit Raspberry Droplet เยลลี่ราสป์เบอร์รีเคลือบน้ำตาลบนบิสกิต ถ้าใครที่สู้ความหวานไหวก็ลุยแบบเต็มปากเต็มคำได้สบายๆ 

 

 

Good For

 

ถ้าใครที่มองหาสถานที่สำหรับการเฉลิมฉลองในวาระโอกาสพิเศษต่างๆ ด้วยคอร์สอาหารที่อิ่มกำลังดีไม่แน่นมาก ที่นี่ถือเป็นอีกหน่ึงตัวเลือกที่ดี แนะนำให้จองก่อนเพราะที่นี่ไม่รับ Walk-in 

 

ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์

 


 

RICA

 

Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 18.00-22.30 น. 

Address: ชั้น 2, 59/13 ซอยสุขุมวิท 26 

Budget: 8-Courses 3,600++ บาท  

Tel: 0 2258 5538

Instagram: https://www.instagram.com/ricabangkok/

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising