Nawa Thai Cuisine ร้านอาหารไทยสมัยใหม่กับรสชาติที่คนไทยตามหา

“พอมีเวลากลับมานั่งคิด ผมถึงรู้ว่าความสวยงามของอาหารไทยคือการกินอาหารหลายๆ รสชาติในมื้อเดียวกัน ‘สำรับ’ ของพวกเราจึงเสิร์ฟแบบใหม่ เป็นการเสิร์ฟสำรับแบบทันสมัยสไตล์ Nawa (นว)”

เชฟโจ-ณพล จันทรเกตุ และเชฟซากิ โฮชิโนะ สองคู่รักผู้ปลุกปั้นอาหารไทยโมเดิร์นให้กลายเป็นที่รู้จัก ตอนนี้พวกเขากลับมาพร้อมร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งแห่งใหม่ ‘Nawa Thai Cuisine’ ที่ตั้งใจพาอาหารไทยก้าวไปข้างหน้าอีกขั้น

The Vibe

Nawa เปิดอยู่ในโครงการ Park Lane เอกมัย ด้านหน้าร้านประดับด้วยโลโก้ดอกเข็ม เมื่อเดินเข้าไปจะพบบรรยากาศร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งที่มาพร้อมความทันสมัย สัมผัสได้จากการตกแต่ง ครัวแบบเปิด และอาหารที่ทุกคนกำลังจะได้ชิม

The Taste

สำหรับ Nawa เชฟโจและเชฟซากิ ร่วมด้วยเฮดเชฟ เซ็ฟ-จิรพัทธ์ ประพจนาภรณ์ จึงตั้งใจนำเสนอ ‘รสชาติอาหารภาคกลาง’ ที่เต็มไปด้วยความสมดุล ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่เชฟนำมาจากผู้ผลิตรายย่อยทั่วประเทศด้วย เชฟโจเล่าให้ฟังว่า “ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่ทำงานร่วมกันมานาน พวกเราอยากสนับสนุนพวกเขาต่อ จึงไม่เกี่ยงว่าต้องมาจากภาคไหน ขอแค่เป็นวัตถุดิบดีที่สุดในตอนนั้น แล้วเราจะนำมาเปลี่ยนเป็นรสชาติอาหารที่ทุกคนคุ้นเคยเอง”

Nawa จึงเปิดตัวด้วยคอร์สเมนูแรก ‘Introduction’ เพื่อให้ทุกคนมาทำความรู้จักอาหารไทยสไตล์ Nawa เปิดด้วยสแน็ก 4 คำ ได้แก่ ม้าฮ่อ ทาร์ตจากสับปะรด 3 ชนิด, หม้อแกง ใช้กะทิเคี่ยวกับแมคาเดเมีย จิบคู่ชาหอมหมื่นลี้จากเชียงใหม่, ข้าวปุกงา ด้านในเป็นมะเขือเทศ ท็อปด้วยเป็ดดรายเอจรสเข้มข้น เราติดใจคำนี้มาก

ขนมปังน้อนนนหมู เมนูน่ารักๆ ที่มาจากขนมปังหน้าหมู แต่เป็นเวอร์ชันขนมปังบริยอชกับเนื้อหมูแน่นๆ และเจลอาจาด

หมึกแช่น้ำปลากับกรานิตาน้ำจิ้มซีฟู้ด เราชอบอีกเช่นกันเพราะกินสนุก เนื้อสัมผัสนุ่มๆ ตัดกับรสชาติและอโรมาของผักสมุนไพรที่เชฟให้ลองใส่เอง ทำให้อยากกินต่อเรื่อยๆ

เข้าสู่เมนคอร์ส เป็นสำรับสไตล์ Nawa เชฟโจและเชฟซากิบอกว่าแต่ละเมนูจะมาไม่พร้อมกัน เพราะอยากคุมอุณหภูมิให้เสิร์ฟตอนที่เหมาะสมที่สุด เพื่อรสชาติที่ดีที่สุด “เพราะถ้าเสิร์ฟแบบสำรับทั่วไป อาหารบางอย่างที่ควรกินร้อนจะไม่ร้อน พวกเราอยากเปลี่ยนตรงนี้และทำให้สำรับไทยโมเดิร์นขึ้นในรูปแบบ Nawa”

ซุปเสิร์ฟเป็นลำดับแรก ต้มยำกุ้งแม่น้ำ ที่ทำรสชาติได้ถึงและเข้มข้นมาก เราเชื่อว่าใครชิมก็ต้องบอกว่านี่คือต้มยำกุ้งในอุดมคติ เพราะมีทั้งความเผ็ดร้อน เปรี้ยว เค็ม หวาน และเนื้อกุ้งเต็มคำ ทุกอย่างบาลานซ์กันและชัดเจนมาก

หลังจากนั้นแต่ละเมนูจะเริ่มมาเป็นจังหวะให้กินคู่ข้าวหุงใบเตย เริ่มด้วยปูนิ่มทอด ใช้ปูจากจันทบุรีชุบแป้งผสมกะทิ เนื้อสัมผัสเหมือนเทมปุระ ข้างๆ คือมูสมันปูนากับน้ำพริกข่า ต่อด้วยน้ำพริกปูม้า ใช้ปูม้านึ่งผสมน้ำพริก เจลทำจากน้ำสต๊อกปู กินคู่ผักสดแล้วเข้ากัน เป็นน้ำพริกสไตล์เบาสดชื่น

ต่อจากปลาบู่อบซีอิ๊ว ตามด้วยพะแนงเนื้อที่ต้องยกให้เป็นอีกไฮไลต์ เชฟใช้เนื้อส่วนสตริปลอยน์จากหนองคาย นำมาเอจ 30 วัน ราดด้วยซอสพะแนงเข้มข้น กินคู่ผักย่างและยำมะเขือเทศ ผสมเคย ขิง สโมกทูน่า

เชฟซากิเล่าว่าของหวานได้แรงบันดาลใจมาจากรถเข็นผลไม้ จึงเสิร์ฟระฆังทองลอยแก้ว เป็นซอร์เบตกูสเบอร์รี ลิ้นจี่ และไซรัปมะลิ ตามด้วยชมพู่ดอกดาหลา และสับปะรดที่นำไปย่างก่อนทาพริกเกลือสูตรลพบุรีไว้ด้านบน

ปิดท้ายด้วยช็อกโกแลตจันทบุรี เชฟบอกว่ามีรสชาติสมดุล เปรี้ยวน้อย จึงทำเป็นมูสผสมกล้วยที่รสชาติเข้มข้นถูกใจคนชอบช็อกโกแลต แล้วยังมี Petit Four ส่งท้ายอีก 4 คำ ได้แก่ มะยงชิดเยลลี่ ถั่วทอด ฟักทองสังขยา และขนมใส่ไส้

Good For…

สำหรับเรา Nawa เรียกว่าเป็นร้านอาหารไทยโมเดิร์นที่ไม่ทิ้งรากเหง้าและรสชาติดั้งเดิม แม้หลายเมนูฟังดูเรียบง่าย คุ้นเคย แต่หากลองสังเกตจะเห็นการใส่เทคนิค รายละเอียด และองค์ประกอบที่หลากหลาย

ถ้าหากถามว่าเราจะกลับมาด้วยเหตุผลอะไร ก็คงเป็นรสชาติอาหารไทยที่ Nawa ทำได้โดดเด่น ไม่มากหรือน้อยเกินไป แถมยังน่าค้นหา น่าจับตามองว่าอาหารไทยก้าวต่อไปของพวกเขาจะเป็นอย่างไร

“พวกเราไม่ได้พยายามยกระดับ แต่อยากทำอาหารไทยให้ไปไกลกว่านั้น อยากทำอาหารจานที่เรารู้จักให้ออกมาดีที่สุด ด้วยความสามารถ ความรู้ที่เรามีในฐานะเชฟอาหารไทยสมัยใหม่” เชฟโจพูดถึงสิ่งที่เขาและทีมตั้งใจทำที่ Nawa Thai Cuisine