ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัย ‘มวยไทย’ ศิลปะการต่อสู้ที่เป็นมรดกวัฒนธรรมของคนไทยมายาวนานก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในประเทศไทยเองก็เรียกว่ามีครบทั้งศูนย์สอนมวยไทยแบบจริงจัง รวมไปถึงยิมที่นำศาสตร์ศิลปะการต่อสู้อันทรงเสน่ห์นี้มาผสมผสานในคลาสเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเหล่าสายฟิต
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเข้าคลาสออกกำลังเป็นประจำ โดยเฉพาะสไตล์กระชาก Heart Rate แบบ HIIT แล้วละก็ เราอยากชวนให้คุณลองชาเลนจ์ตัวเองกับคลาส Muay HIIT ที่ Sindhorn Wellness by Resense บูติกยิมใน Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวในย่านหลังสวน ที่ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณแกร่งขึ้น แต่ยังช่วยให้คุณได้ระเบิดแคลสาแก่ใจ
What is it?
ตัวยิมตั้งอยู่บนชั้น 2 ของ Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ฝั่ง South Wing โดยจะถูกแบ่งเป็นฝั่งสตูดิโอสำหรับกรุ๊ปคลาสและฝั่งสำหรับคาร์ดิโอและเวตเทรนนิ่ง อย่างที่บอกว่าบูติกยิมแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมระดับ 5 ดาว ดังนั้น Facility ทุกอย่างก็ไม่ต่างกับการได้มาเช็กอินค้างแรมที่นี่เลย
โซนล็อบบี้มี Infused Water และกาแฟให้บริการ และยังมีแบรนด์ชุดออกกำลังกายจำหน่ายอีกด้วย
ห้องน้ำถูกออกแบบอย่างหรูหราและกว้างขวาง ผ้าขนหนูมีให้บริการครบ มีล็อกเกอร์และกุญแจในรูปแบบ Wristband
สำหรับคลาส Muay HIIT ที่เราจะระเบิดพลังกันในวันนี้เกิดจากการบรรจบกันของ Muay Thai + HIIT (2 ศาสตร์ที่แค่ฟังก็เหนื่อยแล้ว) ใน 1 คลาสจะมีการแบ่งรูปแบบการออกกำลังกายเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจน คือกลุ่มที่จะต้องออกหมัดออกแข้งกับกระสอบทราย และกลุ่มที่ต้องเบิร์นและเวตแบบรัวๆ ตามท่าที่กำหนด รวมเวลาทั้งสิ้น 45 นาที โดยแบ่งเป็น Workout 35 sec, Rest 35 sec (2 Rounds) ซึ่งผู้เข้าร่วมคลาสทุกคนจะได้เวียนเล่นกันทุกสเตชันแน่นอน
ในส่วนของสตูดิโอสำหรับคลาสนี้จะรองรับผู้เล่นได้เพียง 6 คน เพื่อความเป็นส่วนตัวและการดูแลอย่างทั่วถึง เพียงกวาดตามองก็เห็นได้ว่าที่นี่มีอุปกรณ์ครบครันสำหรับกรุ๊ปคลาส และยังเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอีกด้วย
Try
โค้ชที่ดูแลทีมเราในวันนี้คือโค้ชนะ หลังจากที่สาธิตท่าและนำวอร์มร่างกายจนเครื่องติดก็เริ่มเข้าสู่ยกที่ 1
ฝั่ง Muay Thai แต่ละคนจะได้รับนวมคนละคู่ และต้องอยู่ประจำกระสอบทรายของตัวเอง ท่าแรกคือ Cross เหยียดแขนออกหมัดตรงไปยังกระสอบทรายสลับซ้าย-ขวา
ต่อด้วยท่า Hook โดยการงอข้อศอกและเหวี่ยงแขนหมัดเป้าหมาย สลับซ้าย-ขวาอีกเช่นกัน
ปิดท้ายด้วย Cross 4 + Hook 4 ซึ่งในขณะที่ Hook โค้ชนะก็ยังชาเลนจ์ให้เราลองกระโดดพร้อมออกแรงปล่อยหมัด แค่ 3 ท่าแรกก็ทำเอาหอบไม่เบา
มองผิวเผินเราอาจจะคิดว่าการต่อยมวยจะช่วยเพิ่มความลีนและแข็งแรงให้กับขา-แขน แต่จริงๆ แล้วส่วนที่เราได้ผลประโยชน์ไปด้วยคือแกนกลางลำตัว เพราะไม่ว่าจะเป็นท่าใดก็ตามเราจะต้องเกร็งหน้าท้องไว้ด้วยตลอด
ในส่วนทีม HIIT ก็หอบไม่แพ้กัน เริ่มจาก Ball Slam กระโดดทุ่มลูกบอลลงพื้นด้วยน้ำหนักที่ร่างกายไหว งานนี้ใครเก็บกดหรืออยากระบายความเครียดก็ถือว่าเหมาะ มีแรงเท่าไรก็กระโดดทุ่มไปให้สุด
มองไปข้างๆ ก็จะเห็นเพื่อนกำลังกระโดดขึ้น-ลงอย่างเมามันกับ Box Jump ซึ่งเป็นท่าที่ได้ฝึกแรงระเบิด และยังได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้ต้นขาและแกนกลางลำตัว
ถ้าใครที่กระโดดไม่ไหวก็สามารถก้าวขาทีละข้างได้เช่นกัน แต่ถ้าโปรแล้วจะกระโดดข้ามกล่องไปลงพื้นอีกฝั่งเลยก็ได้ไม่ว่ากัน
ถัดไปเป็น ViPR Squat Press ผู้เล่นจะต้องจับไวเปอร์ไว้ด้านหน้าลำตัว ย่อตัวสควอตก่อนที่จะส่งแรงจากขายืนพร้อมดันไวเปอร์ขึ้นสุดแขน งานนี้ใครไหล่ไม่ล้าขาไม่สั่นให้มันรู้ไป
สังเกตได้ว่าแต่ละท่าจะไม่ได้เน้นบริหารแค่กล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่เป็น Compound Movement การฝึกที่มีการใช้กล้ามเนื้อหลายๆ ส่วนพร้อมกัน ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการเผาผลาญได้มากขึ้น ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่เราจะรู้สึกเหนื่อยหอบเป็นพิเศษ
หลังจากพักยกไปจิบน้ำให้พอหายหอบประมาณนาทีครึ่งก็ถึงเวลาของยกที่ 2 วนกลับมาที่ฟาก Muay Thai ที่คราวนี้เป็นทีของการฟาดแข้งกันบ้าง เริ่มจาก Kick เตะเข้ากลางกระสอบทรายโดยจะต้องบิดสะโพกไปด้วย
ข้อควรระวังคืออย่าใช้หน้าเท้าเตะ แต่ให้ใช้แข้งแทน หากคุณเป็นมือใหม่แล้วรู้สึกเจ็บขาไปทั้งท่อน ขอให้รู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติ การฝึกฝนจะทำให้คุณคุ้นเคยความเจ็บ…และชินไปเอง
ต่อด้วย Knee ท่าตีเข่าโดยการยกเท้างอเข่าเป็นมุมฉากแล้วกระแทกไปยังกระสอบทรายแบบตรงๆ ปิดท้ายด้วยการรัว Kick 4 + Knee 4 สลับกันไปแบบม่วนๆ ซึ่งพูดได้เลยว่าการได้ออกแรงขาเยอะๆ แบบนี้แหละช่วยเบิร์นได้อย่างดีเยี่ยม
สำหรับเวิร์กเอาต์ HIIT ในรอบนี้ได้เพิ่มความชาเลนจ์ขึ้นด้วย Battle Rope ที่เราขอเรียกว่าเชือกมหาประลัย เพราะมันสามารถทำให้คุณเหนื่อยใจจะหลุดได้ในเวลาไม่กี่วินาที วิธีเล่นท่านี้คือการใช้ 2 มือจับเชือก ย่อขา เกร็งหน้าท้องให้แน่น แล้วเหวี่ยงขึ้น-ลงอย่างรวดเร็ว ความหนักของเชือกจะทำให้แขนและหัวไหล่ได้ออกแรงเต็มๆ อาจจะเป็นความโชคดีที่รอบนี้เราเจอเชือกในเวอร์ชันเบา
Assault Airbike จักรยานที่บังคับให้เราต้องออกแรงปั่นต้านตามแรงลม ซึ่งถ้าใส่แรงถีบสุดก็ทำเอาหอบได้ไม่เบา (แต่ถ้าอยากถือโอกาสอู้สเตชันนี้ถือว่าตอบโจทย์เลยทีเดียว)
ปิดท้ายด้วย Dumbbell Squat Press ที่เหมือนกับท่า ViPR Squat Press ในช่วงแรกทั้งหมด เพียงเปลี่ยนอุปกรณ์เป็นดัมบ์เบลและยกสลับทีละข้าง
Result
จบคลาสพร้อม Heart Rate พุ่งกระจาย และผู้เล่นแต่ละคนที่พุ่งตัวออกไปจิบน้ำแบบไม่ได้นัดหมาย ก่อนกลับมายืดเหยียดแบบพร้อมนอนบนเสื่อ มั่นใจได้ว่าทีม LIFE ได้ดื่มน้ำคุ้มจริงๆ เพราะได้ปลดปล่อยพลังงานไปแบบสุดทุกสเตชัน
Good For
ใครที่ชื่นชอบการออกกำลังสไตล์ HIIT เป็นทุนเดิมและสนใจศาสตร์มวยไทย คลาสนี้ถือว่าตอบโจทย์มาก รวมไปถึงคนที่ชอบมวยไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วอยากจะเพิ่มความอึดให้ร่างกายด้วยเช่นกัน ถือเป็น 45 นาทีที่ได้ปลดล็อกสกิลหลายแบบ และเบิร์นฉ่ำใช้ได้เลยล่ะ
Sindhorn Wellness by Resense
Open: เปิดทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-22.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-22.00 น.
Address: Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok
Tel: 0 2095 9999
Website: https://sindhornwellness.com
Facebook: https://www.facebook.com/sindhornwellness
Instagram: https://www.instagram.com/sindhornwellness
Budget: 650 บาท++/คลาส, Ultimate Class 59,000 บาท++/ปี
Map: https://maps.app.goo.gl/spmSiKQqB1YtZM8x5
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- เบิร์นจัดเต็ม 55 นาที กับคลาสซิกเนเจอร์ ‘BASECAMP’ ที่ BASE เกษรอัมรินทร์
- ปั้นกล้ามท้องกับคลาส ‘HOWL CORE’ ที่ WOLF บูติกยิมไวบ์บ้านเพื่อนที่มี Live DJ ในตัว
- ใจฟูไม่หยุดกับ Puppy Yoga คลาสโยคะที่มีน้องหมามาเล่นด้วย