เข้าสู่ปีที่ 3 ของ Mahaniyom บาร์สีสันจัดจ้านบนชั้น 2 ของบ้านไม้เก่าริมถนนมหาเศรษฐ์ ที่ตอนนี้เพิ่งเปลี่ยนเมนูใหม่เกือบทั้งเล่มเป็นซีรีส์ ‘Resourceful Cocktail Menu Vol.3’ แน่นอนว่ายังคงปรัชญาเดิม เน้นการเลือกใช้วัตถุดิบแต่ละอย่างให้คุ้มค่าตามแนวคิด Zero Waste ซีรีส์นี้มีหลายดริงก์ที่น่าสนใจ เช่น Worm ที่ใช้หนอนมาเป็นส่วนผสมหลัก
The Vibe
เนื่องจากตั้งอยู่บนชั้น 2 ของบ้านไม้หลังเก่าเหนือร้านอาหาร ‘100 Mahaseth’ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชื่อของ ‘Mahaniyom’ ตั้งขึ้นมาเพื่อให้สอดคล้องกับร้านด้านล่าง ความหมายของมหานิยมคือความนิยมชมชอบ ความป๊อปปูลาร์ โดยทั้งหมดถูกสื่อสารผ่านการตกแต่งด้วยการนำเสนอบรรยากาศแบบไทยๆ แต่ร่วมสมัยและสนุกสนานมากขึ้น เช่น งานผ้าสีสันจัดจ้าน การจัดไฟให้ดูลึกลับแต่มีเสน่ห์ งานไฟดัดนีออน ฯลฯ
Worm
The Taste
สำหรับเมนูค็อกเทลซีรีส์ใหม่ ‘Resourceful Cocktail Menu Vol.3’ ยังคงดูแลโดย หนึ่ง-รณภร คณิวิชาภรณ์ Co-founder และบาร์เทนเดอร์มือดีดีกรีรางวัลที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาดีอยู่แล้ว ซึ่งซีรีส์นี้ยังคงยึดถือแนวคิดเดิม ‘Resourceful Cocktail’ หรือการเลือกใช้วัตถุดิบแต่ละอย่างให้เต็มที่คุ้มค่ามากที่สุดตามแนวคิด Zero Waste และยังคงเป็น 1 แก้ว 1 วัตถุดิบหลัก
เมนูที่อยากให้ลองคือ ‘Worm’ (480 บาท) เครื่องดื่มที่มาจากหนอน 3 ชนิด ได้แก่ หนอนไหมกับเตกีลาและเบอร์เบิน หนอนไผ่หรือรถด่วนกับช็อกโกแลตลิเคียวร์ และหนอนด้วงสาคูกับโยเกิร์ต แก้วนี้จะว่ากินง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็อาจจะยากสำหรับบางคน แต่ให้รสสัมผัสที่น่าสนใจ มีความฟรุตตี้เปรี้ยวอมหวาน มีความมัน ขณะเดียวกันก็ให้รสและกลิ่นของวัตถุดิบอย่างชัดเจน
‘Corn’ (480 บาท) เครื่องดื่มที่ใช้ส่วนต่างๆ ของข้าวโพดได้อย่างสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพดแห้งกับเบอร์เบิน, เส้นไหมข้าวโพดกับวอดก้า, นมข้าวโพด ไปจนถึงเปลือกข้าวโพด ก่อนจะเพิ่มความสโมกและเสริมรสให้บาลานซ์ด้วยเมซคาล น้ำมะนาวดอง และพริกหนุ่ม ใครที่ชอบดริงก์แนว Savory เราว่าคุณต้องชอบ
Corn (ซ้าย) และ Worm (ขวา)
Grape No.2
‘Longan’ (480 บาท) เป็นอีกแก้วที่พลาดไม่ได้ หลายคนโหวตให้แก้วนี้เป็นแก้วที่น่าสนใจประจำซีรีส์ โดยนำส่วนต่างๆ ของลำไยมาเป็นวัตถุดิบ เช่น ผลลำไยแห้งกับเหล้ารัม, วอดก้ารมควันไม้ลำไยและเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ และเมล็ดลำไยนำมาคั่วแห้งทำเป็นชา นำทุกอย่างมาผสมกับซิงเกิลมอลต์วิสกี้ แก้วนี้ส่วนตัวคิดว่าได้กลิ่นของลำไยน้อยไปหน่อย
อีกแก้วที่น่าสนใจเหมาะแก่การดริงก์ปิดท้าย ‘Grape No.2’ (480 บาท) แก้วนี้ได้ฟีลเดียวกับ Natural Wine แต่เราว่ากินง่ายกว่า สนุกกว่า ประกอบด้วยคอนยัค ใบองุ่น คอมบูชาองุ่นแดง และลูกเกด
Bamboo (ซ้าย) และมะแข่นดองกินคู่กับค็อกเทล (ขวา)
บรรยากาศร้าน (ซ้าย) และ Longan (ขวา)
Good for
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเครื่องดื่มในซีรีส์นี้เท่านั้น ยังมีอีกหลายแก้วที่น่าสนใจ เช่น Bamboo, Orange No.2, Guava หรือเมนูของกินเล่นที่ได้เชฟชาลีมาดูให้ สารภาพว่าเราชอบมะแข่นดองมาก อยากให้พวกคุณได้ลองชิม
ช่วงนี้ใครกำลังหาที่นั่งดื่มหรือแฮงเอาต์กับเพื่อน เราว่าถึงเวลาแล้วที่คุณจะแวะกลับไปมหานิยมกันอีกสักครา หรือใครที่ยังไม่เคยไปสักครั้ง การแวะไปเปิดประสบการณ์ดื่มค็อกเทลหนอนสักแก้วก็ถือว่าไม่เลวนะ
Mahaniyom Cocktail Bar
Location: ชั้น 2 ตึกเดียวกับ 100 Mahaseth ถนนมหาเศรษฐ์
Open: วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.00-00.00 น.
Budget: เริ่มต้นที่ 480 บาท
Facebook: www.facebook.com/profile.php?id=100076463540818
Instagram: www.instagram.com/mahaniyom.cocktailbar
Map: https://maps.app.goo.gl/S6kQurnph4vp8wNx7