เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยรู้สึกแบบนี้ คือบางทีเราก็อยาก “ไม่ทำอะไรเลย” แล้วพอเป็นแบบนั้นทีไร เสียงในหัวก็จะบอกว่า “นี่ฉันขี้เกียจอีกแล้วเหรอเนี่ย!” หรือบางทีก็เผลอไปตัดสินคนอื่นว่า “ทำไมถึงขี้เกียจจัง?”
แต่เดี๋ยวก่อน วันนี้มีมุมมองที่น่าสนใจจากนักจิตวิทยาตัวท็อป 2 ท่าน ที่จะมาช่วยไขข้อข้องใจ และเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับความขี้เกียจของเราไปเลยก็ได้นะ
เมื่อความขี้เกียจไม่ได้แปลว่าขี้เกียจเสมอไป
จากหนังสือที่โด่งดังอย่าง Laziness Does Not Exist (ความขี้เกียจไม่มีอยู่จริง) ของ Dr. Devon Price นักจิตวิทยาและอาจารย์ด้านพฤติกรรมจากมหาวิทยาลัย Loyola Chicago ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจมากว่า
“การไม่ทำอะไรเลย ไม่ได้หมายความว่าเราขี้เกียจ แต่มันคือการที่ร่างกายและสมองกำลังฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติ”
Dr. Devon Price อธิบายว่าบ่อยครั้งสิ่งที่สังคมตัดสินว่าเป็นความขี้เกียจ แท้จริงแล้วคือสัญญาณที่ร่างกายและจิตใจของเรากำลังบอกว่า “ฉันไม่ไหวแล้วนะ ขอพักหน่อย!” มันอาจเป็นการหมดไฟ (Burnout), ภาวะเครียดสะสม, ความวิตกกังวล, หรือแม้กระทั่งร่างกายกำลังต่อสู้กับอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ที่เราไม่รู้ตัว
ลองคิดดูว่าในแต่ละวันเราเจออะไรมาบ้าง? สมองของเราทำงานหนักกว่าที่เราคิดเยอะเลย
โอบกอดตัวเอง… เพื่อส่งสัญญาณว่า “เราปลอดภัยแล้วนะ”
แล้วพอเรารู้สึกว่าอยากพัก การได้หยุดนิ่งๆ เฉยๆ มันช่วยได้จริงๆ และถ้าจะให้ดีขึ้นไปอีก ขอแนะนำเทคนิคเล็กๆ ที่ Dr. Kristin Neff นักจิตวิทยาและนักวิจัยเรื่อง Self-compassion ได้กล่าวไว้ว่า “การสัมผัสตัวเองอย่างอ่อนโยน เช่น โอบกอดตัวเอง หรือวางมือลงบนหน้าอก จะส่งสัญญาณให้ระบบประสาทรู้ว่า ตอนนี้เราปลอดภัยแล้ว”
การที่เราสัมผัสตัวเองเบาๆ ไม่ว่าจะเป็นการกอดตัวเองแน่นๆ หรือแค่วางมือลงบนหน้าอก หรือท้องเบาๆ แล้วค่อยๆ หายใจเข้าออกช้าๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยปลอบประโลมระบบประสาทของเราจากโหมด ‘พร้อมสู้’ ไปสู่โหมด ‘ผ่อนคลาย’ มันคือการบอกตัวเองว่า “ไม่เป็นไรนะ ฉันอยู่ตรงนี้กับเธอ” ซึ่งจะช่วยลดความตึงเครียด และทำให้เรารู้สึกสงบ ปลอดภัย และอุ่นใจขึ้นได้จริงๆ
แล้วเราจะเอา “ความรู้สึกไม่ทำอะไรเลย” มาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ยังไง?
ง่ายๆ เลยให้ลองเริ่มจาก
- หยุดตัดสินตัวเอง เลิกคิดว่าตัวเอง ‘ขี้เกียจ’ เมื่อรู้สึกอยากพัก ลองเปลี่ยนเป็น “ร่างกายและสมองของฉันต้องการการฟื้นฟู” แทน
- ฟังเสียงร่างกาย สังเกตว่าความรู้สึกไม่อยากทำอะไรเกิดขึ้นเมื่อไหร่? มันอาจเป็นสัญญาณว่าเราเหนื่อยเกินไปแล้วหรือเปล่า?
- ให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ บางทีการนอนเฉยๆ ดูซีรีส์ หรือนั่งจิบกาแฟเงียบๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย ก็เป็นการชาร์จพลังที่ดีที่สุดแล้ว
- ลองใช้เทคนิค Self-soothing โอบกอดตัวเอง วางมือบนอก หายใจช้าๆ ช่วยได้เยอะเลย
- อย่าลืมว่าการพักผ่อนไม่ใช่ความผิด การหยุดนิ่งๆ ก็ไม่ใช่การขี้เกียจ แต่คือการให้โอกาสร่างกายและจิตใจได้เยียวยาตัวเอง เพื่อที่เราจะได้กลับมามีพลังพร้อมลุยกับทุกสิ่งอีกครั้ง ดูแลตัวเองให้ดี เราขอเป็นกำลังใจให้เสมอนะ