อาหารชั้นเลิศไม่จำเป็นต้องจับคู่กับไวน์เสมอไป เพราะหากทุกคนลองเปิดเมนูเครื่องดื่มในร้านอาหารหรูหรือไฟน์ไดนิ่ง จะพบว่าบนลิสต์เหล่านั้นไม่ได้มีเพียงไวน์ แชมเปญ หรือเหล้าสีเข้มสุดลักซ์ชัวรี แต่ยังมีเครื่องดื่มอีกชนิดหนึ่งที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็คือ ‘สาเก’ เครื่องดื่มดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นที่สามารถจับคู่กับอาหารแล้วช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ได้ไม่แพ้เครื่องดื่มชนิดอื่นๆ
“ ‘HEAVENSAKE’ เป็นแบรนด์สาเกพรีเมียมที่เกิดจากความตั้งใจในการยกระดับสาเกให้กลายเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลกในฐานะ Fine Beverage แบรนด์เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง Carl Hirschmann ผู้หลงใหลในวัฒนธรรมสาเกญี่ปุ่น และ Régis Camus นักผลิตแชมเปญชื่อดังระดับโลก พวกเขาหลงใหลในสาเกและมีวิสัยทัศน์เดียวกัน คือการผลักดันสาเกให้ก้าวข้ามขอบเขตเดิมๆ” แซค กร๊อซ (Zak Gross) Global Manager และ Partner ของแบรนด์ HEAVENSAKE กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของแบรนด์
การทำสาเกต้องอาศัยความพิถีพิถันไม่แพ้ไวน์หรือแชมเปญชั้นดี อีกทั้งสาเกยังมีเอกลักษณ์และต้องอาศัยความเชี่ยวชาญอย่างมาก จุดเด่นหนึ่งของ HEAVENSAKE คือการทำงานร่วมกับโรงกลั่นสาเกที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่น อาทิ Dassai, Noguchi Naohiko, Niizawa, Urakasumi, Katsuyama, Dewazakura, Shichiken หรือ Konishi เพื่อผลิตสาเกที่มีเอกลักษณ์ และสามารถจับคู่กับอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ไม่จำกัดเพียงอาหารญี่ปุ่น แต่รวมไปถึงอาหารไฟน์ไดนิงและวัตถุดิบระดับโลก เช่น คาเวียร์ สเต็กเนื้อ ฟัวกราส์ ก็สามารถรับประทานคู่กันได้ ไปจนถึงร้านอาหารระดับ 2 ดาวมิชลินในกรุงเทพฯ อย่าง Mezzaluna ก็เลือกสาเกจาก HEAVENSAKE เข้ามาใช้ในร้านเช่นกัน
“เสน่ห์ของแบรนด์ HEAVENSAKE คือการผสมผสานวัฒนธรรมการทำเครื่องดื่มของชาวญี่ปุ่นและชาวฝรั่งเศสให้เข้ากันอย่างไร้ที่ติด้วยกรรมวิธีพิเศษที่ HEAVENSAKE นำมาใช้ในการทำสาเกเป็นเจ้าแรก ซึ่งวิธีนั้นช่วยดึงเสน่ห์ของสาเกให้แจ่มชัดขึ้น นี่คือสิ่งที่ทำให้ HEAVENSAKE แตกต่างจากผู้อื่น” แซคกล่าวเสริม
ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ แซคบอกว่าเปรียบสาเกเสมือนเปียโน สิ่งที่ Régis ทำคือการเติมวงออร์เคสตราเข้าไป สาเกแต่ละชนิดจากแต่ละโรงกลั่นจึงมีจังหวะและคาแร็กเตอร์เฉพาะตัว โดยเทคนิคที่พวกเขาใช้คือการ Assemblage ซึ่งแตกต่างจากเทคนิค Blending ที่เป็นเทคนิคดั้งเดิมในการทำสาเกของชาวญี่ปุ่น
นอกจากการตามหาโรงกลั่นและนักกลั่นสาเกที่ดีที่สุดทั่วประเทศญี่ปุ่น อีกสิ่งที่ HEAVENSAKE ให้ความสำคัญอย่างมากก็คือ การออกแบบขวดที่แตกต่างจากสาเกดั้งเดิม ขวดสาเกของ HEAVENSAKE นอกจากจะมีดีไซน์ทรงหยดน้ำเป็นเอกลักษณ์แล้ว ขวดสาเกรุ่นพิเศษ Prestige ยังทำขึ้นจากเซรามิกล้วน มีสีขาวมน มีสันปากขวดและรูปทรงแปลกตา โดยขวดนี้ทำจากโรงผลิตเซรามิกชั้นนำของญี่ปุ่น Arita Porcelain Lab ทำให้มีความสะดุดตาชวนให้อยากทำความรู้จัก
“พวกเรามีความคิดเดียวกันคือ ในเมื่อภายในเต็มไปด้วยความพิถีพิถันและงดงาม ภายนอกก็ควรดูหรูหราและสง่างามเช่นกัน พวกเราจึงออกแบบขวดสาเกแต่ละชนิดให้แตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์” แซคเล่าให้ฟังถึงที่มาของขวดสาเกรูปทรงคล้ายหยดน้ำ ซึ่งแบรนด์ตั้งใจออกแบบมาให้หรูหราและง่ายสำหรับการรินใส่แก้ว
เมื่อพูดถึงการแพริ่งสาเกกับอาหาร แม้หลายคนอาจไม่คุ้นชินมากนัก แต่สาเกมอบประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป แซคเล่าให้ฟังว่าในประเทศฝั่งตะวันตกและอเมริกาเริ่มมีการพูดถึงสาเกมากขึ้นเรื่อยๆ และนำมาใช้ในร้านอาหารหรูหลายแห่ง
“สาเกมีหลายคาแร็กเตอร์และสามารถจับคู่กับอาหารได้อย่างสวยงามไม่แพ้ไวน์ สิ่งที่ทำให้ผมหลงใหลในการดื่มสาเกคู่กับอาหาร โดยเฉพาะสาเกของ HEAVENSAKE คือการที่มันช่วยขยายรสสัมผัส มอบกลิ่นหอมอะโรมา และจับคู่กับอาหารทุกประเภทได้อย่างน่าประทับใจตั้งแต่แรกเห็น”
แซคอธิบายเพิ่มถึงประสบการณ์ส่วนตัวในการแพริ่งสาเกกับอาหารว่า บางครั้งสาเกสามารถจับคู่กับอาหารบางชนิดที่ไวน์ทำไม่ได้ ทว่าความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ หลายครั้งเราเสิร์ฟไวน์เพื่อตัดรส (Clash) ในขณะที่สาเกช่วยเสริมรสชาติ (Enhance) ในหลายๆ ครั้งสาเกจึงช่วยดึงเสน่ห์ของอาหารจานนั้นได้มากกว่านั่นเอง
หลังจากแบรนด์ HEAVENSAKE ได้ทำการเปิดตัวทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น ตอนนี้ถึงคราวประเทศไทยได้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่แล้ว โดยผู้นำเข้า HEAVENSAKE ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการคือ The Sake Merchant ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสาเกพรีเมียม สาเกหายาก และสาเกเชิงงานฝีมือ (Artisanal Sake) ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิการขนส่งไว้ระหว่าง 0 ถึง -5 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ต้นทางจนถึงห้องเก็บในประเทศไทย รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากร้านอาหารชั้นนำในเมืองไทย ก่อตั้งโดย กอล์ฟ-ธนพิสิฐ จีรวงศ์ไกรสร ผู้มีความหลงใหลในสาเก อีกทั้งมีความรู้และความเชี่ยวชาญในการแพริ่งสาเกซึ่งได้รับการยอมรับในวงการสาเกญี่ปุ่น เป็นสาเกซอมเมอลิเยร์และเป็นคนไทยหนึ่งเดียวที่เคยได้รับเลือกจากสมาคมผู้ผลิตสาเกและโซจูของญี่ปุ่น (Japan Sake and Shochu Makers Association หรือ JSS) ให้เป็นตัวแทนประเทศไทย
“The Sake Merchant คือผู้จัดจำหน่าย HEAVENSAKE ประจำประเทศไทย และเป็นผู้ทำให้เกิดดินเนอร์แพริ่งอาหารกับสาเก ณ ร้านอาหารหลายๆ แห่งในประเทศไทยด้วย ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดี เนื่องจากร้านอาหารหลายๆ แห่งทั่วโลกเริ่มนิยมจับคู่สาเกกับอาหาร อีกทั้ง HEAVENSAKE ยังสร้างขึ้นมาเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ รวมถึงให้บรรยากาศสนุกสนานและความตื่นเต้นกับผู้คน พวกเราตั้งใจผลักดันสาเกให้กลายเป็นเครื่องดื่มที่ผู้คนทั่วโลกหลงใหลและชื่นชม” แซคกล่าวทิ้งท้าย
HEAVENSAKE นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย @thesakemerchant
สามารถสอบถามหรือติดตามอีเวนต์ของพวกเขาเพิ่มเติมได้ที่
📸 Instagram: @heavensake และ @thesakemerchant