Gaggan at Louis Vuitton ร้านอาหารแห่งแรกของ LV ในแถบเอเชียใต้ ณ ราชประสงค์

ไม่ว่าใครเดินผ่านก็ต้องหยุดสายตามองดีไซน์ที่สวยหรูหราตั้งแต่ด้านหน้าของ LV The Place Bangkok สโตร์แห่งใหม่ล่าสุดของแบรนด์ Louis Vuitton ที่ตั้งใจรวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว ตั้งแต่รีเทลสโตร์ นิทรรศการ คาเฟ่ ไปจนถึงร้านอาหารที่ใช้ชื่อว่า ‘Gaggan at Louis Vuitton’ ซึ่งถือว่าเป็นร้านอาหารแห่งแรกในแถบเอเชียใต้ของแบรนด์แฟชั่นระดับโลกแบรนด์นี้

โดย Louis Vuitton เลือกคอลแลบกับเชฟชาวอินเดียชื่อดังอย่าง กากัน อนันต์ (Gaggan Anand) ให้เป็นผู้รับหน้าที่ดึงตัวตน ความสนุก และรสชาติของแบรนด์ Louis Vuitton ที่มีมาอย่างยาวนานให้ออกมาเป็นมื้ออาหารที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ แปลกใหม่ แต่ก็ยังทันสมัยเข้ากับบรรยากาศ

ส่วนรสชาติที่ว่าจะน่าสนใจแค่ไหน เราจะพาทุกคนไปชิมพร้อมๆ กัน

The Vibe

Gaggan at Louis Vuitton เปิดอยู่บนชั้น 2 ของสโตร์ ทุกคนต้องเดินเข้าไปด้านในรีเทลสโตร์จึงจะเห็นด้านหน้าร้านที่มี Trunks ซิกเนเจอร์ตั้งรออยู่ด้านหน้า ส่วนบรรยากาศด้านในออกแบบเน้นความสดใส ดูอบอุ่นแต่ก็สนุกสนาน แฝงด้วยความเรียบง่าย แต่ก็ซ่อนดีเทลลักชัวรีไว้ตามจุดต่างๆ ให้เรามองหา เช่น โคมไฟหรือแก้วที่มีลายดอกไม้โมโนแกรม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Louis Vuitton

The Taste

ถ้าใครที่รู้จักเชฟกากัน อนันต์ น่าจะคุ้นกับหลายๆ เมนูที่จะได้ชิม แต่สำหรับที่นี่เชฟจะมีเมนูประจำฤดูกาลที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อ Louis Vuitton ด้วย และทุกคอร์สจะมาในคอนเซปต์ 5S คือ Sweet, Sour, Salty, Spicy และ Surprise

อย่างวันนี้เราได้ลองเมนูมื้อกลางวัน 8 คอร์ส (หากเป็นมื้อค่ำจะเสิร์ฟ 17 คอร์ส) แต่ก็มีจานซิกเนเจอร์ของเชฟกากันให้ลองอยู่หลายจาน เริ่มจากคำแรก Yoghurt Explosion เป็นโยเกิร์ตที่จะเสิร์ฟบนแคนดี้ลายดอกไม้โมโนแกรมของ Louis Vuitton ให้เรากินกับมือ

ก่อนตามด้วย Lick It Up จานซิกเนเจอร์ของเชฟกากันที่ทุกคนต้องจำได้ เพราะเราต้องยกจานขึ้นมาเลียซอสที่ทำเป็นลายดอกไม้โมโนแกรม

Charcoal จะเปลี่ยนไส้ไปตามฤดูกาล อย่างตอนนี้เป็นกุ้งหวานห่อใบชิโสะ ด้านนอกเคลือบด้วยผงผักเทมปุระ และมีซอสชิโสะด้านบน

World Map เกิดจากความชอบเดินทางท่องโลกของทั้งเชฟและแบรนด์ เพื่อตามหาประสบการณ์ใหม่ๆ และสิ่งใหม่ๆ จึงกลายเป็นของกิน 3 คำ คือ แซนด์วิชแมงโกยูซุฟัวกราส์ ทาร์ตแฮมทูน่าและคาเวียร์ และป๊อปปูลาร์เฟลเวอร์ ซึ่งก็คือต้มยำกุ้งในซองใสที่กินได้ทั้งคำ

ต่อจากเกี๊ยวซ่าอินเดีย Damier Momo ที่เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากลายกระเป๋าของ Louis Vuitton ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1888 ก็ตามด้วย Tomato Nectar เป็นคอร์สที่เราชอบมาก เชฟทำไอศกรีมบูราตาเสิร์ฟมาในชามน้ำแข็งแกะสลักด้วยมือ ก่อนเสริมรสชาติด้วยน้ำมะเขือเทศสีแดงตัดกัน

เมนคอร์ส Rice & Curry มีให้เลือกทั้งเนื้อ ปู และปลา เราได้ลองเป็นแกงปูที่ใช้เนื้อปูจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี กินคู่กับข้าวบาสมาติ Long Grain

ปิดท้ายด้วย Dream Big ที่ได้เชฟจาก Kyo Bar มาช่วยรังสรรค์จานของหวาน เป็นไอศกรีมมะยงชิดกับเมอแรงก์มะกรูด ซึ่งรสชาติไอศกรีมจะเปลี่ยนไปตามผลไม้ประจำฤดูกาลเช่นกัน

Good for

Gaggan at Louis Vuitton น่าสนใจตรงการผสมศิลปะการทำอาหารเข้ากับแฟชั่น จนเกิดเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ เราเชื่อว่าหากใครมาลองก็ต้องตื่นเต้น อีกทั้งบรรยากาศที่ซ่อนอยู่ด้านในรีเทลสโตร์ เมื่อทุกคนกินเสร็จแล้วจะไปเดินช้อปปิ้งคอลเล็กชันใหม่ล่าสุดต่อด้วยก็ได้