คนรักอูนิตัวจริงน่าจะรู้จักและเป็นแฟนของ Omakanesh ผู้ให้บริการ Uni Delivery เจ้าแรกของไทย โดย แดนนี่-ดานิเอล เบล็สซิ่ง กันดีอยู่แล้ว นอกจากจะให้บริการส่งตรงอูนิแบบยกกล่องทั่วไทยถึงบ้านแล้ว ปีนี้ยังเป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ของ Omakanesh ซึ่งหลังจากที่มีเสียงเรียกร้องจากแฟนๆ ให้เปิดหน้าร้านกันมานาน ล่าสุดเจ้าของอย่างแดนนี่จึงได้ฤกษ์เปิดอูนิบาร์เต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศไทยอย่าง Do:Kut 洞窟 by Omakanesh ที่แทบทุกเมนูที่เสิร์ฟเน้นไปที่อูนิ เพื่อเป็นการนำเสนอประสบการณ์รับประทานอูนิในรูปแบบใหม่ๆ ให้กับทุกคน
The Vibe
ห้องเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่ภายในโครงการพิมาน 49 ถูกจำลองให้ดูคล้ายกับถ้ำ สมกับคำภาษาญี่ปุ่นว่า Dōkutsu ที่แปลว่า ‘ถ้ำ’ แต่เพื่อความสนุกและเรียกให้ง่ายเข้าจึงตัดพยางค์ท้ายออก เหลือแค่ ‘Do:Kut’ ซึ่งเป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า ‘ดูคัต’ ของภาษาไทย หรือ ‘Do / Cut’ ในภาษาอังกฤษ ที่ล้วนมีความหมายเกี่ยวข้องกับการเลือกสรรและปรุงสิ่งดีๆ ออกมาให้ผู้มาเยือนได้ชิม
ใช่แล้ว…นี่คือถ้ำลับใต้ทะเลที่เสิร์ฟสารพัดของอร่อยโดยเฉพาะอูนิ ภายในร้านมีเพียงเคาน์เตอร์บาร์ยาวและสเตชันทำงานของเชฟทางด้านหลัง ภายในถ้ำบรรยากาศขรึมแห่งนี้จึงเน้นความใกล้ชิดกันระหว่างลูกค้าและเชฟที่ปรุงโชว์เสิร์ฟของอร่อยให้เราได้ลิ้มรส
The Taste
จานต้อนรับวันนี้คือ Uni Shot ซึ่งเป็น Complementary และไม่มีอยู่ในเมนู ช็อตนี้ได้ทั้งความหวานนุ่มละมุนของอูนิ เติมความครีมมี่ด้วยไข่นกกระทาและเท็กซ์เจอร์ของอิคุระ เพิ่มความหอมพ่วงดีกรีแรงด้วยสาเกกับวอดก้า แนะนำให้กระดกทั้งหมดในช็อตเดียว ช่วยเปิดประสาทสัมผัสให้รับประทานอาหารจานต่อไปได้เป็นอย่างดี
ตามด้วยไฮไลต์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Do:Kut นั่นคือ Uni Tasting Set (1,590 บาท) เซ็ตนี้เสิร์ฟอูนิตามฤดูกาลประจำวันมา 3 แบบ ซึ่งแต่ละอย่างแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ แบรนด์ผู้ผลิต และแหล่งน่านน้ำที่มา รับประกันความสด เพราะของเข้าใหม่เป็นประจำทุกวัน
ความสนุกอยู่ที่อูนิในเซ็ตนี้จะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปให้ได้ลอง จะกินเพียวหรือกินคู่กับข้าวซูชิและสาหร่ายที่เสิร์ฟมาพร้อมกับเซ็ตก็ได้ และถ้าคุณชอบอูนิสายพันธุ์บาฟุนหรือมูราซากิตัวไหนเป็นพิเศษ อาจจะสั่งตัวนั้นแบบยกกล่องกินให้จุกๆ เลยก็ยังได้ เช่นเดียวกับที่สามารถสั่งท็อปปิ้งอย่างคาเวียร์และแบล็กทรัฟเฟิลแยกมาท็อปอัพเมนูต่างๆ เองได้อีกด้วย (อูนิ 500 บาท คาเวียร์ 400 บาท และแบล็กทรัฟเฟิล 490 บาท)
ส่วนเมนูในกลุ่ม Starter มีเมนูที่ไม่ได้มีอูนิเป็นส่วนผสมให้เลือกอยู่บ้าง เช่น Hokkaido Scallop Salad (590 บาท) หอยเชลล์ฮอกไกโดสดตัวใหญ่ย่างสุกพอดิบพอดี รับประทานกับผักสลัดและเดรสซิ่งน้ำมันงา
และอีกจานคือ Ibérico De Bellota (850 บาท) แฮมหมูดำไอเบริโกเกรดพรีเมียมเอจนาน 36 เดือน ให้รสชาติและกลิ่นหอมอ่อนๆ เข้มข้น
กลับมาที่เมนูอูนิกันต่อกับ Monk Fish (Anko) Liver Topped with Uni (590 บาท) ตับปลาอังโกะทั้งเข้มและนุ่ม ท็อปอูนิให้ยิ่งละมุนครีมมี่ เสริมความสดชื่นด้วยซอสพอนสึ
กับอีกหนึ่งเมนูไฮไลต์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Do:Kut อย่าง Uni Toast (990 บาท) ขนมปังปิ้งหน้าอูนิแบบจัดเต็มถึงใจ หรือจะเลือกเป็น Wagyu A5 Toast (1,290 บาท) ขนมปังปิ้งหน้าเนื้อวากิว A5 ท็อปอัพความอร่อยด้วยอูนิและคาเวียร์ จานนี้รับประกันได้เลยว่าคนรักเนื้อและอูนิจะต้องเลิฟและฟินมาก
หรือถ้าคุณอยากกินเนื้อแบบจัดเต็ม จะสั่ง Hiroshima Wagyu A5 Steak (890 บาท) สเต๊กเนื้อวากิวขนาด 100 กรัม ย่างมาแบบมีเดียมแรร์พอดิบพอดี และยังมีเนื้อชนิดอื่นๆ ให้เลือกอีก
ไม่ใช่แค่นั้น ในวันนี้ทางร้านยังเสิร์ฟเมนูพิเศษ Good Fat Fried Rice ซึ่งเป็นไอเท็มลับที่ไม่ได้อยู่ในเมนูหลัก มีเฉพาะในเซ็ตเมนูให้เราชิม (สอบถามราคาได้ที่ร้าน) มันเนื้อผัดกับข้าวญี่ปุ่นร่วนหนึบหอมอร่อยมาก ยิ่งมี Suwai Soup (290 บาท) ซุปขาปูหิมะมากินคู่ เข้ากันได้ดีมาก
ส่วนใครที่ชอบซูชิ ที่ Do:Kut ก็มี Best of Sushi Set ซูชิพรีเมียมประจำวันเสิร์ฟสไตล์โอมากาเสะปั้นกันสดๆ ให้เลือกชิมตามระดับความหิวและงบประมาณ ทั้งแบบเซ็ต 3 คำ และ 9 คำ (590 บาท และ 1,890 บาท)
นอกจากนี้ยังมีจานหนักท้องที่เป็นพาสต้าอย่าง Truffle Pappardelle Pasta with Scallop & Uni (1,790 บาท) พาสต้าเส้นแบนขนาดใหญ่ในซอสทรัฟเฟิลครีม ท็อปหอยเชลล์ อูนิ และอิคุระ
ด้านของหวานเราตบท้ายกันด้วย Mochi Ice (250 บาท) โมจิไอศกรีมหวานเย็นสดชื่น 3 แบบ ทั้งบานาน่าชีส ชาเขียว และทรัฟเฟิลอัลมอนด์ แต่ที่ว้าวและน่าลองมากคือในเมนูยังมี Uni Cheesecake (250 บาท) ซึ่งน่าเสียดายที่เราไม่ได้ลองเพราะวันที่ไปของหมดพอดี ดังนั้นถ้าใครอยากชิมแนะนำให้โทรมาสั่งจองไว้ล่วงหน้า เพราะของหมดเร็วมากๆ
Good for
คนที่ชอบกินซูชิ อูนิ และเนื้อวากิวจะต้องชอบร้านนี้ ข้อดีของ Do:Kut คือการ Position ตัวเองว่าเป็นอูนิบาร์ที่ให้คนได้สนุกกับการเลือกสั่งอาหาร โดยไม่จำกัดว่าจะต้องสั่งอาหารยกชุดเหมือนโอมากาเสะ ทว่าในขณะที่มี À la carte ก็ยังมีเซ็ตเมนูให้เลือกสั่งด้วย แถมบางเมนูในเซ็ตยังเป็นเมนูพิเศษที่ไม่มีอยู่ในเมนู À la carte และถ้าอยากเพิ่มความพรีเมียมก็สั่งท็อปปิ้งที่ชอบมากินต่อให้จุกๆ จนจุใจ แต่แนะนำให้สำรองที่นั่งกันก่อนดีกว่า Walk-in เพราะร้านเล็กมาก รองรับได้แค่ครั้งละ 8-10 คนเท่านั้น
Open: เปิดทุกวันยกเว้นวันอังคาร ให้บริการระหว่าง 17.00-22.00 น. โดยแบ่งเป็น 2 รอบ คือ 17.00 น. และ 19.30 น.
Address: 46 โครงการพิมาน 49 ซอยสุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
Tel: 09 5603 0228
Facebook: Do:Kut 洞窟 by Omakanesh
Budget: 1,000-5,000 บาท
Map:
ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์