เชื่อว่าใครที่ขับรถผ่านซอยเลียบคลองประปาจะต้องสะดุดตากับร้านอาหารห้องกระจกอย่าง Brooks Brunch & Bar ด้วยไวบ์ที่แค่มองจากด้านนอกก็ดูโปร่งสบาย เชิญชวนให้เข้าไปนั่ง ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งของ The Botanic Service Room โรงแรมที่ก่อตั้งโดย วิลลี่-สหัสพล วิรุฬหกุล ที่ตั้งใจต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่ให้กับโรงแรม อีกทั้งยังเป็นทางเลือกร้านอาหารสไตล์บรันช์และบาร์ให้แขกที่มาพัก
นอกจากวิลลี่แล้ว อีกมันสมองที่ขาดไม่ได้สำหรับร้านนี้เลยคือ มาย-พีรมณฑ์ นาคะพรหม รุ่นน้องที่รับบทเป็นผู้บริหารร้าน ผู้ซึ่งเล่าให้เราฟังอย่างติดลมถึงจุดเริ่มต้นของร้านนี้ “เราขอเป็นตัวแทนหมู่บ้านชาวนนทบุรี ปากเกร็ด ในการทำร้านสไตล์บรันช์และบาร์เอง”
มายเล่าให้เราฟังว่าวันใดที่อยากกินบรันช์หรือไปบาร์ดีๆ ก็ต้องขับรถเข้าเมือง วันไหนที่อยากดื่มไวน์ก็ต้องเข้าร้านอิตาเลียนหรูไปเลย และพอได้พูดคุยโยนไอเดียกับวิลลี่ก็พบว่าตนเป็นคนชอบดื่มทั้งคู่ เลยเกิดไอเดียการเนรมิตพื้นที่ส่วนที่ไม่ได้ใช้ของโรงแรมเป็นร้านบรันช์และมีค็อกเทลแบบจริงจัง รวมถึงการเพิ่มลิสต์ไวน์เข้าไปเพื่อความเข้าถึงง่ายมากขึ้น
The Vibe
สีเขียวที่ถูกดึงมาจากสีแบรนดิ้งของ The Botanic Service Room สีสันที่มายชอบ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ ที่เดินผ่านแล้วสะดุดตาเลยซื้อ ทำให้การตกแต่งภายในร้านมีสไตล์ Contemporary โดยความตั้งใจหลักของมายคือทำให้ใครก็ตามที่เห็นภาพถ่ายมุมต่างๆ ภายในร้านทางโซเชียลแล้วจำได้ว่านี่คือร้าน Brooks Brunch & Bar
ซึ่งมุมมหาชนของร้านคือบริเวณหน้าบาร์ที่มีเก้าอี้สีเหลืองสั่งทำพิเศษเรียงรายเป็นระเบียบ รวมถึงลวดลายหินอ่อนบนเคาน์เตอร์ที่ประกอบกันแล้วถือว่าสร้างภาพจำได้ไม่น้อย เอาเป็นว่าใครที่เป็นสายคอนเทนต์น่าจะถูกใจบรรยากาศที่นี่เลยละ มีมุมสวยๆ ให้เลือกเก็บแน่นอน
The Taste
ด้วยความที่มายและวิลลี่ชอบเดินทางตระเวนชิมร้านรวงจากหลากหลายที่ทั้งในและต่างประเทศ เมนูของร้านส่วนใหญ่เลยได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารที่ชอบจากทั่วทุกมุมโลก ที่ถูกนำมาทวิสต์รสชาติเพื่อคนไทย โดยเน้นวัตถุดิบเป็นหลัก
Brooks’ Plate (345 บาท) จานซิกเนเจอร์ที่มัดรวมความอร่อยแบบคลาสสิกไว้ครบ ไม่ว่าจะเป็นขนมปังและแฮชบราวน์สูตรโฮมเมด แซลมอนรมควัน ผักอบชีส เห็ดและไข่ที่ทำออกมาได้หอมอร่อยลงตัว และที่เด็ดเลยคือเบคอนฮันนี่มิโสะเกลซสูตรพิเศษของร้านที่ไม่เหมือนที่ไหน ใครมาคนเดียวแล้วเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไร เลือกจานนี้ได้เลย
ถ้ามาเป็นก๊วนเพื่อนหลายคน แนะนำให้สั่ง Bacon Pancake (185 บาท) ตึกเบคอนแพนเค้กสูงหลายชั้นที่มีรูฟท็อปเป็นไข่ดาว พอราดคาราเมลกินตอนร้อนๆ แล้วไม่ต้องบอกว่าฟินแค่ไหน
Focaccia Sandwich (270 บาท) เต็มปากเต็มคำกับขนมปังโฮมเมดนุ่มกรอบที่อัดแน่นไปด้วยพาร์มาแฮมรสเข้มข้นที่พอเจอรสชาติความสดกรอบของมะเขือเทศแล้วยิ่งอร่อย
ยกให้เป็นจานติดดาวที่ต้องสั่งสำหรับ Grilled Duck Breast Salad (320 บาท) สลัดอกเป็ดย่างหนังกรอบกับผักสดท็อปด้วยซอสส้มหอมเตะจมูก ซึ่งเป็นไฮไลต์ของจานนี้เลย ถือเป็นจานที่ปลุกความสดชื่นได้เป็นอย่างดี
Classic Carbonara (295 บาท) เชื่อว่าถ้าคุณได้ลิ้มลองสปาเกตตีคาร์โบนาราสูตรของที่นี่จะต้องรู้สึกถึงความแตกต่างกับที่อื่นแน่นอน ด้วยการไม่ใช้ครีม มีเพียงไข่กับชีส และเพิ่มความหอมด้วยการเจียวกวนชาเล่หรือแก้มหมูรมควันผสมเบคอนเพื่อเพิ่มความเค็มในอีกมิติ
Picanha Steak (795 บาท) สเต๊กพิคานย่าที่ย่างความสุกมีเดียมแรร์เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสชื่อเก๋อย่างคาเฟ่ เดอ ปากเกร็ด ที่มีเบสเป็นมัสตาร์ด ผักย่าง และสลัดร็อกเก็ตราดบัลซามิก ตัวเนื้อจะไม่ได้หมักรสมาจัดจ้านมาก พอกินกับซอสและเครื่องเคียงแล้วจะได้รสชาติลงตัวพอดี
Maple Bacon Muffin (160 บาท) คอมบิเนชันคาวหวานที่เจอกันแล้วอร่อยไปอีกแบบ ตัวเบคอนมัฟฟินจะมีส่วนครัมเบิลให้เคี้ยวเพลินๆ ยิ่งกินคู่กับซอสเมเปิ้ลและครีมนมละมุนที่เสิร์ฟมาด้วยยิ่งอร่อย
สายช็อกโกแลตห้ามพลาดกับ Chocolate Tart (145 บาท) เต็มรสกับมูสช็อกโกแลตเข้มข้นท็อปมาด้วยมิกซ์เบอร์รีเปรี้ยวถึงใจ ที่กินด้วยกันแล้วตัดรสกันได้ดี แนะนำให้ตักให้ถึงฐานขนมด้านล่างด้วย จะได้อร่อยเต็มคำทุกเท็กซ์เจอร์
มาในส่วนของเครื่องดื่มกันบ้าง ถ้าเป็นสายกาแฟ ที่นี่จะมีเมล็ดกาแฟอยู่สองตัวคือ Brooks Blend แบบคั่วกลางที่ใช้พันธุ์เมล็ดกาแฟจาก สปป.ลาว กัวเตมาลา และโคลัมเบีย โน้ตจะมีความนัทตี้นำและฟรุตตี้เล็กๆ ส่วนใครที่ชอบเข้มเลยก็จะเป็น Dark 334 เบลนด์ไทย-ลาว จะติดสโมกไปเลยซึ่งนิยมเสิร์ฟกับนม
สำหรับ Black Orange (140 บาท) กาแฟส้มที่เราสั่งในครั้งนี้ใช้เป็น Brooks Blend และส้มคั้นสดจากส้มเขียวหวานและส้มโชกุน ซึ่งที่นี่ใช้มากถึง 7 ลูกต่อแก้วเลยทีเดียว ซึ่งที่นี่จะมีการเติมไซรัปบ้างเพื่อปรับรสชาติ ไม่ได้เปรี้ยวโดดจนเกินไป แต่หากไม่อยากใส่เลยก็สามารถแจ้งทางร้านได้เช่นกัน
สำหรับสายชาแนะนำให้ลอง Brooks Iced Tea (120 บาท) ชามิกซ์เบอร์รีและลิ้นจี่หอมสดชื่น
หลังจากอิ่มเอมกับบรันช์ในช่วงเย็นไปแล้ว (อย่างที่บอกว่าเราจะกินบรันช์เวลาไหนก็ได้) มาปรับมู้ดเปลี่ยนบรรยากาศนั่งดื่มหน้าบาร์กันบ้าง ที่นี่มีค็อกเทลให้เลือกเยอะจริงๆ
ขอเริ่มกันที่แก้วสวยเด่นสะดุดตาอย่าง The Garden (310 บาท) ค็อกเทลซิกเนเจอร์เบสเป็น Umeshu Genshu และ Gin เพิ่มความเปรี้ยวสดชื่นด้วยแพสชันฟรุต มะนาว และเบอร์รีไซรัป สายเหล้าบ๊วยน่าจะถูกใจแก้วนี้เลยละ
หากชอบความหนักแน่นต้องลองแก้วสปิริตฟอร์เวิร์ดอย่าง First Kiss (300 บาท) ที่จิบคำแรกก็ตาตื่นใช้ได้ รสชาติไม่หวาน มีเพียงความหอมอบอวลของเหล้าทั้งสามตัวในปาก Pink Gin, Vodka และ Bianco เชื่อว่าหมดแก้วนี้ก็ต้องมีตึงกันบ้าง
อีกแก้วที่บาร์เทนเดอร์แนะนำเป็นพิเศษคือ Sangri La (160 บาท) ไวน์แดงผสมกับผลไม้ ตามสูตรปกติจะใส่กาแฟด้วย แต่เราเลือกไม่ใส่ได้ แก้วนี้เลยขอเลือกเป็นแบบไม่ใส่ ไวน์ที่ร้านใช้เป็น Shiraz Cabernet เพิ่มความหอมละมุนด้วยน้ำเชื่อม Elderflower และตามด้วยผลไม้ต่างๆ ถือเป็นอีกแก้วที่ดื่มง่ายจริงๆ
Good for
ชาวปากเกร็ดที่อยากหาอาหารเช้า สาย เที่ยง บ่าย ไม่ว่าจะเวลาไหน รวมไปถึงจิบดริงก์ฟังดนตรีในบาร์ชิลๆ ก็ไม่ต้องขับเข้าเมืองให้เสียเวลา เพราะที่นี่มีทุกอย่างครบ และสำหรับคนเมืองที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศที่แฮงเอาต์ ที่นี่ก็เหมาะเช่นกัน
หรือใครที่ชอบลองทำกิจกรรมใหม่ๆ ที่นี่ก็มีการจัดเวิร์กช็อปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสอนจัดดอกไม้ แพริ่งสาเกกับช็อกโกแลต หรือคอฟฟี่โอมากาเสะ เป็นต้น ใครสนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ทางโซเชียลมีเดียของร้านได้เลย
Brooks Brunch & Bar
Open: เปิดทุกวัน 08.30-00.00 น.
Address: ถนนเลียบคลองประปา แจ้งวัฒนะ นนทบุรี
Budget: อาหารเริ่มต้นที่ 160 บาท ค็อกเทลเริ่มต้นที่ 300 บาท
Tel: 09 7009 0099
Instagram: https://www.instagram.com/brooks.brunchandbar/
Facebook: https://www.facebook.com/brooksbrunchandbar
Map: https://maps.app.goo.gl/Gu4kgHi5hF7x31Ct8
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: