ตลาดน้อย หนึ่งในย่านเก่าแก่ที่มีส่วนผสมของความหลากหลายทางวัฒนธรรม ท่ามกลางกาลเวลาที่เปลี่ยนผ่าน ตลาดน้อย กลับกลมกล่อมขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ความเก่าแก่ของตึกรามบ้านช่อง ร้านอาหารฝีมือเก๋า แกลเลอรีสุดฮิป หรือจะเป็นร้านกาแฟเพื่อนบ้านหน้าใหม่แม้อาจจะดูแตกต่างกันไปบ้าง แต่ทุกๆ การเกิดใหม่และเปลี่ยนแปลงก็ช่วยเติมสีสันให้ย่านตลาดน้อยยังคงมีเสน่ห์และน่าค้นหาอยู่เสมอ แล้วรสชาติตลาดน้อยที่คุณเคยรู้จักล่ะเป็นแบบไหน จะเหมือนหรือต่างออกไป คงต้องไปลองกันชิมกันดูพร้อมกับทริป 4 HOURS: ตลาดน้อย และผองเพื่อนที่กำลังรอคอยให้คุณเข้าไปทักทาย
Walk
River City Bangkok
เริ่มทริปด้วยการเดินเสพงานอาร์ตเติมพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ก่อนจะก้าวเท้าเข้าย่านตลาดน้อยอย่างเต็มตัว เราขอเริ่มวอร์มอัพร่างกายกันที่ River City Bangkok พื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะของทั้งศิลปินไทยและต่างประเทศโดยรวมเอาไว้ในที่เดียว แต่จะมีนิทรรศการไหนน่าสนใจบ้างนั้นตามไปอัปเดตด้วยกันเลย
นิทรรศการแรก Take Your Time จาก SUNTUR กับเรื่องราวการเดินทางและสิ่งที่พบเจอ ผ่านนาฬิกาชีวิตในระยะเวลา 33 ปี ถ้าลองอ่านคำบรรยายภาพพร้อมฟังเสียงดนตรีไปเรื่อยๆ ก็แอบน้ำตาคลออยู่เหมือนกัน
และอีกหนึ่งงานที่น่าสนใจไม่แพ้กันนั่นคือผลงานจากศิลปินสาว Juli Baker and Summer ที่ครั้งนี้มาในคอนเซปต์ She’s too much เรื่องราวของการสำรวจ บันทึก เฉลิมฉลอง ผลักไส และโอบกอด ทุกห้วงอารมณ์ความรู้สึก ตลอดช่วงเวลา 28 วัน หรือ 1 รอบประจำเดือน ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านสีสันสดใสและลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
อ่านต่อ : CALENDAR: กิจกรรมน่าสนใจสัปดาห์นี้ ณ River City Bangkok
Eat
Citizen Tea Canteen of nowhere
หลังจากเสพงานศิลป์แล้วสำหรับคนรักชาต้องไม่พลาดที่จะแวะไป ‘Citizen Tea Canteen of nowhere’ คาเฟ่ที่เชี่ยวชาญในเรื่องชา ไม่ว่าจะเป็นชาร้อนหรือชาเย็นก็พร้อมเสิร์ฟ โดยเอกลักษณ์ของชาที่นี่มีรสชาติและกลิ่นเยอะมากจนเลือกไม่ถูก
ครั้งนี้ เราได้มีโอกาสลอง ชาร้อนเป็ดตุ๋นเจ้าท่า (250 บาท) ที่ส่งกลิ่นหอมของเครื่องเทศสมุนไพรจีน ดื่มแล้วชุ่มคอมากๆ และอีกเมนูคือ ชานมเย็น No.3 (150 บาท) ชื่นใจรสชาติเข้มข้นสไตล์ชาใต้ นอกจากความหลากหลายของรสชาติชาแล้ว ที่นี่ยังโดดเด่นด้วยการตกแต่งร้านโทนสีส้มแดง รวมถึงภาพวาดลวดลายมงคล เช่น น้ำเต้า ดอกกุหลาบ เสือ
ทั้งยังเป็นพื้นที่ขายงานคราฟต์ที่ทางร้านออกแบบเอง มิกซ์แอนด์แมตช์กับผลิตภัณฑ์ในชุมชนตลาดน้อย เรียกว่าผสมผสานวัฒนธรรมเก่า-ใหม่ได้ลงตัวมากๆ
อ่านต่อ : อัปเดต 26 คาเฟ่สเปเชียลตี้มัทฉะทั่วกรุงเทพฯ 2023 ฮีลใจและเติมคาเฟอีนไปพร้อมกัน
Hong Sieng Kong (ฮงเซียงกง)
ย่านตลาดน้อยถือเป็นย่านเก่าที่ยังคงร่องรอยของอาคารในสมัยเก่าเอาไว้หลายแห่ง และหนึ่งในนั้นก็คือ ‘ฮงเซียงกง’ ที่รีโนเวตจากอาคาร 200 ปีริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้กลายเป็นคาเฟ่และร้านอาหารย้อนยุคสไตล์จีน ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ของสะสมโบราณให้ลูกค้าเข้าชมได้ด้วย
โดยในแต่ละเมนูของทางร้านจะผสมผสานกลิ่นอายของย่านตลาดน้อยเข้าไป เช่น Sieng Kong Pudding Tea (180 บาท) ชาไทยใส่น้ำเชื่อมมาพร้อมพุดดิ้งเต้าหู้ออร์แกนิกและปาท่องโก๋จิ๋วกรอบ หรือจะเติมความสดชื่นด้วย Hong Lychee Frappe (160 บาท) รวมถึงของคาวเมนูยอดนิยมของทางร้านอย่างเปาะเปี๊ยะกุ้งสด (200 บาท) และสปาเกตตีซอสทรัฟเฟิล (240 บาท)
ภายในร้านมีหลายมุมให้เลือกนั่งตามใจชอบ แอบกระซิบว่าถ้าอยากมานั่งชิลบรรยากาศยามเย็นริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่นี่ก็โรแมนติกไม่เบาเลยนะ
Timo and Tintin
ออกเดินจาก ‘ฮงเซียงกง’ มานิดหน่อยก็เจอกับคาเฟ่และอาร์ตแกลเลอรี ‘Timo and Tintin’ ที่ไม่ว่าจะเดินผ่านกี่ครั้งก็เป็นอันต้องสะดุดกับความน่ารักของร้านทุกครั้งไป บรรยากาศในร้านที่นี่เหมือนเป็นโลกอีกใบหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านตลาดน้อย ภาพอาคาร 5 ชั้นตกแต่งสไตล์ Modern Contemporary เสริมด้วยความลอฟต์นิดหน่อย แถมด้วยภาพกราฟิกแสนเท่ที่ออกแบบโดยเจ้าของร้าน รับรองถ้ามาแล้วต้องได้รูปสวยๆ กลับไปแน่นอน
เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านสำหรับสายกาแฟต้องลองคือ Dirty Dirty (130 บาท) หรือถ้าไม่ถนัดกาแฟ Matcha Latte (120 บาท) ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ชาวมัทฉะเลิฟเวอร์ต้องลอง อีกสิ่งหนึ่งที่เราคิดว่าน่ารักมากๆ คือการเลือกใส่ภาพกราฟิกน่ารักๆ ลงไปบนแก้วด้วย เล่นเอาเราไม่กล้าทิ้งเลยล่ะ
อ่านต่อ : 5 คาเฟ่ที่มาพร้อมแกลเลอรีศิลปะ ชมงานชิลได้ในที่เดียว
The House by Hongkong House
หากพูดถึงตลาดน้อยสิ่งที่บ่งบอกตัวตนของย่านตลาดน้อยได้อย่างชัดเจนคือวัฒนธรรมการกินอาหารจีน เราเลยไม่พลาดที่จะไปลิ้มรสอาหารจีนตำรับกวางตุ้งกันที่ ‘The House by Hongkong House’ ซึ่งส่งต่อความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่นมากว่า 17 ปี
หลังจากเราเข้ามานั่งในร้านไม่นานเมนูเด็ดของทางร้านก็พร้อมเสิร์ฟ เมนูแรกเป็ดปักกิ่งกับซอสสูตรเด็ดและเนื้อเป็ดผัดพริกไทยดำ (750 บาท) ตามด้วยเซ็ตติ่มซำอย่าง ขนมจีบกุ้ง (69 บาท) ฮะเก๋า (69 บาท) ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง (49 บาท) และคะน้าฮ่องกงทิปโป้ (250 บาท) ถ้าใครยังไม่คุ้นเคยกับอาหารจีนสักเท่าไร เราอยากแนะนำให้ลองเปิดใจดู เพราะแต่ละเมนูเป็นรสชาติอาหารที่อร่อยและกินง่ายมาก
La Cabra (ตลาดน้อย)
พักอาหารหนักไปจิบกาแฟกันที่ ‘La Cabra’ ร้านกาแฟสัญชาติเดนมาร์กจากกรุงโคเปนเฮเกน ที่มาพร้อมเมล็ดกาแฟคุณภาพที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีจากหลากหลายประเทศ รวมถึงวัตถุดิบในประเทศไทยก็มากับเขาด้วย
ทางร้านแนะนำให้เราลองชิม Hand Brewed coffee-Mae Chedi (220 บาท) เมล็ดกาแฟจากจังหวัดเชียงใหม่ โดยกินคู่กับ Brownie Cube (220 บาท) ที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านซึ่งมี 4 รสชาติ ได้แก่ Rich Dark Chocolate, Yuzu Charcoal, Nutella และ Acai Velvet พอกินคู่กันแล้วยิ่งทำให้รสชาติเสริมกันลงตัว หรือถ้าไม่ดื่มกาแฟเราขอแนะนำเมนู Chocolate-Chanthaburi (160 บาท) โกโก้แท้จากจังหวัดชุมพร รสชาติกลมกล่อม ดื่มเย็นๆ ดับร้อน เหมาะกับอากาศช่วงนี้สุดๆ
อ่านต่อ : 7 ร้านกาแฟ Slow Bar ย่านตลาดน้อย-เจริญกรุง น่าชวนกันไปนั่งชิลจิบกาแฟ
Recordoffee
หลบแดดร้อนๆ มาพักฟังเพลงจากร้านแผ่นเสียงพร้อมจิบกาแฟที่ชื่อเมนูไม่ค่อยคุ้นหูกันที่ร้าน ‘Recordoffee (เรคคอดอฟฟี่)’ บรรยากาศในร้านผ่อนคลายเป็นกันเอง และยังมีพี่เจ้าของร้านคอยแนะนำแผ่นเสียงพร้อมเปิดเพลงจากแผ่นให้ฟังกันสดๆ แถมยังเล่าถึงที่มาที่ไปแบบไม่มีกั๊ก
ระหว่างที่เรากำลังเอ็นจอยกับเสียงเพลง เมนูประจำร้านก็มาเสิร์ฟอยู่ตรงหน้า Rock Bottom (165 บาท) เมนูกาแฟที่ใช้ชื่อเพลงฮิตของวง UFO เป็นตัวแทน ซึ่งมีส่วนผสมของฟองครีมด้านบน ตามด้วยกาแฟเข้มข้น เมื่อสองรสชาติมาเจอกันแล้วลงตัวกำลังดี มาพร้อมกิมมิกเล็กๆ คือรสชาติที่ได้จากการกินกาแฟคล้ายกันกับอารมณ์เพลงที่ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเมนูเสิร์ฟพร้อม Danish Raisin (120 บาท) ที่ช่วยเสริมให้รสชาติกลมกล่อมเข้ากัน
Drink
Very Nice Bar
เดินไปเดินมาในย่านตลาดน้อยจนพระอาทิตย์ตกแต่ยังไม่อยากกลับบ้าน ย่านนี้ก็ยังมีพื้นที่บรรยากาศสบายๆ ให้ความรู้สึกเหมือนไปกินดื่มที่บ้านเพื่อนอย่าง Very Nice Bar บาร์ที่เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนที่อยากจะมีร้านนั่งชิลแบบเรียบง่าย เปิดเพลงเบาๆ ไม่ต้องตะโกนคุยกัน ด้านในตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น แต่ให้กลิ่นอายความโมเดิร์นมากขึ้นเสริมด้วยไฟสลัวๆ ทำให้รู้สึกสบายตาและผ่อนคลาย
สำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่นี่จะเน้นไปทางโมเดิร์นอิซากายะตำรับญี่ปุ่นเพื่อให้กินง่ายมากขึ้น มีครบทั้งของกินเล่นไปจนถึงอาหารจานหลัก เหมาะกับคนที่อยากหาบาร์นั่งสบายๆ ไม่ว่าจะคนเดียว มาเป็นคู่ หรือจะมากันเป็นกลุ่มที่นี่ก็มีที่นั่งให้เลือก ถ้าไม่อยากพลาดแนะนำให้จองมาก่อนนะ เพราะร้านค่อนข้างมีพื้นที่จำกัด
วันหยุดนี้ยังไม่มีแพลนจะไปไหน ลองเลือกสักร้านที่โดนใจแล้วออกไปเดินชิลๆ ที่ย่านตลาดน้อยกันดู รับรองว่าจะต้องหลงเสน่ห์และอยากกลับมาอีกแน่นอน
ติดตาม THE STANDARD LIFE คู่มือด้านกิน ดื่ม เที่ยว และ Well-being ของคนเมือง ได้แล้ววันนี้
- Facebook: https://www.facebook.com/thestandardlifeth
- Instagram: https://www.instagram.com/thestandardlife.ig/
ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์