×

Larry Nassar หมอปีศาจ กับ 156 สตรีผู้กล้าหาญ

29.01.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 Mins. Read
  • ในโลกภายนอกแล้วใครๆ ต่างก็ยกย่อง แลร์รี นาสซาร์ ในฐานะ ‘หมอเทวดา’ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษานักกีฬายิมนาสติก
  • แต่ในความรู้สึกของหญิงสาวทั้ง 156 คน และน่าจะมีอีกมากกว่านี้ นาสซาร์ คือ หมอปีศาจผู้ตีตราบาปให้แก่พวกเธอไปตลอดชีวิตเพียงเพื่อตอบสนองความสุขทางเพศอันพิสดารของเขา
  • นาสซาร์ เคยพูดถึงเรื่องของความอันตรายของการบาดเจ็บทางจิตใจของเหล่านักกีฬาไว้ว่า “ถ้าเป็นเรื่องอาการบาดเจ็บทางกาย พวกเขามีโอกาสที่จะหายขาดได้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นการบาดเจ็บทางจิตใจมันจะทิ้งรอยแผลเอาไว้ แผลเป็นนี้จะไม่มีวันหายและจะหลอกหลอนพวกเขาในเวลาต่อมา”

 

1.

 

“ฉันพร้อมแล้วที่จะพูด” เสียงของเธอดังขึ้น

 

ไคล์ สตีเฟนส์ (Kyle Stephens) ไม่ใช่คนแรกที่ต้องเผชิญชะตากรรมที่เหมือนตกนรกทั้งเป็นมาอย่างยาวนาน แต่เธอเป็นคนแรกจาก 156 หญิงสาวผู้ที่ประสบเคราะห์กรรมร่วมกัน

 

156 คนที่มีสถานะที่แตกต่างหลากหลาย บ้างเป็นแม่ บ้างเป็นพี่สาวน้องสาว บ้างเป็นลูกสาว และแม้แต่เหล่านักกีฬาโอลิมปิก

 

ทั้งหมดถูก ‘กระทำ’ โดยคนคนเดียว คนที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘หมอ’ และไม่ใช่แค่เป็นหมอธรรมดาสามัญด้วย เพราะในโลกภายนอกแล้วใครๆ ต่างก็ยกย่อง แลร์รี นาสซาร์ ในฐานะ ‘หมอเทวดา’ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษานักกีฬายิมนาสติก

 

ในสายตาของคนในวงการ นาสซาร์ ไม่ต่างอะไรจากพระเจ้า

 

แต่ในความรู้สึกของหญิงสาวทั้ง 156 คน และน่าจะมีอีกมากกว่านี้ นาสซาร์ คือ ‘ปีศาจ’

 

หมอปีศาจผู้ตีตราบาปให้แก่พวกเธอไปตลอดชีวิตเพียงเพื่อตอบสนองความสุขทางเพศอันพิสดารของเขา

 

เรื่องราวที่น่าเศร้าและชวนตื่นตระหนกของวงการกีฬานี้เป็นความลับที่ดำมืดมายาวนานนับทศวรรษครับ จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งที่ความอุบาทว์ของ แลร์รี นาสซาร์ ถูกเปิดโปงขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2016 เมื่อมีรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ The Indianapolis Star เปิดเผยว่าสมาคมกีฬายิมนาสติกของสหรัฐอเมริกา มีการเก็บข้อมูลของโค้ชมากกว่า 50 คนที่ถูกร้องเรียนว่าล่วงละเมิดทางเพศต่อนักกีฬาหญิง

 

โดยที่ในหลายกรณีไม่มีการติดตามสืบสวนและลงโทษอย่างจริงจัง

 

จนกระทั่งในเดือน ก.ย. 2016 The Indianapolis Star ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของ 2 นักกีฬายิมนาสติก ซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อในเวลานั้น ว่าพวกเธอถูกล่วงละเมิดทางเพศโดย ดร.นาสซาร์ แพทย์ผู้มีชื่อเสียงของโลกกีฬายิมนาสติก

 

ก่อนจะมีการเปิดเผยชื่อในภายหลังโดยได้รับการยินยอมจากทั้งสองว่า คนหนึ่งคือ เจมี ดันต์สเชอร์ (Jamie Dantzscher) และอีกคนคือ ราเชล เดนโฮลแลนเดอร์ (Rachel Denhollander)

 

ณ เข็มนาฬิกานั้น เรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โต แต่มันก็เป็นการจุดประกายไฟแห่งการต่อสู้ขึ้นเป็นครั้งแรก

 

พวกเธอไม่ได้ต้องการอะไรในเรื่องนี้มากไปกว่าการให้โลกได้รับรู้ว่าในวงการนี้มีปีศาจที่ใส่หน้ากากของหมอแฝงตัวอยู่ และไอ้ปีศาจตนนี้มันควรไม่มีโอกาสได้ทำร้ายใครอีก

 

จากจุดเริ่มต้นในครั้งนั้น หมอนาสซาร์ถูกนำตัวสู่กระบวนการสอบสวน มีการริบใบประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ที่ยาวนาน

 

 

2.

 

ปริญญาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนในปี 1985 และในปีต่อมากับโอกาสในการร่วมเป็นหนึ่งในทีมแพทย์ของทีมยิมนาสติกสหรัฐฯ ที่มาฝึกซ้อมอยู่ที่มิชิแกนในปีถัดมา

 

ฝีมือและประสบการณ์ของนาสซาร์ ในการวินิจฉัยและให้การรักษานักกีฬาเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นหนึ่งไม่มีสอง

 

นักกีฬาจำนวนมากรู้สึก ‘เป็นเกียรติ’ ที่จะได้รับการรักษาจากคุณหมอนาสซาร์

 

“เขาเป็น best of the best”

 

ในการสัมภาษณ์เมื่อปี 2013 นาสซาร์ เคยกล่าวถึงการดูแลนักกีฬาอายุน้อยเอาไว้อย่างสวยหรู

 

“ไม่ใช่แค่เรื่องของสภาพร่างกายแต่เราต้องดูแลสภาพจิตใจของเขาด้วย เราต้องปกป้องเหล่านักกีฬาอายุน้อยๆ เหล่านี้”

 

“เราจะต้องทำให้พวกเขารู้ว่าเราห่วงใยและดูแลพวกเขาอยู่”

 

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ นาสซาร์ พูดถึงเรื่องของความอันตรายของการบาดเจ็บทางจิตใจของเหล่านักกีฬา

 

“ถ้าเป็นเรื่องอาการบาดเจ็บทางกาย พวกเขามีโอกาสที่จะหายขาดได้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นการบาดเจ็บทางจิตใจมันจะทิ้งรอยแผลเอาไว้ แผลเป็นนี้จะไม่มีวันหายและจะหลอกหลอนพวกเขาในเวลาต่อมา”

 

นั่นหมายความว่า นาสซาร์ เองก็รู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นจะเป็นตราบาปและคำสาปที่หลอกหลอนเหล่านักกีฬาที่มาพบเขาเพื่อ ‘หวังพึ่งพิง’ ไปตลอดชีวิต

 

แต่เขาก็เลือกที่จะทำตามสัญชาตญาณหื่นกระหาย

 

เพราะเชื่อว่าด้วยสถานะของเขา ไม่มีใคร ‘กล้า’ ที่จะมาลุกขึ้นสู้กับเขาแน่

 

แต่มันเป็นความคิดที่ผิด

 

 

3.

 

จากไฟประกายแรกที่ถูกตีพิมพ์ใน The Indianapolis Star ก็เริ่มมีดวงไฟของการต่อสู้ที่ถูกจุดประกายปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ

 

แต่ที่สร้างความสะเทือนใจมากที่สุดครั้งหนึ่งคือเรื่องราวของนักยิมนาสติกสาว แม็คเคย์ลา มาโรนีย์ เจ้าของเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

 

เธอเปิดเผยว่าเธอเป็นหนึ่งใน ‘เหยื่อ’ ของนาสซาร์ และถูกกระทำมาเป็นเวลานานถึง 7 ปี

 

จากจุดเริ่มต้นเมื่อเธออายุ 13 จวบจนเธออำลาวงการไปเมื่ออายุ 20 ปี

 

เหตุการณ์ที่น่ากลัวมากที่สุดในชีวิตของเธอและเป็นเรื่องราวน่าเศร้าที่ชวนสะเทือนใจมากที่สุดคือการที่เธอถูกมอมยานอนหลับในระหว่างการเดินทาง ก่อนจะตื่นขึ้นมาบนเตียงในห้องนอนของหมอนาสซาร์ในสภาพร่างกายที่เธอรู้ตัวดีว่า ‘ผิดปกติ’ และมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว

 

ในวินาทีนั้นสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดคือการหยุดลมหายใจของตัวเองทันที

 

แต่เพราะความฝันตั้งแต่วัยเด็กกับการเป็นนักกีฬาโอลิมปิก และอยากจะขึ้นโพเดียมเพื่อรับเหรียญทองเธอจึงตัดสินใจยอมทนมาโดยตลอด ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า นาสซาร์ จงใจใช้ความได้เปรียบในฐานะแพทย์บังคับข่มขืนทั้งกายและใจของมาโรนีย์ เพราะหากเขาระบุว่าเธอไม่อยู่ในสภาพพร้อมแข่งขัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่พยายามและทนทุกข์มาจะจบลงด้วยความสูญเปล่าทันที

 

เมื่อเธอพ้นจากสภาพนั้นมาได้ มาโรนีย์ จึงตัดสินใจที่จะเปิดโปงหมอปีศาจ

 

แม้ว่ามันจะสร้างความเจ็บปวดให้กับเธออย่างมากมายมหาศาลก็ตาม

 

แต่การตัดสินใจลุกขึ้นยืนหยัดของเธอ นำมาสู่การลุกขึ้นยืนหยัดของ ‘เธอ’ อีกหลายคน

 

คนที่เคยเจ็บปวดเพราะนาสซาร์มาก่อน และจะไม่ยอมอีกต่อไป

 

ในจำนวนนี้ไม่ได้มีเฉพาะนักกีฬาเท่านั้น หากแต่มี ‘Victim Z.A.’ หรือบางครั้งก็ ‘family friend’ ที่เป็น ‘เพื่อนบ้าน’ ที่รู้จักคุ้นเคยกับหมอนาสซาร์ดี

 

และเธอตัดสินใจขอเป็น ‘คนแรก’ ที่ประจัญหน้ากับเขาซึ่งหน้าในห้องการพิจารณาคดีที่เล็กและแคบ

 

“ฉันพร้อมที่จะพูดแล้ว” เสียงของ ไคล์ สตีเฟนส์ หรือ Victim Z.A. ที่ปิดบังชื่อตัวเองมาอย่างยาวนานดังขึ้น ก่อนที่จะบอกเล่าเรื่องราวที่เธอต้องประสบพบเจอมาตั้งแต่วัยเด็ก ในวันที่ฟันน้ำนมของเธอยังร่วงไม่หมดปากด้วยซ้ำไป

 

เรื่องราวที่ไม่มีใครเชื่อ แม้กระทั่งครอบครัวตัวเอง

 

สตีเฟนส์ ถูกล่วงละเมิดมาตั้งแต่ 6 ขวบ เมื่อนาสซาร์ ซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อได้อวด ‘ของลับ’ ให้เธอดูในห้องหนึ่งที่บ้านของเขาในมิชิแกน ก่อนจะนำไปสู่การล่วงละเมิดที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการช่วยตัวเองต่อหน้าเธอ การใช้นิ้วสอดใส่ และอีกมากมายที่ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เป็นหมอและมีชื่อเสียงจะกระทำต่อเด็กน้อยคนหนึ่ง ที่เป็นลูกสาวของคนที่เขาเรียกว่าเพื่อน

 

เด็กที่ไม่ประสีประสา และใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะรู้ว่าสิ่งที่เขาทำต่อเธอนั้นมันคือการกระทำของปีศาจหื่นกาม

 

ครั้งหนึ่งเธอตัดสินใจบอกครอบครัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่สิ่งที่เธอได้รับคือการที่ครอบครัวของเธอเลือกจะเชื่อปีศาจอย่างนาสซาร์ มากกว่าเธอ

 

วันนั้นเป็นวันที่สายสัมพันธ์ระหว่าง สตีเฟนส์ และครอบครัวขาดลง และไม่มีวันเหมือนเดิมอีกตลอดกาล

 

นาสซาร์ ยังกดดันให้ สตีเฟนส์ มาช่วยเลี้ยงลูกของเขาที่บ้านของเขาด้วย ขณะที่ครอบครัวของเธอทำตัวราวกับว่าไม่เคยมีกรณีปัญหาคาใจต่อกันมาก่อน ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอตัดสินใจที่จะสู้เพียงลำพัง ยอมทำงานแลกเงินไปแม้จะต้องเจ็บปวดใจแค่ไหนก็ตาม

 

ด้วยหวังว่าเธอจะมีเงินมากพอที่จะดำเนินคดีกับเขา ‘ไอ้หมอปีศาจ’ ด้วยตัวของเธอเอง และไม่คิดหวังพึ่งครอบครัวแม้แต่น้อย

 

ก่อนที่เธอจะต้องเสียพ่อผู้ตัดสินใจเป็นยมทูตปลิดลมหายใจตัวเองด้วยความรู้สึกผิดต่อลูกสาว หลังเริ่มตระหนักได้ว่าเขาได้กระทำผิดต่อเธอมากแค่ไหน

 

 

4.

 

เรื่องราวของ สตีเฟนส์ และมาโรนีย์ เป็นเพียงแค่ 2 เรื่องราวจาก 156 ฝันร้ายที่ถูกสาปโดยหมอปีศาจ

 

และฝันร้ายทั้งหมดกลับมาหลอกหลอนเขาบ้างในเวลานี้

 

ตลอด 7 วันของการพิจารณาคดี นาสซาร์ ต้องฟังเรื่องราวของความเลวร้ายที่เขากระทำต่อพวกเธอทีละคน

 

ความเจ็บปวด ความโศกเศร้า น้ำตา ทุกอย่างพรั่งพรูออกมาราวกับน้ำพุของความคั่งแค้นที่ไม่มีวันหยุดไหล

 

และด้วยความกล้าหาญของหญิงสาวทั้ง 156 คนที่ตัดสินใจลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง ทำให้ปีศาจร้ายอย่างนาสซาร์ ยอมรับว่าเขาทนฟังมันไม่ไหว

 

“ไม่มีคำพูดใดที่จะบรรยายถึงความเศร้าเสียใจที่ผมรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ผมจะจำทุกคำพูดของพวกคุณทุกคนฝังหัวไว้ไปตลอดชีวิตที่เหลือของผม”

 

แม้ว่าชีวิตที่เหลือของนาสซาร์ ในวัย 54 ปีไม่มีวันที่จะอยู่รับใช้โทษ 175 ปีได้ครบก็ตาม

 

อย่างไรก็ดีเรื่องราวของนาสซาร์ ไม่ใช่เรื่องแรกในประวัติศาสตร์การล่วงละเมิดนักกีฬา

 

แน่นอนมันย่อมไม่ใช่เรื่องสุดท้ายเช่นกัน เพราะย่อมมีปีศาจร้ายเช่นนี้ปรากฏกายขึ้น ทุกยุค ทุกสมัย และทุกที่บนโลกใบนี้

 

สิ่งที่เราสามารถช่วยกันได้คือการให้คำแนะนำในการระแวดระวังตัว โดยเฉพาะเหล่าคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกยังเล็ก

 

หากมีอะไรที่รู้สึกผิดปกติ แปลกไปจากการสอนที่ควรจะเป็นต้องรีบแจ้ง

 

และในทางกลับกัน หากพ่อแม่ผู้ปกครองได้รับการแจ้งเรื่องราวแบบนี้มา ขอให้รับฟังอย่างเข้าใจก่อน แล้วคิดอ่านหาทางตรวจสอบพิสูจน์กันต่อไป

 

ถ้าต้องสู้ ก็ต้องสู้ด้วยกัน

 

อย่าปล่อยให้ปีศาจทำร้ายคนที่คุณรัก และปล่อยให้พวกเธอหรือเขาต้องต่อสู้เพียงลำพัง

 

ไม่มีอะไรจะเจ็บปวดไปกว่านั้นอีกแล้ว

 

Photo: AFP

อ้างอิง:

FYI
  • คดีของ ดร.นาสซาร์ นำไปสู่การลาออกของบอร์ดสมาคมกีฬายิมนาสติกสหรัฐฯ แทบยกชุด รวมถึงประธาน รองประธาน ฐานปล่อยปละละเลยต่อการตรวจสอบในเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่มีการร้องเรียนมากมาย
  • สมาคมกีฬายิมนาสติก ถูกสั่งระงับงบเงินช่วยเหลือจากสปอนเซอร์มากมาย รวมถึง AT&T, Hershey’s, Under Armour และ Kellogg
  • ยังมีเรื่องราวการล่วงละเมิดนักกีฬาที่น่าตกใจอีกมากมาย รวมถึงในอังกฤษ ที่มีนักฟุตบอลในอดีตออกมาเปิดเผยว่าถูกล่วงละเมิดโดยโค้ช
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising