×

เริ่มวันนี้ กล้องเลนเชนจ์ 15 จุดทั่วกรุงเทพฯ เผยสถิติช่วงทดสอบ พบผู้ฝ่าฝืนวันละ 7,542 ราย

09.05.2018
  • LOADING...

ตั้งแต่วันนี้ หรือ 9 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) จะเริ่มใช้ระบบตรวจจับรถฝ่าฝืนเปลี่ยนช่องเดินรถในเขตห้าม (Lane Change Camera System) โดยในระยะเริ่มต้นได้ดำเนินการติดตั้งระบบตรวจจับดังกล่าว จำนวน 15 จุด ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 14,387,220 บาท ว่าจ้าง บริษัท นิวซีโน่ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ติดตั้งระบบตรวจจับฯ และพัฒนาระบบร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.), สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) โดยเริ่มดำเนินการติดตั้งมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการติดตั้งทั้ง 15 จุดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้แก่

  1. สะพานข้ามแยกบางเขน ถนนงามวงศ์วาน ขาเข้า
  2. สะพานข้ามแยกศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ขาออก
  3. ทางลอดแยกห้วยขวาง ถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า
  4. สะพานข้ามแยกบรมราชชนนี ถนนบรมราชชนนี ขาออก
  5. สะพานข้ามแยกวงเวียนบางเขน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาเข้า     
  6. สะพานข้ามแยกราชเทวี ถนนเพชรบุรี ขาออก
  7. แยกสามเหลี่ยมดินแดง ถนนราชวิถี ขาเข้า
  8. สะพานข้ามแยกประชานุกูล ถนนรัชดาภิเษก ขาออก
  9. สะพานศิริราชด้านอรุณอมรินทร์ ถนนอรุณอมรินทร์ ขาออก
  10. สะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว ขาเข้า
  11. สะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว ขาออก
  12. สะพานข้ามแยกวงศ์สว่าง ถนนรัชดาภิเษก ขาออก
  13. สะพานข้ามแยกพระราม 4 ถนนรัชดาภิเษก ขาออก
  14. สะพานพุทธ ถนนประชาธิปก ขาเข้า
  15. สะพานข้ามแยกกำนันแม้น ถนนกัลปพฤกษ์ ขาออก     

 

โดยแต่ละจุดจะมีป้ายแจ้งเตือน 3 ระยะคือ ในระยะ 100 เมตร, 50 เมตร และ 30 เมตร ก่อนถึงจุดตรวจจับ ในส่วนของระบบการตรวจจับในแต่ละจุดประกอบไปด้วยกล้อง 4 ตัว ทำงานอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง มีความคมชัดและละเอียดสูง 2 ล้านเมกะพิกเซล สามารถตรวจจับได้ทั้งกลางวัน กลางคืน และทุกสภาพอากาศ สามารถบันทึกข้อมูลเก็บไว้ได้ไม่น้อยกว่า 1 ปี ระบบจะดำเนินการตรวจจับ เมื่อพบการกระทำความผิด กล้องจะทำการบันทึกข้อมูลทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านระบบ ATS (Automated Ticketing System) และส่งภาพข้อมูลดังกล่าวกลับมายังศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของทะเบียนรถ, ยี่ห้อ, รุ่น และสีของรถ หากถูกต้องครบถ้วนจะดำเนินการออกใบสั่งและส่งไปยังระบบ PTM (Police Ticket Management) ของธนาคารกรุงไทยเพื่อได้บาร์โค้ดกลับมา จากนั้นจะยืนยันความถูกต้องเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการออกใบสั่งส่งไปยังผู้ครอบครองหรือเจ้าของรถภายใน 7 วัน สามารถตรวจสอบความผิดย้อนหลังผ่านเว็บไซต์ URL หรือทางเว็บไซต์ www.trafficpolice.go.th ด้วยรหัสผ่านที่ระบุท้ายใบสั่งได้  

 

 

ขณะที่สถิติการทดลองตรวจจับตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน 2561 ที่ผ่านมาพบผู้ฝ่าฝืนจำนวนทั้งสิ้น 226,257 รายต่อเดือน เฉลี่ย 7,542 รายต่อวัน

 

สำหรับความผิดดังกล่าวเป็นข้อหาฝ่าฝืนเครื่องหมายบนพื้นที่ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 21 ประกอบมาตรา 152 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ในเบื้องต้น บก.จร. จะทำการเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 500 บาท โดยสามารถชำระค่าปรับผ่านเคาน์เตอร์และตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ หรือผ่านบริการ KTB netbank หรือสถานที่ที่ระบุไว้ในใบสั่ง

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising