เมื่อวานนี้ (15 กรกฎาคม) ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่าคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำปางได้มีมติในคราวประชุมเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าด้วยปัจจุบันปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดระยอง เห็นควรกำหนดมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ของโรคในพื้นที่จังหวัดลำปาง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 และมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 52/1 และมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางจึงกำหนดมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคโควิด-19 ดังนี้
- ประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ หากเดินทางไปยังพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือจังหวัดระยอง จะต้องจัดทำบันทึกลำดับเหตุการณ์ (Timeline) โดยละเอียด และเมื่อกลับเข้ามายังจังหวัดลำปาง ให้สังเกตอาการและดำเนินการควบคุมตนเอง (Self Monitoring) เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน หากพบว่ามีไข้ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือไปพบแพทย์โดยทันที สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบด้วย
- ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ อำเภอทุกอำเภอ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประจำอยู่ในเขตจังหวัด เพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการตรวจคัดกรองบุคคลภายนอกที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครและจังหวัดระยองที่เข้ามาในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน อำเภอ จังหวัด ให้ อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ออกตรวจเยี่ยมและให้ข้อแนะนำ ขอให้พึงงดออกจากเคหสถาน โดยกักกันตนเองไว้สังเกตอาการ (Home Quarantine) เป็นระยะเวลา 14 วัน ในกรณีมีความจำเป็นต้องออกนอกเคหสถานจะต้องดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
- ให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐถือปฏิบัติในการลงทะเบียนหรือลงลายมือชื่อเข้าใช้บริการในสถานที่ต่างๆ ด้วยระบบลงทะเบียนของ ศบค. (ระบบไทยชนะ) รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอ และเว้นระยะห่างทางสังคม
ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัติตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์