×

LaLiga มาแล้ว! ทบทวนทุกเรื่องราวน่ารู้ ก่อนจะกลับมาลุ้นลูกหนังกระทิงต่ออีกครั้ง

11.06.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 mins. read
  • ลาลีกาจะกลับมาเปิดฉากอีกครั้งหลังโควิด-19 ในคืนนี้ ด้วยเกม El Gran Derbi เกมดาร์บีแมตช์ของเมืองเซบียา ระหว่างเซบียากับเรอัล เบติส ก่อนจะมีการแข่งขันต่อเนื่อง ‘ทุกวัน’ จนจบฤดูกาล
  • นอกจากการลุ้นแชมป์ระหว่างบาร์เซโลนาและเรอัล มาดริด การลุ้นไปสโมสรยุโรปกับลุ้นหนีตกชั้นก็ยังเข้มข้นอยู่มาก เรียกว่าไม่ควรปล่อยให้คลาดสายตาแม้แต่น้อย
  • เฟร์ราน ตอร์เรส ตัวรุกดาวเด่นของบาเลนเซีย วัย 20 ปี ที่เป็นเป้าหมายของลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และนาโปลี เป็นหนึ่งในดาวเด่นที่ควรจับตามอง
  • ลาลีกาเองมี ‘ของเล่นใหม่’ มาอวดชาวโลก ด้วยนวัตกรรมที่เรียกว่า Virtual Fans หรือภาพของแฟนบอลจำลองที่จะปรากฏให้เห็นบนอัฒจันทร์ในการถ่ายทอดสด

LaLiga is Back! คือคำประกาศกร้าวของลาลีกา ศึกลูกหนังแดนกระทิงดุ ที่พร้อมจะกลับมาลงสนามกันต่ออีกครั้ง หลังจากที่ต้องพักการแข่งขันมายาวนานกว่า 3 เดือน เพื่อหลบมาตั้งหลักจากมหันตภัยโควิด-19

 

โดยพวกเขาเหลือจำนวนเกมทั้งหมด 110 นัดที่จะต้องลงสนามแข่งขัน และจะแข่งขันกันต่อเนื่องทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

ว่าแต่เวลาผ่านมานานหลายเดือน บางทีเราควรจะต้องมาทวนความจำกันสักหน่อย จะได้กลับมาตั้งต้น แล้วลุ้นกันใหม่ได้ถูก!

 

Photo: @RealBetis

บรรยากาศ El Gran Derbi แบบนี้ยังไม่กลับมา แต่ไม่ได้แปลว่าเกมในสนามจะลดดีกรีลง

 

เคาะระฆังให้ดังในเกมแรกด้วย #ElGranDerbi

ไม่มีเกมไหนจะเหมาะสมสำหรับการเปิดฉากลาลีกาอีกครั้งหลังโควิด-19 เท่ากับเกม El Gran Derbi เกมดาร์บีแมตช์ของเมืองเซบียา ระหว่างเซบียากับเรอัล เบติส เพราะนี่คือหนึ่งในสุดยอดเกมดาร์บีของสเปน ที่เป็นดาร์บีแมตช์ของสองทีมร่วมเมืองที่มีปมความแค้นกันแบบเต็มๆ

 

แค่ชื่อ El Gran Derbi ก็ชนะขาดแล้ว เพราะหมายถึง The Great Derby เกมดาร์บีที่ยิ่งใหญ่! และมีประวัติศาสตร์ของการต่อสู้ที่ยาวนานถึง 105 ปี

 

สโมสรทั้งสองแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างกันเพียงแค่ 4 กิโลเมตร และการเผชิญหน้ากันระหว่างสองทีมนี้คือบรรยากาศของสงครามลูกหนัง ที่ถ้าใครใจไม่แข็งพอ แล้วเข้ามาอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ ก็ต้องมีอกสั่นขวัญแขวนกันบ้าง 

 

แม้กระทั่ง เซร์คิโอ เรกีลอน แบ็กซ้ายดาวรุ่งของเรอัล มาดริด ที่ถูกเซบียายืมตัวมาใช้งาน ได้โอกาสลงสนามในการพบกันครั้งล่าสุดที่ซานเชซ ปิซฆวน เมื่อปีกลาย ถึงกับยอมรับว่าบรรยากาศของเกมนี้คือความบ้าคลั่งอย่างแท้จริง

 

น่าเสียดายที่เกมนี้เราจะไม่ได้เห็นบรรยากาศความบ้าคลั่งของกองเชียร์นอกสนามเหมือนทุกครั้ง ซึ่งการลงสนามโดยไม่มีแฟนบอลนั้นมัน ‘เศร้าเหมือนการที่เราต้องเต้นรำกับน้องสาว’ ตามปากคำของ หลุยส์ เอ็นริเก นายใหญ่ทีมชาติสเปน

 

แต่จากการที่เซบียายังมีลุ้นไปแชมเปียนส์ลีก ส่วนเรอัล เบติส ไม่มีอะไรสะใจพวกเขามากกว่าการขัดแข้งขัดขาทีมคู่ปรับร่วมเมืองให้ล้มคว่ำล้มหงาย และอย่าลืมว่าก่อนโควิด-19 จะมา ยักษ์เขียวแดนใต้ก็เพิ่งจะสอยเรอัล มาดริดได้อย่างสะใจด้วย

 

ดังนั้น ต่อให้ไม่มีแฟนบอลในสนาม ก็ไม่ได้แปลว่าความดุเดือดเลือดพล่านจะหายไปจนหมด เพราะทั้งสองทีมต่างมีสิ่งที่จำเป็นต้องทำอยู่

 

การลงเล่นเพื่อคนที่มาสนามไม่ได้ แค่นี้ก็มีน้ำหนักมากพอแล้ว

 

เรอัล มาดริด มีลุ้นกระชากแชมป์ลาลีกาคืนในฤดูกาลนี้

 

ลาลีกายังเหลืออะไรให้ต้องลุ้น

เพียบ! ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลุ้นแชมป์ ลุ้นไปสโมสรยุโรป หรือกลุ่มลุ้นหนีการตกชั้น ยังไม่มีอะไรแน่นอนทั้งนั้น เรียกได้ว่าลาลีกาน่าจะเป็นลีกที่ลุ้นกันสนุกที่สุดในบรรดาลีกฟุตบอลยุโรปฤดูกาลนี้แล้ว

 

ในกลุ่มลุ้นแชมป์เป็นการเบียดกันของยักษ์ใหญ่ 2 ตน อย่างบาร์เซโลนา (58 คะแนน) และเรอัล มาดริด (56) ซึ่งมีคะแนนห่างกันอยู่ 2 แต้ม ขณะที่เหลือเกมการแข่งขันให้เตะอีก 11 นัดด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้าโควิดจะมาเยือน ราชันชุดขาวเพิ่งจะสยบคู่แค้นตลอดกาลได้ 2-0 จาก 2 ประตูของ วินิเชียส จูเนียร์

 

แต่การหยุดพักไปเพราะโรคร้ายก็กลายเป็นเรื่องดีเหมือนกันสำหรับบาร์ซา เมื่อพวกเขาได้ หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกตัวเก่งคู่ขวัญของ ลิโอเนล เมสซี ที่เดิมบาดเจ็บยาวจนคาดว่าต้องพักถึงปลายฤดูกาล ก็กลายเป็นว่าตอนนี้ดาวยิงจอมเก๋าหายสนิท กลับมาฟิตสมบูรณ์ พร้อมลงสนามอีกครั้ง

 

การกลับมาของ เอล ปิสโตเลโร ครั้งนี้คือความหวังของบาร์ซา ที่ผ่านมาประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากไม่มีใครช่วยแบ่งเบาภาระในแดนหน้าให้เมสซีได้ โดยเฉพาะ อองตวน กรีซมันน์ ที่ไม่สามารถทำผลงานได้ดีสมความคาดหวัง ขณะที่ อันซู ฟาติ ยังเด็กเกินกว่าจะแบกรับแทนซัวเรซไหว และลืมชื่อของ อุสมาน เดมเบเล ที่บาดเจ็บตลอดเวลาไปได้เลย

 

อย่างไรก็ดี มาดริดเองก็ได้ เอเดน อาซาร์ ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน รวมถึง มาร์โก อเซนซิโอ ปีกซ้ายผ่านตลอด ที่ยังไม่ได้ลงสนามแม้แต่นัดเดียวในเกมนี้ หลังเอ็นเข่าขาดตั้งแต่เกมพรีซีซันกับอาร์เซนอล มีโอกาสจะหายกลับมาช่วยทีมได้เช่นเดียวกัน

 

ในกลุ่มลุ้นไปสโมสรยุโรปเองก็สนุกไม่แพ้กัน โดยตั้งแต่อันดับ 3 ของเซบียาลงไป จนถึงอันดับ 7 บาเลนเซียนั้นมีคะแนนห่างกันเพียงแค่ 5 แต้ม

 

นั่นหมายถึงมี 5 ทีมเต็มๆ ที่มีโอกาสลุ้นไปแชมเปียนส์ลีก ตั้งแต่เซบียา (47 คะแนน), เรอัล โซเซียดัด (46), เคตาเฟ (46), แอตเลติโก มาดริด (45) และบาเลนเซีย (42) ซึ่งรับประกันว่าบี้กันมันแน่นอน

 

ทีมที่น่าสนใจที่สุดในกลุ่มนี้คือเคตาเฟ ที่แต้มเท่ากับโซเซียดัด แต่เป็นรองเรื่องประตูได้เสีย เพราะเป็นฤดูกาลที่พวกเขาทำผลงานได้เกินหน้าเกินตาที่สุดนับตั้งแต่เลื่อนชั้นกลับคืนสู่ลาลีกาได้เมื่อฤดูกาล 2016/17 

 

ขณะเดียวกันทีมอย่างบียาร์เรอัล (38 คะแนน), ​กรานาดา (38) และแอธเลติก บิลเบา (37) ก็แอบลุ้นไปยูโรปาลีกแบบเบาๆ ด้วยเช่นกัน

 

สำหรับกลุ่มลุ้นหนีตกชั้นนั้นก็น่าสนุกไม่แพ้กัน โดย 3 ทีมท้ายตารางเวลานี้ คือ เอสปันญอล (20 คะแนน), เลกาเนส (23) และเรอัล มายอร์กา (25) ซึ่งยังมีความหวัง เพราะทีมที่อยู่เหนือขึ้นไปอย่างเซลตา บีโก (26), เอบาร์ (27) และเรอัล บายาโดลิด (29) ก็ไม่ได้ปลอดภัยไปมากกว่ากันเท่าไร

 

แต่ทีมที่น่าห่วงที่สุดคือเอสปันญอล ที่หลายคนกลัวว่าฤดูกาลหน้าอาจจะไม่ได้เห็น ‘คาตาลัน ดาร์บี’ อีก หากไม่รีบคืนฟอร์มใน 11 นัดที่เหลือ

 

Photo: @atletiEnglish

โธมัส ปาร์เตย์ ของดีทีมตราหมีที่หลายทีมสนใจ

 

นักเตะที่น่าจับตา…ที่ไม่ใช่เมสซี

เป็นที่รู้กันว่า ผลงานของ ‘La Pulga’ เมสซีนั้นต่อให้เริ่มโรยรา แต่ความมหัศจรรย์ของเขายังเหนือกว่าคนอื่นเสมอ ด้วยผลงาน 19 ประตู 12 แอสซิสต์ จากการเล่น 22 นัด นำโด่งเหนือคนอื่นมาก

 

แต่ลาลีกาไม่ได้มีแค่เมสซี! (และไม่ได้มีแค่ซัวเรซ, กรีซมันน์, อาซาร์ หรือ แกเร็ธ เบล ด้วย) ยังมีนักฟุตบอลอีกหลายคนที่น่าสนใจ

 

คนแรกคือ เฟร์ราน ตอร์เรส ตัวรุกดาวเด่นของบาเลนเซีย วัย 20 ปี ที่เป็นเป้าหมายของลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และนาโปลี ซึ่งทำผลงานไปแล้ว 7 ประตู กับ 6 แอสซิสต์ ซึ่งกูรูบอลสเปนอย่าง กิลเลม บาลาเก การันตีว่า เด็กคนนี้รอพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับ จาดอน ซานโช หรือ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

 

อีกหนึ่งเด็กมหัศจรรย์ที่ชีวิตผ่านเรื่องราวมาไม่น้อยคือ มาร์ติน โอเดการ์ด วันเดอร์คิดจากนอร์เวย์ ที่ย้ายมาเรอัล มาดริดตั้งแต่อายุ 15 ปี แต่ต้องผ่านบทพิสูจน์ชีวิตที่หนักหนาก่อนจะเริ่มฉายแสงในฤดูกาลนี้กับเรอัล โซเซียดัด ในบทบาท ‘หมายเลข 10’ ที่หาคนเล่นได้ยากในปัจจุบัน

 

โอเดการ์ดยังมีสัญญากับเรอัล มาดริด แต่ทางด้านโซเซียดัดยืนกรานจะรั้งตัวให้ได้ ขณะที่หลายทีมใหญ่ก็จับตามอง ดังนั้นนี่เป็นอีกหนึ่งสตาร์ที่น่าสนใจแน่นอน

 

โธมัส ปาร์เตย์ ฮาร์ดแมนทีม ‘ตราหมี’ แอตเลติโก มาดริด ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่โดดเด่นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงก่อนโควิด-19 จะระบาด ผลงานของกองกลางวัย 26 ปีชาวกานา เข้าตาอย่างมาก และเป็นเป้าหมายของทีมใหญ่อย่างอาร์เซนอล ที่อยากได้ตัวมาร่วมทีม โดยมีค่าปล่อยตัวตามเงื่อนไข 50 ล้านยูโร

 

เศรษฐกิจยุคโควิด-19 อาจทำให้อาร์เซนอลขยับตัวลำบาก แต่หากปาร์เตย์ยังรักษาฟอร์มร้อนแรงได้ ก็อาจทำให้กันเนอร์สต้องยอมลำบากหนักกว่าเดิม หรืออาจจะมีทีมอื่นที่พร้อมกว่ามาคว้าตัวไปก็ได้

 

อีกคนที่รอคอยจะแจ้งเกิดมานานและเริ่มฉายแสงให้เห็นแล้วคือ วินิเชียส จูเนียร์ บราซิลเลียนจอมเลื้อยที่เรอัล มาดริด ซื้อตัวมาฟักตั้งแต่ยังเป็นไข่ ตอนนี้เริ่มจะแสดงให้เห็นว่าทำไม ซีเนอดีน ซีดาน จึงไว้ใจที่จะให้โอกาสเขาลงสนาม โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องไปทุ่มเงินมหาศาลเพื่อคว้าตัวเนย์มาร์มาร่วมทีมอีก

 

คนสุดท้ายที่อยากให้จับตามองคือ แฟรงกี เดอ ยอง กองกลางดาวรุ่งของบาร์เซโลนาที่ยังไม่สามารถแจ้งเกิดได้เต็มที่สมกับความคาดหวังในช่วงที่ผ่านมา 

 

แต่การได้พักในช่วงที่ผ่านมาอาจจะทำให้เดอ ยอง ค้นพบคำตอบอะไรบางอย่างในการที่เขาจะกลับมาทำผลงานได้สมกับการเป็น ‘เสาหลัก’ ของบาร์ซาในอนาคตได้

 

Photo: @LaLigaEN

 

Virtual Fans นวัตกรรมลูกหนังสุดล้ำยุค New Normal

หนึ่งในเรื่องสนุกๆ ที่มองหาได้ในเกมฟุตบอลยุคโควิด-19 คือเรื่องของนวัตกรรมและไอเดียล้ำๆ ที่ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า ‘บรรยากาศ’ ในสนามที่ขาดหายไป เพราะไม่มีแฟนบอลเข้ามาในสนามได้

 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้เห็นไอเดียเจ๋งๆ เช่น การปรินต์ภาพแฟนบอลแล้วแปะไว้ตามที่นั่งบนอัฒจันทร์ที่เริ่มจากทีมโบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัก และกำลังเป็นไอเดียที่หลายๆ สโมสรนำไปประยุกต์ใช้ต่อ รวมถึงตั๋วชมฟุตบอลบน Virtual Stand ที่เป็นไอเดียของสโมสรเอจีเอฟ อาร์ฮุส ในเดนมาร์ก ที่ให้แฟนบอลได้มีส่วนร่วมกับการสร้างบรรยากาศในเกมอยู่ที่บ้าน ผ่านแพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์ Zoom 

 

ลาลีกาเองก็มี ‘ของเล่นใหม่’ มาอวดเหมือนกัน ด้วยนวัตกรรมที่เรียกว่า Virtual Fans หรือความจริงแล้วก็คือภาพของแฟนบอลจำลองที่จะปรากฏให้เห็นบนอัฒจันทร์ในการถ่ายทอดสด

 

นวัตกรรมนี้มาจากความร่วมมือกันกับ Vizrt บริษัทเทคโนโลยีในนอร์เวย์ที่ชำนาญด้านการนำเทคโนโลยีเพื่อนำเสนอสื่อสร้างสรรค์ จะใช้เทคโนโลยี AR มาสร้างภาพจำลองของแฟนฟุตบอลได้ โดยที่ภาพของแฟนบอลนั้นก็ไม่ได้ตัดแปะแบบมั่วๆ ด้วย เพราะจะเป็นภาพของแฟนบอลที่สวมชุดของสโมสรนั้นๆ จริง

 

สมมติเป็นเกมของเรอัล มาดริด ก็จะได้เห็นแฟนบอลในชุดสีขาวกันเต็มไปหมด

 

และเวลาที่เกมหยุด ภาพแฟนบอลก็สามารถเปลี่ยนเป็นกระดานข้อความที่สามารถแสดงผลอะไรออกมาก็ได้ ซึ่งเหมาะสำหรับสปอนเซอร์ที่จะได้โฆษณาแบบตัวใหญ่กว่าเดิมในช่วงนี้ เรียกว่าวิน-วินกันไป

 

นอกจากภาพแล้ว ‘เสียง’ ก็เป็นอีกเรื่องที่ลาลีกากังวล และได้แก้ปัญหาความเงียบเหงาในการถ่ายทอดสดด้วยการใช้เสียงแฟนบอลจำลอง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก EA Sports บริษัทผู้ผลิตเกมฟุตบอลชื่อดัง FIFA 

 

เสียงแฟนจำลองนี้จะไม่ได้เปิดคลอไปแบบไหลไปเรื่อย แต่จะสามารถปรับให้เข้ากับสถานการณ์ได้ เช่น ยิงประตูได้ก็เฮกันให้ลั่น หรือจังหวะฟาวล์แบบขัดใจก็มีเสียงเป่าปากดังขึ้น

 

ทั้งหมดคือทุกเรื่องราวที่น่าสนใจของลาลีกาที่กลับมาลงสนามอีกครั้งตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป

 

อาจมีง่วงเหงาหาวนอน ใต้ตาคล้ำบ้าง แต่อย่างน้อยฟุตบอลที่เรารักก็กลับมาเพิ่มอีกลีกแล้ว!

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising