นับเป็นอีกฤดูกาลที่มีการแข่งขันฟุตบอลสนุกๆ ให้ติดตามจนถึงโค้งสุดท้ายจริงๆ สำหรับ 5 ลีกยักษ์ใหญ่ของยุโรปประจำฤดูกาล 2020/21 ที่แม้ว่าหลายลีกจะได้บทสรุปเรื่องแชมป์ลีกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดของบทสรุปที่เกิดขึ้น หากแต่ทั้ง 5 ลีก ที่ THE STANDARD ขอหยิบยกมาพูดถึงในบทความนี้ยังคงมีประเด็นของแชมป์ลีกและพื้นที่ยูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีก รวมถึงการดิ้นรนหนีตกชั้น ยังคงเป็นเรื่องราวที่น่าติดตามจนนัดสุดท้าย
ศึกช่วงชิงพื้นที่ UCL (ภาคที่ 1) / พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เริ่มจากลีกดังแห่งเกาะอังกฤษอย่างพรีเมียร์ลีก ที่แม้จะได้เห็นโฉมหน้าทีมแชมป์ลีกประจำฤดูกาลนั่นก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมถึง 3 ทีมที่ตกชั้น (ประกอบด้วย ฟูแลม, เวสต์บรอมวิช อัลเบียน และเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด) ทำให้ต้องลงไปฝ่าฟันในลีกแชมป์เปียนส์ชิปฤดูกาลหน้า
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้กระแสการติดตามฟุตบอลลีกผู้ดีลดน้อยลงแต่อย่างใด หากเป็นเพราะ ‘พื้นที่ UCL’ หรือโควตาในการแข่งขันศึกฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปอย่าง ยูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีก ยังคงมีการขับเคี่ยวให้เห็น ภายหลังชัยชนะของลิเวอร์พูลเหนือเบิร์นลีย์ 3-0 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้การแย่งท็อป 4 ยังคงเข้มข้นสุดๆ
สำหรับพื้นที่การช่วงชิงพื้นที่ท็อป 4 หากมองตามสภาพความเป็นจริง จะเห็นได้ว่าจะมีเพียง 2 จาก 3 ทีมที่สมหวังกับการไปโลดแล่นในแชมป์เปียนส์ลีก ส่วนอีกทีมจำใจต้องลงไปเล่นถ้วยรองของยุโรปอย่าง ยูโรปาลีก โดยเฉพาะแฟนบอลของ 3 ทีม ประกอบไปด้วย
- อันดับที่ 3 เชลซี (67 คะแนน)
- อันดับที่ 4 ลิเวอร์พูล (66 คะแนน)
- อันดับที่ 5 เลสเตอร์ ซิตี้ (66 คะแนน)
เงื่อนไขของแต่ละทีม
เชลซี: จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ถ้าสิงห์บลูบุกไปขย้ำแอสตัน วิลลา พร้อมกระชาก 3 คะแนนมาครอง ก็จะการันตีอันดับที่ 3 ทันที แต่หากทำได้เพียงเสมอ พวกเขาต้องลุ้นให้เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่ชนะท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ หรือลุ้นลิเวอร์พูลแพ้คริสตัล พาเลซ
และถ้าสถานการณ์เลวร้ายที่สุด หากพวกเขาปราชัยต่อสิงห์ผงาด และอีก 2 ทีมที่ลุ้นช่วงชิงพื้นที่ UCL ชนะทั้งคู่ เชลซีจะเหลือโควตาพิเศษ นั่นคือการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีก ที่มีคิวดวลกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ฤดูกาลนี้จะมีทีมจากอังกฤษถึง 5 สโมสร เข้าแข่งขันในรายการยูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีกอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับเชลซีในปี 2012
ลิเวอร์พูล: 3 คะแนนเหนือคริสตัล พาเลซ นั้นเพียงพอที่เดอะ ค็อป จะการันตีพื้นที่ท็อป 4 แต่หากเลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีคะแนนเท่ากัน สามารถเก็บชัยชนะนัดสุดท้ายเหมือนกัน ทำให้ต้องไปตัดสินด้วยผลประตูได้เสียที่ลิเวอร์พูลดีกว่าเลสเตอร์อยู่ 4 ลูก
เลสเตอร์ ซิตี้: ชัยชนะเหนือสเปอร์สนั้นไม่เพียงพอที่จะพาจิ้งจอกสยามกลับไปโลดแล่นในยูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีกอีกครั้ง พวกเขาต้องลุ้นให้ลิเวอร์พูลหรือเชลซีไม่ชนะในเกมส่งท้ายฤดูกาลด้วย
ศึกช่วงชิงพื้นที่ UCL (ภาคที่ 2) / เซเรีย อา อิตาลี
เซเรีย อา อิตาลี ก็เป็นอีกหนึ่งลีกที่ปีนี้ตำแหน่งแชมป์ลีกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากถูกยูเวนตุส ยอดทีมแห่งเมืองตูริน เป็นฝ่ายครอบครองสคูเดตโตมาตลอด 9 ปี จนในฤดูกาลล่าสุดได้ถึงคราแชมป์เปลี่ยนมือเป็นอินเตอร์ มิลาน ในการดูแลของอันโตนิโอ คอนเต ที่ช่วยให้ ‘ไอ้งูใหญ่’ หวนคืนสู่บัลลังก์ในรอบ 11 ปี
รวมถึงประเด็นการแย่งชิงพื้นที่ท็อป 4 ของลีกแดนมักกะโรนี มีการแข่งขันที่คล้ายกันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีก ประหนึ่งว่าถูกก็อบวางเลยทีเดียว โดย 3 ทีมที่กำลังเบียดแย่งพื้นที่แชมป์เปียนส์ลีกประกอบประด้วย
- อันดับที่ 3 เอซี มิลาน (76 คะแนน)
- อันดับที่ 4 นาโปลี (76 คะแนน)
- อันดับที่ 5 ยูเวนตุส (75 คะแนน)
เงื่อนไขของแต่ละทีม
เอซี มิลาน: พลพรรค ‘รอสโซเนรี’ ทำให้ผลงานตลอดฤดูกาลผ่านไป 37 นัด มี 76 คะแนน ห่างจากยูเวนตุส ทีมอันดับ 5 เพียง 1 คะแนน นั่นเท่ากับว่าเอซี มิลาน จำเป็นต้องเก็บ 3 แต้ม เหนืออตาลันตา ทีมอันดับ 2 ของตาราง เพื่อการันตีการจบลีกอันดับที่ 3 แบบไม่ต้องลุ้นผลทีมอันดับ
แต่กลับกัน ถ้าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะในเกมดังกล่าว จะทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะเป็นฝ่ายหล่นลงไปจมอยู่ในอันดับที่ 5 ในกรณีที่นาโปลีและยูเวนตุสสามารถเก็บ 3 คะแนนจากนัดสุดท้าย
นาโปลี: เงื่อนไขของนาโปลีนั้นไม่ต่างกับเอซี มิลาน เช่นเดียวกับคะแนนที่มีเท่ากันที่ 76 คะแนน เพียงของเฮดทูเฮดเป็นทางฝั่งของเอซี มิลาน ที่ทำได้ดีกว่า
โดยเหล่าขุนพลอัสซูลีจะลงเล่นนัดปิดฤดูกาลกับเวโรนา ทีมอันดับ 10 ของตาราง และเงื่อนไขในการเกาะพื้นที่ท็อป 4 หลังสิ้นเสียงนกหวีดจบเกมนั้นง่ายมากคือ พวกเขาต้องเก็บ 3 คะแนนในเกมดังกล่าวให้ได้ ก็จะการันตีโควตาแชมป์เปียนส์ลีกทันทีแบบไม่ต้องเหลียวมองยูเวนตุส
อย่างไรก็ตาม หากนาโปลีเกิดดวงแตกเป็นฝ่ายปราชัยในนัดนี้ เหล่าอัสซูลีคงต้องสวดภาวนาให้ยูเวนตุสที่มีแต้มก่อนแข่งตามหลังพวกเขา 1 คะแนน สะดุดแพ้ในเกมสุดท้าย เพื่อทำให้พวกเขาปิดฤดูกาลไปกับอันดับที่ 4 แทน
ยูเวนตุส: หากมองตามตารางคะแนนแล้ว คำว่าชัยชนะนัดสุดท้ายคงไม่เพียงพอสำหรับพวกเขา หากอีกสองทีมอย่างเอซี มิลาน และนาโปลี ต่างก็เก็บ 3 คะแนนได้เช่นกัน นั่นเท่ากับว่านอกจากชัยชนะที่พวกเขาต้องทำเองให้ได้ ต้องลุ้นให้เอซี มิลาน และนาโปลี ไม่ชนะด้วยเช่นกัน
ตราหมีหรือราชันชุดขาว ใครจะได้ฉลองแชมป์กลางกรุงมาดริด / ลาลีกา สเปน
อีกหนึ่งความระทึกของกระแสการลุ้นแชมป์ลีกนัดสุดท้ายประจำฤดูกาล 2020/21 ของฝั่งยุโรป คงหนีไม่พ้นการห้ำหั่นกันของ 2 ทีมจากกรุงมาดริด อย่างแอตเลติโก มาดริด (อันดับ 1 มี 83 คะแนน) และเรอัล มาดริด (อันดับ 2 มี 81 คะแนน) โดยที่บทสรุปทุกอย่างกำลังจะเปิดเผยหลังการแข่งขันนัดที่ 38 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคมนี้
เงื่อนไขของแต่ละทีม
แอตเลติโก มาดริด: เงื่อนไขครั้งนี้ไม่ต่างจากฤดูกาล 2013/14 ที่ ดิเอโก ซิเมโอเน ได้เคยพาทีมฝ่าความระทึกด้วยการคว้าแชมป์จากการแข่งขันนัดสุดท้าย เพราะถ้าพวกเขาบุกไปเช็กบิล เรอัล บายาโดลิด พร้อมโกย 3 คะแนนสำคัญ ก็จะทำให้แอตเลติโก มาดริด เถลิงแชมป์ทันทีแบบไม่ต้องเหลียวมองคู่ปรับร่วมเมือง
แต่หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน สะดุดเสมอขึ้นมา สิ่งเดียวที่พวกเขาต้องทำคือ ภาวนาให้เรอัล มาดริด ไม่สามารถเก็บ 3 คะแนนได้ ไม่เช่นนั้นทั้งสองทีมจะมีแต้มเท่ากัน แต่ราชันชุดขาวจะเป็นฝ่ายได้เฮ เพราะเฮดทูเฮดที่ดีกว่า ซึ่งเป็นผลให้เรอัล มาดริด ได้แชมป์ทันที
เรอัล มาดริด: 3 คะแนนจากบียาร์เรอัลในนัดที่ 38 นั้นไม่พอสำหรับราชันชุดขาว พวกเขาอาจจำเป็นต้องพึ่งสายมู เพื่อสวดส่งให้แอตเลติโก มาดริด มีผลการแข่งเสมอหรือแพ้เรอัล บายาโดลิด เท่านี้ก็จะส่งผลให้เรอัล มาดริด แซงหน้าเข้าป้ายคว้าแชมป์ไปนอนกอดเป็นสมัยที่ 35
แชมป์ลีกเอิงอาจเปลี่ยนมือ? / ลีกเอิง ฝรั่งเศส
ครบรอบ 10 ปีพอดี สำหรับการกลับมาลุ้นแชมป์ลีกเอิงแบบเต็มตัวอีกครั้งของลีลล์ หลังจากฤดูกาลนี้พวกเขาฝ่าฟันมา 37 นัด มี 80 คะแนน เหนือทีมอันดับ 2 อย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง หรือเปแอสเช แชมป์เก่า อยู่เพียง 1 คะแนนเท่านั้น
เงื่อนไขของแต่ละทีม
ลีลล์: ถ้าลีลล์ต้องการเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร พวกเขาต้องเอาชนะอองเชร์ (ทีมอันดับ 12 ของตาราง) เพื่อเก็บ 3 คะแนน และคว้าแชมป์แบบโนสนโนแคร์เปแอสเชว่าจะชนะนัดสุดท้ายหรือไม่
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง: นอกเหนือจากภารกิจที่ เมาริซิโน โปเชตติโน ต้องพาลูกทีมบุกปราบแบรสต์ (ทีมอันดับ 16 ของตาราง) ที่กำลังต้องการแต้มเพื่อหนีพื้นที่เพลย์ออฟ หนีตกชั้น เปแอสเชยังต้องลุ้นให้ลีลล์เสมอหรือแพ้ในนัดสุดท้าย เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น พวกเขาจะแซงหน้าคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน และสมัยที่ 10 ของสโมสรทันที
เสือใต้ลอยลำ ลุ้นพาเลวานดอฟสกีทุบสถิติ แกร์ด มุลเลอร์ / บุนเดสลีกา เยอรมัน
เรื่องแชมป์ของลีกนี้คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณให้มากความ หลังจากทัพ ‘เสือใต้’ บาเยิร์น มิวนิก สามารถเช็กบิลจองถาดแชมป์ตั้งแต่นัดที่ 32 ของฤดูกาล ควบคู่ความยอดเยี่ยมของกองหน้าคู่ขวัญประจำทีมอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ที่ตอนนี้ซัดไปแล้ว 40 ประตูในลีก เหลือเพียงลุ้นทำประตูที่ 41 ในนัดปิดฤดูกาล เพื่อตอกย้ำความเป็นยอดกองหน้าแห่งยุค และทุบสถิติของ แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานของเสือใต้ผู้ที่เคยทำเอาไว้ที่ 40 ประตู เมื่อฤดูกาล 1971/72
