ต่อยอดธุรกิจไม่หยุด เมื่อ KTC ได้เปิดตัว Alipay+ หนุนธุรกิจร้านค้าในไทย รับชำระเงินดิจิทัลระหว่างประเทศบนระบบของ KTC หวังดึงเม็ดเงินการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว พร้อมตั้งเป้าดันให้ธุรกิจร้านค้ารับชำระเติบโตกว่า 20%
ผ่านการร่วมมือกับแอนท์ กรุ๊ป (Ant Group) ผู้ให้บริการ Alipay และ Alipay+ โดยได้เปิดให้ร้านค้าหรือผู้ประกอบการในไทยสามารถรับชำระเงินผ่านโมบายล์วอลเล็ตได้หลากหลายมากขึ้น เบื้องต้นจะเริ่มรองรับนักท่องเที่ยวในจีน ฮ่องกง มาเลเซีย และเกาหลีใต้ก่อน สเต็ปถัดไปค่อยจะขยายไปเรื่อยๆ ที่สำคัญคือร้านค้าของ KTC สามารถเชื่อมต่อระบบเพียงครั้งเดียวก็สามารถเข้าถึงผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียได้มากถึง 1 พันล้านคน แน่นอนว่าสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เปลี่ยนนาฬิกาเป็นกระเป๋าสตางค์เคลื่อนที่! เปิดตัว ‘SwatchPAY!’ ที่ไทยเป็นแห่งแรก
- ‘KTC’ โชว์กำไรนิวไฮที่ 7,140 ล้านบาท พอร์ตลูกหนี้ทะลุกว่าแสนล้านบาท
- KTC ผนึก ‘Alipay’ เสริมบริการรับชำระร้านค้า รองรับนักท่องเที่ยวจีนกำลังซื้อสูง
“เส้นทางการเติบโตภายในปีนี้จะมาจาก 3 กลยุทธ์หลักที่ประกอบไปด้วย 1. Stability สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับร้านค้าและลูกค้า ตามด้วย 2. Security สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยด้วยมาตรฐานการจัดการข้อมูลร้านค้าและผู้เกี่ยวข้อง ด้วยมาตรฐานการจัดการความปลอดภัยของข้อมูล และ 3. Service ร้านค้าได้เงินเข้าบัญชีไวภายใน 24 ชั่วโมง” เนาวรัตน์ กีรติเกษมสุข ผู้บริหารสูงสุด สายงานบริหารร้านค้าสมาชิก KTC หรือ บมจ.บัตรกรุงไทย กล่าว
สิ่งที่น่าสนใจคือ ร้านค้าสมาชิกที่รับชำระด้วย Alipay+ จะสามารถเข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายและจะได้รับโปรโมชันต่างๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้กับร้านค้าได้ ที่ผ่านมา KTC มีพันธมิตรค้าปลีกอย่าง The Mall และ King Power ที่ให้บริการรับชำระด้วย Alipay+ บนระบบรายแรกๆ
ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทเตรียมขยายฐานร้านค้า ทั้งการรับชำระด้วยบัตรเครดิต Alipay และ Alipay+ เพื่อตอบโจทย์การรับชำระข้ามประเทศให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ พัทยา ชลบุรี ภูเก็ต และหาดใหญ่
เรียกได้ว่า ปัจจุบันร้านค้าสมาชิก KTC สามารถรับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วย QR Code ของโมบายล์วอลเล็ตที่อยู่ในระบบนิเวศของ Alipay+ อาทิ Alipay (สำหรับชาวจีน) เปิดตัวในไทยตั้งแต่ปี 2558 และล่าสุดกับโมบายล์วอลเล็ตใหม่อีก 3 ราย ได้แก่ AlipayHK (เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน) ตามด้วย KakaoPay (เกาหลีใต้) และ Touch ‘n Go eWallet (มาเลเซีย) โดยทั้ง 4 โมบายล์วอลเล็ตตอบโจทย์นักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมเดินทางมาประเทศไทยมากที่สุด
ทั้งนี้ผลประกอบการช่วงเดือน 5 เดือนแรกของปี (มกราคม-พฤษภาคม 2566) ธุรกิจร้านค้ารับชำระด้วยบัตรเครดิตและวอลเล็ต Alipay ของ KTC มีปริมาณรับชำระเพิ่มขึ้น 27% คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท
ส่วนใหญ่มาจากปัจจัยของแนวโน้มเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และคาดสิ้นปี 2566 ปริมาณยอดรับชำระด้วยบัตรเครดิตและวอลเล็ต Alipay และ Alipay+ ของ KTC จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย หรือแตะ 1 แสนล้านบาท
ด้าน สิทธิพงษ์ กิตติประภาพงศ์ ผู้จัดการทั่วไปด้าน Global Merchant Partnership ประจำประเทศไทย บริษัทแอนท์ กรุ๊ป กล่าวต่อไปว่า วิชันของบริษัทไม่ได้ต้องการให้ Alipay+ เป็นแค่การจ่ายเงิน แต่เราต้องการจะเป็นโซลูชันที่รวมทั้งการตลาดและการชำระเงินไว้ในที่เดียวกัน และขับเคลื่อนไปกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัล โดยจะเชื่อมผู้ใช้บริการและร้านค้าด้วยระบบอีโคซิสเต็ม เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้พันธมิตรของ Alipay และเพิ่มจุดแข็งของ Alipay+ จะมีเครื่องมือในการทำการตลาดเข้าไปสนับสนุนพันธมิตรในไทย
