ปัจจุบันคนทั่วโลกเริ่มหันมาให้ความสนใจในสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรีไซเคิล ใช้พลังงานทดแทน และรวมไปถึงการเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนรถสันดาป Counterpoint Research เผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกของไตรมาสที่ 1 ในปีนี้โตขึ้นถึง 79% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2021 ซึ่งสามารถคาดการณ์ได้ว่าเทรนด์ของการใช้รถไฟฟ้านั้นมีความเป็นไปได้ที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ
จากงานวิจัยกรุงศรีพบว่า 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้คนไทยตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้า ได้แก่ 81% คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการใช้งานต่ำกว่า 73% คิดว่าดีต่อสิ่งแวดล้อม และสุดท้าย 59% ชื่นชอบในเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
ในขณะเดียวกันผู้ใช้รถยนต์สันดาปมากกว่า 80% มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าภายใน 5 ปี เนื่องจากอายุรถในปัจจุบันถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยน และรวมไปถึงเทคโนโลยีที่มีการพัฒนามากขึ้นในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคาดการณ์ได้ว่าตลาดของรถไฟฟ้านั้นจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยอย่างแน่นอน
ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายเจ้าที่เข้ามาบุกตลาดประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น เกรท
วอลล์ มอเตอร์ เจ้าของ ORA Good Cat ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ ที่ถูกดีไซน์มาเจาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิงโดยเฉพาะ ซึ่งถือว่า ORA Good Cat นั้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่เปิดตัวในประเทศไทยในปี 2021 และได้การรตอบรับที่ล้นหลามจากยอดจองมากกว่า 3,000 คันในระยะเวลาอันรวดเร็ว
รวมไปถึงค่ายรถยนต์สันดาปที่ได้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เช่น MG ได้เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ‘NEW MG ZS EV’ ในช่วงมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยราคาที่เอื้อมถึง 1,190,000 บาท พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ไฟฟ้านาน 8 ปี (หรือ 180,000 กิโลเมตร) และประกันคุณภาพรถ 4 ปี (หรือ 120,000 กิโลเมตร) ซึ่งยอดจองสะสมมีมากกว่า 3,000 คันเลยทีเดียว
และไม่พูดถึงไม่ได้ก็คงจะเป็น รถยนต์ไฟฟ้า BYD นับเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าจับตามอง เพราะ BYD เพิ่งจะประกาศศักดาเป็น Top 3 เจ้าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีน นอกจากจะเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดรถไฟฟ้าแล้วนั้น BYD ยังสร้างปรากฏการณ์ยอดจองทะลุ 2,500 คันภายในวันเดียว!
แต่อย่างที่เรารู้กัน สิ่งที่สำคัญสำหรับการเป็นเจ้าของรถยนต์สักคันนั้นคือการมี ‘ประกันภัย’ ที่เราไว้ใจได้ ดังนั้นเราควรหาบริษัทประกันที่น่าเชื่อถืออย่าง ‘KSK by Sunday’
KSK by Sunday
บริษัท เคเอสเค ประกันภัย เริ่มรับประกันภัยในไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2544 ซึ่งในปัจจุบันได้รับการดูแลผ่านซันเดย์ กลุ่มบริษัทอินชัวร์เทค ซึ่งเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย และเป็นผู้นำในการให้บริการเทคโนโลยีและประกันภัยแบบครบวงจรเจ้าแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยมุ่งหวังที่จะสร้างประวัติศาตร์หน้าใหม่ให้กับวงการประกัน โดยมีการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ แมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning) เข้ามาประยุกต์ใช้ในการให้บริการตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบผลิตภัณฑ์ การกำหนดราคา การให้บริการต่างๆ รวมถึงการคิดค้นและพัฒนาฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงประกันได้สะดวก รวดเร็ว ในราคาที่เอื้อมถึง
‘KSK by Sunday’ รับประกันเบี้ยเริ่มต้นที่ 22,xxx-25,xxx บาท!
แม้ในบ้านเราจะมีบริษัทประกันหลายรายที่รับประกันรถยนต์ไฟฟ้า แต่สำหรับ บริษัท เคเอสเค ประกันภัย (ประเทศไทย) หรือ ‘KSK by Sunday’ นั้น แตกต่างด้วยการรับประกันเบี้ยเริ่มต้นที่ 22,xxx-25,xxx บาท! ถือเป็นราคาที่เข้าถึงได้เมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ ซึ่งมีราคาเฉลี่ยเริ่มต้นอยู่ที่ 25,xxx-45,000 บาทต่อปี
โดยในปัจจุบันการปรับแต่งแผนประกันทั่วไปที่บริษัทประกันขาย คือการปรับแต่งแผนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบแผนความคุ้มครองแบบแพ็กเกจเพียงไม่กี่แบบ โดยให้ลูกค้าเลือกตามงบประมาณของตนเอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการคิดเบี้ยประกัน บริษัทประกันจะคำนวณโดยการนำความเสื่ยงของทุกคนมาเฉลี่ยเพื่อหาเบี้ยประกันและความคุ้มครองของทุกคน ซึ่งลูกค้าก็สามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมได้ไม่มากหนัก เช่น มูลค่าการรับประกัน (Sum Insure)
ปัจจัยหลักที่ทำให้ประกันของ KSK by Sunday มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่ารายอื่นๆ ก็เพราะ KSK by Sunday นำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในการสร้างและทดสอบระบบบริหารจัดการความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีการนำตัวแปรต่างๆ มากกว่า 500 ตัวแปร มาใช้ในการคำนวณแบบเรียลไทม์ ร่วมกับโมเดล Machine Learning มากกว่า 10 รูปแบบ
โดยความเสี่ยงแต่ละรูปแบบจะถูกประเมินตามนัยสำคัญเชิงสถิติ (Statistical Significance) และความน่าจะเป็นของตัวแปรแต่ละตัว ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากการวิเคราะห์ต้นทุนความเสี่ยงที่แม่นยำ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแบบเฉพาะตัวบุคคล (Personalization) ได้อย่างแท้จริง
การคำนวณเบี้ยประกันของ KSK คือการคำนวณจากความเสี่ยงของรายบุคคล โดยไม่ได้ยกความเสี่ยงของทุกคนมาเฉลี่ย ซึ่งคุณสามารถวางใจได้เลยว่าคุณจะได้เบี้ยประกันและความคุ้มครองที่ออกแบบมาให้คุณโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ KSK ยังนำเทคโนโลยีมาช่วยในการคำนวณเบี้ยประกันเพื่อความแม่นยำอีกด้วย และเหมาะสมต่อรายบุคคล ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลทั่วไปของผู้ขับขี่ ประวัติการขับขี่ คุณสมบัติด้านความปลอดภัยของรถ (เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติ, Blind Spot ฯลฯ) และปัจจัยภายนอกต่างๆ เช่น การเกิดอุทกภัย รวมไปถึงอัตราการเกิดอุบัติเหตุในละแวกที่ผู้ขับขี่อาศัยหรือเดินทางเป็นประจำอีกด้วย
ทำไมเบี้ยประกันชั้น 1 ของรถยนต์ไฟฟ้าจึงถูกเข้าใจว่าจะมีราคาที่สูง
เนื่องจากประกันชั้น 1 นั้นครอบคลุมรอบด้านจึงส่งผลให้มีราคาที่สูงกว่าประกันชั้นอื่นๆ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่งแพร่หลาย คนทั่วไปจึงอาจกังวลว่าเบี้ยประกันอาจมีราคาสูงได้ ซึ่งสาเหตุหลักที่คนทั่วไปมองว่าเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่สูง มีดังนี้
- อุบัติเหตุที่เกิดจะรุนแรงขึ้น เนื่องจากเหยียบคันเร่งแล้วรถออกตัวแรง จากการศึกษาผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศ ผู้ขับขี่สามารถปรับตัวกับพฤติกรรมของรถที่เปลี่ยนแปลงไปได้ในระยะเวลาไม่นาน
- ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่มีมูลค่าสูง 50-60% ของตัวรถ ทำให้ความเสี่ยงในการรับประกันสูงขึ้น โดยแบตเตอรี่เป็นชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักมาก มักจะถูกติดตั้งในส่วนกลางค่อนไปทางด้านหลังรถ หรือในส่วนใต้ท้องรถ เพื่อประโยชน์ด้านจุดศูนย์ถ่วง ทำให้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน ความน่าจะเป็นที่แบตเตอรี่จะได้รับความกระทบกระเทือนจะมีน้อยกว่า เนื่องจากอยู่ในส่วนในสุด ส่วนอุบัติเหตุที่กระทบกับช่วงล่างของรถจะพบได้น้อยกว่ามาก
- ค่าใช้จ่ายในการนำเข้าอะไหล่และความพร้อมของศูนย์บริการที่ไม่เพียงพอ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมสูงขึ้น และช่างซ่อมรถยนต์ที่สามารถซ่อมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้มีน้อย ทำให้ค่าแรงในการซ่อมสูงขึ้น แม้ราคาจะลดลงหลังจากที่มีการขยายศูนย์ซ่อม แต่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำให้ครอบคลุม
- ข้อมูลที่ยังมีจำนวนน้อย ทำให้บริษัทประกันต้องบวกปัจจัยเสี่ยงที่ไม่อาจคาดเดาได้ในอนาคตเอาไว้ส่วนหนึ่งในค่าเบี้ย ดังนั้นช่วงแรกจึงมีราคาที่ค่อนข้างสูง หลังจากนั้นจะค่อยๆ ลดลงเมื่อบริษัทประกันมีข้อมูลลูกค้ามาใช้ในการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้น
KSK by Sunday มีการเตรียมความพร้อมในการดูแลผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ดังนี้
- ลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ KSK by Sunday สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการต่างๆ โดยลูกค้าสามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการและศูนย์ซ่อมในเครือ KSK มากกว่า 500 อู่ทั่วประเทศ
- KSK by Sunday ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและศูนย์บริการเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
- KSK by Sunday ได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยให้ความรู้จัดสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถของอู่ซ่อมรถอื่นๆ ภายในเครือทั่วประเทศ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่พิจารณาสินไหมให้สามารถบริการลูกค้าที่ทำประกันรถ EV กับเราได้อย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพ
6 เหตุผลที่ทำให้ KSK by Sunday เป็นประกันภัยที่เหมาะสมกับ รถ EV
ทั้งหมดทั้งมวลทำให้ KSK by Sunday เป็นประกันภัยที่เหมาะสมกับรถ EV มากที่สุด ซึ่งมาจาก 6 เหตุผลหลักๆ ดังนี้
1. รับประกันเบี้ยเริ่มต้นที่ 22,xxx-25,xxx บาท* (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด) เพราะประกัน KSK by Sunday เป็นเจ้าเดียวที่นำเทคโนโลยีมาคำนวณเบี้ยประกัน การันตีความถูกต้องแม่นยำ และที่สำคัญสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกได้ แต่ความคุ้มครองอยู่ครบ
2. สามารถเข้ารับบริการศูนย์และอู่ซ่อมได้กว่า 500 แห่งทั่วประเทศ
3. บริการ Customer Service ที่พร้อมรับสายคุณ (ภายใน 15 วินาที) ตลอด 24 ชั่วโมง
4. พนักงานเคลมอุบัติเหตุ ถึงที่เกิดเหตุภายใน 20 นาที
5. มีฟังก์ชัน Live Streaming ลูกค้าสามารถแจ้งเคลมผ่านออนไลน์ได้ พร้อมเจ้าหน้าที่คอยให้การช่วยเหลือแบบเรียลไทม์ และรับใบเคลมอิเล็กทรอนิกส์ภายใน 20 นาที ผ่าน SMS และรับลิงก์รายงานแจ้งเตือนการซ่อมผ่าน SMS เช่นกัน ให้คุณติดตามการซ่อมได้ตลอดเวลา
6. การเรียกเคลมค่าชดเชยคืน (ในกรณีลูกค้าสำรองจ่ายก่อน) การันตีภายใน 2 สัปดาห์
เห็นอย่างนี้แล้วผู้เป็นเจ้าของรถ EV อย่ารีรอ หากต้องการประกันที่คุ้มค่าและอุ่นใจได้ สามารถอ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่นี่
สนใจติดต่อ
Email: [email protected]
LINE OA: @easysunday
Tel. 0 2026 3355
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีนกำลังเฟื่องฟู แต่ความหวือหวานี้จะอยู่ได้นานอีกเท่าไร?
- เปิดเงื่อนไขซื้อ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ รัฐบาลช่วยจ่ายเงินอุดหนุนเท่าไร ลดภาษีกี่เปอร์เซ็นต์
- BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ในมือประธานวงศ์ พรประภา ฝันที่ยิ่งใหญ่ของ ไฮโซพก
อ้างอิง: