×

‘กรุงศรี คอนซูมเมอร์’ ชู 3 กลยุทธ์ดันยอดใช้จ่ายผ่านบัตรปีนี้โต 10%

14.03.2022
  • LOADING...
‘กรุงศรี คอนซูมเมอร์’ ชู 3 กลยุทธ์ดันยอดใช้จ่ายผ่านบัตรปีนี้โต 10%

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผยผลประกอบการปี 2564 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 2.85 แสนล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 7.65 หมื่นล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 1.39 แสนล้านบาท เป็นผลจากการบริหารค่าใช้จ่าย พร้อมใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ควบคู่กับการรักษาคุณภาพสินเชื่อและช่วยเหลือลูกค้า ประกาศกลยุทธ์ปี 2565 มุ่งใช้ระบบดิจิทัลและข้อมูลในการยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการ พร้อมจับมือพันธมิตรสร้างความเติบโต ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร 3.12 แสนล้านบาทหรือโต 10% 

 

ณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล แบรนด์บัตรเครดิตกรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส กล่าวว่า ผลประกอบการของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในปี 2564 ยังคงเติบโตเป็นที่น่าพอใจ แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิดที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า 

 

โดยในปี 2564 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 285,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 76,500 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 139,900 ล้านบาท อันเป็นผลจากการบริหารค่าใช้จ่าย พร้อมใช้เทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ควบคู่กับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม และช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของบริษัทอยู่ที่ระดับ 1.1% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.8% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ 

 

สำหรับหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุดเรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่ 1. ประกันภัย 2. ช้อปปิ้งออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ 3. ไฮเปอร์มาร์ทและซูเปอร์มาร์เก็ต 4. ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน 5. ปั๊มน้ำมัน ส่วนหมวดใช้จ่ายที่มีอัตราเติบโตมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ช้อปปิ้งออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (+55%) 2. ไอทีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (+12%) 3. ปั๊มน้ำมัน (+11%) 4. ประกันภัย (+9%) และ 5. ตกแต่งบ้านและของใช้ในครัวเรือน (+8%) 

 

ข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ยอดการช้อปปิ้งผ่านออนไลน์แพลตฟอร์มยังคงเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเพิ่มสูงขึ้นถึง 55% เทียบกับปี 2563 ขณะที่ยอดใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้ายังคงทรงตัว แต่ที่น่าสนใจคือ ยอดใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของหมวดห้างสรรพสินค้าเติบโตถึง 62% แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการปรับตัวของทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ที่ให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์มากขึ้น มีการปรับรูปแบบเป็นการขายของแบบออมนิแชนแนล คือทั้งออนไลน์และหน้าร้าน

 

สำหรับในปี 2565 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเริ่มชะลอลงบ้าง จากการระบาดของโรคโควิดสายพันธุ์โอมิครอน รวมทั้งสภาวะเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังมีปัจจัยหนุนจากมาตรการพยุงกำลังซื้อประชาชน และกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อในปีนี้ คาดว่าการแข่งขันจะสูงขึ้น รวมไปถึงจะเห็นความร่วมมือระหว่างสถาบันการเงินกับธุรกิจต่างๆ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ๆ มากขึ้น และผู้ประกอบการมีแนวโน้มจะนำเอาระบบดิจิทัลและข้อมูลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตในรูปแบบดิจิทัล หรือการขอสินเชื่อแบบดิจิทัล เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปิดรับเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น 

 

ทั้งนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้เตรียมปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เพื่อพัฒนาศักยภาพองค์กรให้พร้อมก้าวสู่โลกการเงินยุคใหม่ โดยได้วางกลยุทธ์หลัก 3 ประการ ได้แก่ 

 

  1. การใช้ระบบดิจิทัลและข้อมูลในการทำธุรกิจสำหรับอนาคต โดยมุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศดิจิทัล ผ่านการขยายแพลตฟอร์มข้อมูล และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการใหม่ๆ ผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น การพัฒนาบัตรเครดิตดิจิทัลใหม่ๆ ที่มีจุดเด่นหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ซึ่งจะทยอยเปิดตัวภายในปีนี้ รวมถึงบริการใหม่อื่นๆ เช่น การปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล โดยกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจจากธนาคารแห่งประเทศไทย และคาดว่าจะเริ่มให้บริการในครึ่งหลังของปีนี้

 

ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้พัฒนาบริการใหม่ เช่น การขยายจุดรับบริการยืนยันตัวตนในการสมัครบัตรในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ การพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ในแอป UCHOOSE เช่น บริการสมัครบัตรใหม่ผ่านแอป บริการ UCASH บริการเบิกเงินสดจากวงเงินบัตรผ่านแอปโดยโอนเข้าบัญชีธนาคาร บริการผ่อนก่อนจ่ายทีหลัง (BNPL-Buy Now Pay Later) ผ่านแอป ซึ่งสามารถขอทำรายการผ่อนชำระสินค้าด้วยตนเอง รวมถึงการนำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ในการทำการตลาดเฉพาะบุคคล เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และโปรโมชันที่ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

 

  1. การสร้างความเติบโตโดยผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรี และพันธมิตรชั้นนำทางธุรกิจ รวมทั้งการขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยยึดหลักการทำงานแบบ Krungsri One Retail ซึ่งจะผสานความร่วมมือระหว่างหลายกลุ่มธุรกิจในเครือกรุงศรี เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ข้อมูล ผลิตภัณฑ์ และช่องทางการขายระหว่างกัน ควบคู่กับการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในธุรกิจ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรโมชันที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า พร้อมกับการปรับโมเดลธุรกิจเพื่อแสวงหาแหล่งรายได้ใหม่ๆ เช่น นำเสนอบริการ ‘Call Center as a Service’, ‘Collection as a Service’ เพื่อให้บริการกับพันธมิตร เป็นต้น รวมทั้งขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน เช่น สปป.ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม 

 

  1. การพัฒนาศักยภาพองค์กร โดยเฉพาะการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ก้าวทันโลกธุรกิจยุคใหม่ พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานแบบยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ เพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพสูง ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่โลกการเงินแห่งอนาคต

 

ณญาณีกล่าวอีกว่า ในปีนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร 312,300 ล้านบาท หรือเติบโต 10% ยอดสินเชื่อใหม่ 84,600 ล้านบาท เติบโต 11% ยอดสินเชื่อคงค้าง 149,600 ล้านบาท เติบโต 7% และมียอดบัตรใหม่ 500,000 บัญชี จากปีก่อนที่ประมาณ 300,000 บัตร 

 

โดยในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา ยอดใช้ผ่านบัตรเครดิตมีการเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนแล้ว 12.3% ขณะที่สินเชื่อบุคคลเติบโตได้ประมาณ 8.3% ซึ่งคาดว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่คนไทยเริ่มปรับตัวเข้ากับสถานการณ์โควิดได้ และกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้น

 

สำหรับแนวทางการดูแลคุณภาพหนี้ในปีนี้ บริษัทยังมีแผนให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยต้องรอดูว่าเมื่อครบกำหนดการผ่อนเกณฑ์ของ ธปท. ในสิ้นปีนี้แล้ว สถานการณ์จะเป็นอย่างไร หากความสามารถในการชำระของคนยังกลับมาไม่มากก็อาจต้องเสนอให้ ธปท. ยืดระยะเวลาของมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ออกไป

 

“แม้จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจบ้างแล้วในตอนนี้ แต่เรายังคงเกณฑ์การอนุมัติไว้ในระดับเดิม เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่เข้าไปสู่จุดเดิม และยังมีเหตุการณ์ใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม เช่น ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน จึงยังต้องใช้ความระมัดระวังอยู่” ณญาณีกล่าว 

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising