×

ลวงให้รักจากจิตสำนึก การรับรู้ อินเซ็ปชัน และเสน่ห์ยาแฝดของนังเรณูบ้านแบ้

23.04.2019
  • LOADING...
กรงกรรม

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • การใช้เสน่ห์ยาแฝดของเรณู อาจแทบไม่ได้ต่างอะไรกับการปลูกจิตสำนึกในโลกแห่งความฝันอย่างในหนังเรื่อง Inception (2010) ของคริสโตเฟอร์ โนแลน สักเท่าไรเลย ด้วยจุดประสงค์ที่เหมือนกันนั่นคือลวงหลอกความคิดของใครสักคนให้ ‘เชื่อ’ หรือ ‘เข้าใจ’ ในสิ่งที่เขาอาจคิดไม่ได้ มีอคติ เข้าไปเปลี่ยนแปลง หรือสร้างการรับรู้ใหม่ขึ้นมาในจิตสำนึกของพวกเขา

“คนจะรักกัน มันไม่ได้รักกันที่รูปโฉมสมบัติพัสถาน มันรักกันด้วยความจริงใจ และทำดีต่อกันต่างหาก” บทสนทนาจากซีนหนึ่งของละครเรื่อง ‘กรงกรรม’ ที่หมอก้อนจากตาคลีกำลังนั่งพร่ำสอนถึงผลลัพธ์ของการทำ ‘ของ’ กับกะหรี่ตัวท็อปจาก Lotus Bar ที่แวะมาเยี่ยมเยือนและใช้บริการเขาอยู่บ่อยๆ หากตัวเราเองกำลังนั่งอยู่ในสำนักของหมอเคียงข้างอีเรณู และอีติ๋ม เราคงบ่นแทนคนดูคนอื่นๆ ไปแล้วว่า “แหมมมม…พูดง่าย แต่ทำมันไม่ง่ายนะหมอ” เพราะสิ่งที่หมอพูดออกมามันทำยาก ดูอย่างนางเรณูสะใภ้ใหญ่ของบ้านแบ้ดูสิ ขนาดหล่อนทำงานหามรุ่งหามค่ำ ปากกัดตีนถีบ ขยันขันแข็ง แม่ผัวสุดที่รักยังไม่ชายตาแลสักองศา!

 

‘กรงกรรม’ นับเป็นละครไทยฟอร์มแข็งเรื่องหนึ่งประจำช่วงต้นปีนี้ ซึ่งตอนนี้กรงที่กักขังเวรกรรมของคนในตระกูลแบ้ (อัศวรุ่งเรืองพานิช) กำลังจะสลายสิ่งที่กางกั้นในไม่ช้านี้ และจุดไคลแมกซ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปคือการถอน ‘ของ’ ออกจากตัวแม่ย้อย (รับบทโดย ใหม่ เจริญปุระ) ที่ทุรนทุรายจวนเจียนจะตาย ซ้ำยังเปิดเผยเรื่องราวในอดีตที่ฝังใจของย้อยออกมาอีกด้วย และต้องนับว่ารุนแรงมาก พอที่จะทำให้เรื่องราวทั้งหมดในละครเรื่องนี้เกิดขึ้นได้จริงในชีวิตของใครสักคน เวียนว่ายวนในเวรกรรมที่ทำต่อกันไม่รู้จบ

 

เราขอเล่าสั้นๆ ง่ายๆ ว่าเรื่องทั้งหมดก่อนจะมาถึงจุดนี้เป็นอย่างไร? เริ่มต้นที่ เรณู (รับบทโดยเบลล่า-ราณี แคมเปน) เผลอไปทำเสน่ห์ยาแฝดใส่ย้อยจากการยุยงของ ติ๋ม (รับบทโดย เฟรช-อริศรา วงษ์ชาลี) ซึ่งหลังจากย้อยโดนของ แม่ผัวจอมเฮี้ยบก็หลงลูกสะใภ้ใหญ่ อดีตกะหรี่ที่เธอไม่เคยยอมรับมาตลอดจนโงหัวไม่ขึ้น และพิไล (รับบทโดย แพร-พิชชาภา พันธุมจินดา) สะใภ้รอง นอกจากจะเฝ้าเก๊ะเงินเก่งมากแล้ว เธอยังสังเกตพฤติกรรม และอาการทั้งหมดจนรับรู้ว่าย้อยโดนทำของใส่ เธอจึงจัดแจงหาหมอมาถอนของดังกล่าวออกให้

 

กรงกรรม

 

พื้นฐานของตัวละครเรณูแสดงออกถึงพฤติกรรมที่โฉ่งฉ่าง ขวานผ่าซากมาตลอดเรื่อง และอิทธิฤทธิ์ของเสน่ห์ยาแฝดที่เธอทำกับหมอก้อนนั้นจะทำให้คนที่เธอทำของใส่หลงรักเธอหัวปักหัวปำ เห็นด้วยคล้อยตามไปหมดอย่างไม่มีสาเหตุ คนแรกที่โดนคืออาไช้ผัวรักของนาง ลูกชายคนโตของย้อย และคนต่อมาคือนางย้อยเองที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำของใส่ เพียงแต่ go with the flow กับรุ่นพี่กะหรี่อย่างอีติ๋มที่ยุยงเธอ ฉะนั้นในกรณีนี้ไม่ว่าเธอจะทำดีจริงๆ หรือทำไม่ดีจริงๆ การรับรู้ของคนในชุมแสงเองก็มักจะเห็นดีเห็นงามกับความ ‘จริงใจ’ ของเธอด้วยเสมอ และเมื่อเธอโดนข่าวลือว่าทำของใส่แม่ผัว กระแสของชุมชนจึงโต้กลับว่า ‘ไม่ เรณูไม่มีวันทำอย่างนั้นหรอก’ เพราะการรับรู้ของคนทั่วไปยังเห็นว่าเรณูเป็นคนสู้งาน ทำมาหากิน พูดง่ายๆ ว่าเธอมีความดี ‘ฉาบไว้’ ในสายตาของคนอื่นๆ

 

เปรียบเทียบกับอีกด้านของการรับรู้ผ่านประสบการณ์ของคนในชุมแสงต่างรู้ฤทธิ์ของนางย้อยดีว่าเป็นคนนิสัยดุร้ายอย่างไร ไม่มีหัวจิตหัวใจขนาดไหน ดังนั้นเรณูคือผู้ถูกกระทำในสายตาคนอื่นเสมอ ต่อให้เธอเคยสำออยมานอนหน้าบ้านแบ้ให้ยุงหามเล่นๆ เพื่อโบ้ยความใจร้ายไปลงที่ย้อย หรือแม้แต่เคยแกล้งล้มบนสะพานแล้วโกหกว่าแท้งลูกก็ตาม อีเรณูนี่มันร้ายจริงๆ!

 

เราจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเรื่องราวในละครถึงผลักดันให้ตัวละครเรณูเดินทางมาไกลถึงขนาดสามารถทำของใส่แม่ผัวตัวเองได้ เพราะถึงแม้หล่อนจะทำดีแทบตายในทุกๆ วิถีทางเพื่อพิสูจน์ตัวเอง แต่มัน ‘ไม่มีผลอะไรเลย’ เพราะคนอย่างย้อยหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็ไม่มีใจให้ลูกสะใภ้ชั้นต่ำอย่างเธอแน่นอน การทำของใส่และการพึ่งพาไสยศาสตร์จึงเป็นหนทางเดียวจริงๆ ที่จะทำให้ย้อยหันมามองความดีงามในตัวของเรณูบ้าง ทำของใส่ไม่ใช่เพื่อให้หลงรัก แต่เธอต้องการเพียงแค่ให้ย้อยสร้างการรับรู้ใหม่เกี่ยวกับตัวเธอเท่านั้นเอง

 

กรงกรรม

ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Inception (2010)

 

ในเมื่อเสน่ห์ยาแฝดมันสามารถทำให้คนที่เกลียดกันจะเป็นจะตายหันมาทำดีต่อกันได้ เราจึงแอบคิดอยู่สักกระบิหนึ่งว่าการใช้เสน่ห์ยาแฝดของเรณู อาจแทบไม่ได้ต่างอะไรกับการปลูกจิตสำนึกในโลกแห่งความฝันอย่างในหนังเรื่อง Inception (2010) ของคริสโตเฟอร์ โนแลน สักเท่าไรเลย ด้วยจุดประสงค์ที่เหมือนกันนั่นคือลวงหลอกความคิดของใครสักคนให้ ‘เชื่อ’ หรือ ‘เข้าใจ’ ในสิ่งที่เขาอาจคิดไม่ได้ มีอคติ เข้าไปเปลี่ยนแปลง หรือสร้างการรับรู้ใหม่ขึ้นมาในจิตสำนึกของพวกเขา ต่อยอดเป็นความคิด และแง่มุมใหม่ๆ ของทัศนคติได้ เช่นตอนที่ย้อยถูกทำของใส่ใหม่ๆ เธอมีอาการปวดแสบปวดร้อนท้องจนล้ม เรณูก็ทำตัวประหนึ่งนางเอกละครวิทยุที่วิ่งโผเข้ามารับร่างของแม่ผัวด้วยยาแก้ปวดท้องสูตรตาคลี ก่อนจะตบท้ายด้วยสูตรสำเร็จจากสามีย้อยว่า “คนเราจะเห็นใจกันก็ตอนป่วยไข้นี่แหละ” – เย่! เท่านี้อีเรณูได้แต้มความดีไปแล้ว ง่ายๆ แค่นี้เอง แถมแม่ผัวยังเริ่มมองเธอในแง่ดีอีกด้วย

 

กรงกรรม

 

‘ของ’ ที่เรณูทำอาจเรียกได้ว่าเป็นสิ่งเร้าจิตสำนึกของย้อยเพื่อให้เกิดการรับรู้ใหม่ที่มีต่อเธอ แน่นอนว่าเธอเลือกปฏิบัติตัวเหมือนเดิมอย่างที่เธอเคยทำมาตลอดตั้งแต่ย้ายจากตาคลีมาชุมแสง เธอยังคงทำขนมขาย ขยันทำมาหากิน มีจิตใจเมตตา และทาปากแดงแจ๊ดเหมือนเดิม พอย้อยเริ่มมีความคิดที่จะลบล้างอคติที่มีในตัวเรณูออกไป ไม่ว่าจะด้วยผลของเสน่ห์ยาแฝด หรือยาแก้ปวดท้องที่เรณูต้มมาให้จิบก็แล้วแต่ สถานการณ์ตรงนั้นก่อให้เกิดสำนึกใหม่ของย้อยขึ้นมาแล้วเรียบร้อย ลูกสะใภ้ชั้นต่ำที่เธอจงเกลียดจงชังจึงถูกมองเปลี่ยนไปด้วยสายตาไร้อคติอย่างแท้จริง

 

อาจบอกได้ว่าเรณูกำลังลวงให้ย้อยรักเธอ และความร้ายกาจรุนแรงที่สุดในครั้งนี้คือการลวงหลอกให้ย้อยรักเธอจากใจจริงๆ ผ่านวาจา และการกระทำที่ค่อยๆ ฝังรากลึกหยั่งไปถึงจิตใจของย้อยอย่างเต็มใบ ถ้าถามว่าเหตุใดอดีตสะใภ้ชั้นต่ำจากตาคลีถึงกลายเป็นความดีงามที่บ้านแบ้รอคอย?

 

บรรทัดแรกสุดที่ว่า “คนจะรักกัน มันไม่ได้รักกันที่รูปโฉมสมบัติพัสถาน มันรักกันด้วยความจริงใจ และทำดีต่อกันต่างหาก” คือคำตอบของเรื่องนี้อย่างแท้จริง

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories