วันนี้ (24 ตุลาคม) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง เข้าให้ปากคำพร้อมนำเอกสารมามอบให้พนักงานสอบสวนของกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กรณีถูกระบุว่าอาจเรียกรับเงินจากทั้งฝ่ายผู้เสียหายและ บอสพอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ในการทำคดีดิไอคอนกรุ๊ป
กฤษอนงค์เปิดเผยว่า วันนี้นำเอกสารหลักฐานมามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อชี้แจงใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย เรื่องเงิน 10 ล้านบาทที่ถูกกล่าวหาว่าตบทรัพย์บอสพอล ซึ่งทำความเข้าใจกันไปแล้วว่าเป็นเงินสำหรับใช้คืนผู้เสียหายที่มีการจ่ายโดยตรง
ส่วนประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่ารับเงินสองทาง ทั้งจากฝั่งบริษัทและจากฝั่งผู้เสียหาย โดยคดีผู้เสียหาย 89 คนเป็นคดีที่เกิดขึ้นนานแล้วและจัดการไปแล้ว คดีดังกล่าวมีผู้โอนค่าดำเนินการเข้ากองทุน 20% เพียง 5 คน ส่วน 64 คนโอนมา 3-5% และมี 1 ใน 64 คนที่ขอเงินคืนจากกองทุน ซึ่งกองทุนก็โอนคืนไปให้
ยอมรับว่า ธุรกิจดังกล่าวมีเส้นบางๆ คั่นระหว่างธุรกิจขายตรง มันนี่เกม และแชร์ลูกโซ่ ทั้งนี้ ตนรู้จักระบบธุรกิจขายตรงดี เพราะตนทำงานด้านนี้ และเคยเป็นผู้ประสบภัยก่อนจะลุกขึ้นมาต่อสู้ จึงเข้าใจระบบเป็นอย่างดี
“ไม่แปลกใจหรือที่ทัวร์มาลงที่ตน สิ่งที่ตนทำทุกคนได้ประโยชน์ แต่ทำไมถึงต้องมาลงที่ตน ไม่สงสัยกันบ้างหรือ ว่ากว่า 100 คลิปตนคนเดียวที่พูดเรื่องเงิน ถามตนสักคำหรือไม่ว่าพูดเรื่องเงินอะไร แบบไหน ต้องการอะไร ตลอดชีวิตหลังจากนี้จะไม่อัดเสียงใคร เพราะตนไม่ได้ทำผิดอะไร คุณทำอะไร ความจริงเท่านั้นที่จะทำร้ายตัวคุณเอง” กฤษอนงค์กล่าว
ที่ตนออกมาชี้แจงในวันนี้เพื่อลูกและครอบครัว เนื่องจากมีบุคคลปริศนาขับรถวนเวียนอยู่บริเวณหน้าบ้านของตน ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยต่อลูกและครอบครัว ทั้งนี้ ความผิดทั้งหมดให้มาลงที่ตน อย่าไปลงที่ครอบครัว
สำหรับประเด็น 600,000 บาทที่ถูกกล่าวอ้างว่าไปรีดไถบอสพอลมา ยืนยันว่าไม่ใช่ แต่เป็นค่าดำเนินการเอกสารและแผนงานธุรกิจ ซึ่งตนมอบแผนงานดังกล่าวให้บอสรายอื่นไปแล้ว วันนี้ตนเตรียมเอกสารมาเพื่อชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยขอท้าทนายความของบอสพอลให้เปิดคลิปหลักฐานที่กล่าวอ้างดังกล่าว
โดยที่ผ่านมาตอนฝั่งบอสพอลมีปัญหาได้โทรศัพท์หาตนเพื่อให้ช่วย ซึ่งตนเคยแนะนำ 18 ข้อในการแก้ไขปัญหาทางธุรกิจเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก แต่สุดท้ายก็กลับเอาคลิปดังกล่าวมาใช้เล่นงานตน ยืนยันว่าตนเองทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ