×

รู้จักเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ ‘C.1.2’ ที่ผู้เชี่ยวชาญจับตา แต่ระบุ ‘ยังไม่ควรตระหนกจนเกินไปในตอนนี้’

01.09.2021
  • LOADING...

ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามีการเผยแพร่ต้นฉบับผลการศึกษาจากทีมผู้ศึกษาในแอฟริกาใต้ ซึ่งยังไม่ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาตรวจสอบ (Peer Review) เกี่ยวกับพัฒนาการของเชื้อโควิดในแอฟริกาใต้ และมีการระบุถึงเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกเรียกว่า ‘C.1.2’ และนี่คือข้อมูลที่น่ารู้เกี่ยวกับเชื้อสายพันธุ์นี้

 

  • ต้นฉบับผลการศึกษาดังกล่าวระบุว่า มีการพบเชื้อสายพันธุ์ C.1.2 ในจังหวัดส่วนใหญ่ของประเทศแอฟริกาใต้ เช่นเดียวกับประเทศอื่นอีก 7 ประเทศในทวีปแอฟริกา, ยุโรป, เอเชีย และโอเชียเนีย เชื้อสายพันธุ์นี้มีการตรวจพบครั้งแรกในประเทศแอฟริกาใต้เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา

 

  • แม้ว่าผู้ศึกษาจะยังไม่แน่ใจว่ากลุ่มของการกลายพันธุ์ในเชื้อไวรัสนี้จะทำให้เชื้อนี้เป็นอันตรายมากขึ้นหรือไม่ แต่ก็พบการเปลี่ยนแปลงในไวรัสแบบเดียวกันกับที่ทำให้เชื้อสายพันธุ์อื่นๆ แพร่เชื้อได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงเพิ่มความสามารถในการหลบเลี่ยงการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ การกลายพันธุ์ที่เพิ่มมากขึ้นไม่จำเป็นต้องหมายถึงความอันตรายที่มากขึ้นเสมอไป เพราะการกลายพันธุ์บางแบบก็อาจทำให้เชื้อไวรัสอ่อนแอลง รวมถึงการที่ไวรัสจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่ ก็อาจจะมาจากการรวมกันของการกลายพันธุ์หลากรูปแบบ

 

  • ทีมผู้ศึกษา ซึ่งรวมถึง เพนนี มัวร์ นักไวรัสวิทยาจากสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติของแอฟริกาใต้ กล่าวว่า พวกเขากำลังจับตาดูเรื่องนี้ โดยในต้นฉบับรายงานที่เผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ระบุว่า พวกเขากำลังประเมินผลกระทบของเชื้อสายพันธุ์นี้ต่อการลบล้างฤทธิ์ภายหลังการติดเชื้อโควิดหรือต่อการฉีดวัคซีนโควิดในแอฟริกาใต้

 

  • อย่างไรก็ตาม มาดูคำอธิบายจาก มาเรีย แวน เคิร์กโฮฟ นักระบาดวิทยาโรคติดเชื้อ และหัวหน้าทีมเทคนิคสำหรับโควิดขององค์การอนามัยโลกกันบ้าง มาเรียระบุว่า มีผู้ที่ถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิดน้อยมากที่ถูกพบว่าติดเชื้อสายพันธุ์นี้ และแม้ในขณะนี้ยังไม่ปรากฏว่ามีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น แต่เราก็ยังต้องการการถอดรหัสพันธุกรรมเพิ่มเติมและการแบ่งปันข้อมูลจากทั่วโลก ขณะที่สายพันธุ์เดลตายังคงเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดในขณะนี้ และหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ องค์การอนามัยโลกก็จะแจ้งให้ทราบผ่านเว็บไซต์และการแถลงข่าวด้วย

 

  • ขณะที่ Reuters รายงานข้อมูลจากการถอดรหัสพันธุกรรมในประเทศแอฟริกาใต้ซึ่งพบว่า เชื้อสายพันธุ์นี้ยังไม่มีความใกล้เคียงที่จะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลตาซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดเลย โดยเชื้อสายพันธุ์ C.1.2 นั้นคิดเป็นเพียงร้อยละ 3 ของตัวอย่างเชื้อในเดือนกรกฎาคม เทียบกับในเดือนมิถุนายนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 1 ขณะที่สายพันธุ์เดลตานั้นคิดเป็นร้อยละ 89 ของตัวอย่างในเดือนกรกฎาคม และร้อยละ 67 ในเดือนมิถุนายน

 

  • ส่วน ริชาร์ด เลสเซลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ และอีกหนึ่งในผู้เขียนผลการศึกษานี้บอกว่า ผู้คนยังไม่ควรตื่นตระหนกมากเกินไปในขั้นนี้ และสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์มากขึ้นมีแนวโน้มที่จะอุบัติต่อไปในการระบาดใหญ่ เขาบอกว่า การอุบัติของเชื้อสายพันธุ์นี้บอกเราว่า การระบาดใหญ่ยังคงห่างไกลจากจุดสิ้นสุด และไวรัสนี้ยังคงหาทางที่อาจทำให้เราติดเชื้อได้ดีขึ้น

 

  • และตอนนี้ยังเร็วไปที่จะมีการกำหนดโดยองค์การอนามัยโลกให้เชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้อยู่ในกลุ่ม ‘สายพันธุ์ที่น่าสนใจ’ หรือ ‘สายพันธุ์ที่น่ากังวล’ ดังนั้นเชื้อสายพันธุ์นี้จึงยังไม่มีการตั้งชื่อตามตัวอักษรกรีก ซึ่งต่างกับบางสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ที่องค์การอนามัยโลกมีการตั้งชื่อด้วยอักษรกรีกไปแล้ว เช่น อัลฟา (B.1.1.7), เบตา (B.1.351), แกมมา (P.1), เดลตา (B.1.617.2) เป็นต้น

 

ภาพ: Nhemz via ShutterStock

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising