×
SCB Omnibus Fund 2024

กสิกรไทยมอง GDP ไทยปีนี้โต 2.8-3.7% เชื่อ ธปท. ตรึงดอกเบี้ยเลี่ยงกระทบเศรษฐกิจฟื้นตัว-ต้นทุนหนี้ภาครัฐเพิ่ม

27.01.2022
  • LOADING...
GDP ไทย

กอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตที่ระดับ 2.8-3.7% โดยยังคงพึ่งการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่ต้องดูว่าหลังกลับมาใช้มาตรการ Test and Go แล้วจะช่วยให้การท่องเที่ยวกลับมามากน้อยเพียงใด ส่วนผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนในสัดส่วนที่มากขึ้นแล้วหรือมากกว่า 63% ของประชากร ขณะที่เชื้อโอไมครอนในขณะนี้ แม้จะมีข้อเสียคือติดเชื้อง่าย แต่ก็มีข้อดีคือความรุนแรงไม่มากนัก ส่งผลให้ดัชนีความเข้มงวดทางเศรษฐกิจของไทยเริ่มดีขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม การที่เศรษฐกิจไทยยังไม่สามารถฟื้นตัวเท่าก่อนโควิด ทำให้คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ต่อไป โดยความกังวลด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจากความตึงเครียดในยูเครนทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูง แต่ในส่วนของประเทศไทยยังอยู่ในกรอบเงินเฟ้อที่ 1-3% ส่วนราคาหมูที่เพิ่มขึ้นอาจไม่กระทบเงินเฟ้อมากนัก แต่อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของไทย เพราะทำให้คนต้องประหยัดมากขึ้น

 

นอกจากนี้การที่ระดับหนี้สาธารณะของไทยยังอยู่ระดับสูงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ ธปท. ยังไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ เพราะอาจทำให้ภาระหนี้ภาครัฐเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้หนี้สาธารณะของไทยอยู่ที่ระดับ 64.8% ต่อ GDP ใกล้เคียงกรอบเป้าหมายหนี้สาธารณะที่ระดับ 70% ต่อ GDP และเศรษฐกิจไทยยังไม่ได้เติบโตในระดับร้อนแรงจนต้องปรับนโยบายการเงิน

 

สำหรับค่าเงินบาทคาดว่าจะอยู่ที่ 32.00-32.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่อ่อนค่าเกือบที่สุดในภูมิภาค ส่วนหนึ่งมาจากการจัดการการแพร่ระบาดในประเทศที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรกจะยังเห็นความผันผวนตามค่าเงินภูมิภาคที่ได้รับแรงกดดันจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) 

 

ขณะที่ดุลสะพัดน่าจะกลับมาเป็นบวกได้ในปีนี้ จากปีก่อนที่ติดลบเพราะภาคการท่องเที่ยวที่หายไป และค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้น  

 

กอบสิทธิ์ยังประเมินว่า Fed จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3 ครั้งในปีนี้ ครั้งแรกในเดือนมีนาคม เพื่อทดลองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจะรับได้เพียงใด เพราะการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วเกินไปอาจเกิดปัญหาสภาพคล่องระหว่างภาครัฐและเอกชนได้ ส่วนความกังวลเรื่องเงินเฟ้อของสหรัฐฯ นั้นเชื่อว่าจะเป็นเพียงภาวะชั่วคราวเท่านั้น หากสามารถแก้ปัญหาห่วงโซ่การผลิตและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงปัญหาน้ำมันขาดแคลน ก็น่าจะบรรเทาลงได้  

 

อย่างไรก็ดี การที่ Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยในขณะที่ไทยยังคงอัตราดอกเบี้ย จะทำให้เกิดส่วนต่างดอกเบี้ยระหว่างไทยและสหรัฐฯ ซึ่งดึงให้เม็ดเงินไหลจากไทยไปสู่สหรัฐฯ มากขึ้น 

 


ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth

Instagram: instagram.com/thestandardwealth

Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising