เดือนพฤศจิกายน 2564 ซอยสุขุมวิท 38 ได้ต้อนรับร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งน้องใหม่อย่าง ‘กวี (Kavee)’ ซึ่งต่อให้ร้านจะใหม่ จะให้พูดว่าโดยเชฟใหม่ก็อาจจะพูดได้ไม่เต็มปาก แต่เรียกว่าเป็นการกลับมาแบบเต็มรูปแบบของ เชฟเต้-วรธน อุดมชโลทร ก็น่าจะอธิบายได้ดีที่สุด
เชฟเต้เป็นเชฟไทยที่จบด้านอาหารมาจาก The Culinary Institute of America (CIA) และผ่านการทำงานหลังครัวของร้านอาหารระดับมิชลินหลายร้านในสหรัฐอเมริกา ก่อนกลับมาเมืองไทยและเป็นหนึ่งในทีมเปิดร้านของร้านอาหาร Le Du คู่กับเชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร (ปัจจุบันได้รางวัลมิชลิน 1 ดาว) นั่นเอง ซึ่งหลังจากนั้นเชฟเต้ก็กลับไปทำงานที่สหรัฐอเมริกาอีก จนกระทั่งปีนี้ เขากลับมาและพัฒนาโปรเจกต์ร้านอาหารของตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ หรือก็คือที่กวีนี้เอง
เชฟเต้เล่าให้เราฟังว่า เสน่ห์ของบทกวีคือการที่มันได้ถูกออกแบบ เลือกประโยค หรือบางทีก็เป็นเพียงคำ ด้วยจังหวะทำนองที่ใช่มันจึงออกมาเป็นบทกวีที่สมบูรณ์ เหล่านั้นคือสิ่งที่เขามองเห็นในอาหารของเขา อาหารของเชฟเต้ที่กวีคืออาหารไทย เราได้เห็นหลายเมนูที่บางเมนูเป็นเมนูโปรดในวัยเด็ก ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านมุมมอง เทคนิค และประสบการณ์ที่เขาสั่งสมมา และในฐานะคนกิน หลายๆ จานก็ชวนคิด ชวนให้นึกถึงรสชาติที่เราคุ้นเคยในประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ดี
ปูเรื่องเสร็จแล้ว ได้เวลาเข้าสู่มื้อหลักขนาด 8 จาน เริ่มจาก ‘กินเล่น’ เซ็ตเรียกน้ำย่อยที่เสิร์ฟ 4 คำจากวัตถุดิบหลากหลาย ที่มีทั้งหอยนางรมในซอสซาบายอง กุ้งซอสมะขามที่เปลี่ยนซอสต่างๆ เป็นมูส และเสิร์ฟเป็นคำในแป้งทาร์ต ฟัวกราส์บนโทสต์ และปลาแอมเบอร์แจ็ค ที่ชวนให้คิดถึงจานปลานึ่งรสจัด
เชฟเล่าต่อว่าชอบกินขนมจีนซาวน้ำ ซาวน้ำแบบของเชฟจึงถูกเสิร์ฟเป็นคอร์สถัดไป เปลี่ยนแปลงรูปแบบของส่วนผสมแต่ละอย่างเล็กน้อยออกมาเป็นคัสตาร์ดพุดดิ้งด้านล่าง สับปะรด เงาะ กุ้ง Tiger Prawn และเนื้อมะพร้าวที่ทำเป็นหิมะท็อปด้านบน จานนี้เปรี้ยวหวานสดชื่นมาก
ปู คือวัตถุดิบในจานถัดไป เชฟเลือกนำเนื้อปู มันปูต่างๆ มาหุงด้วยกันกับข้าวญี่ปุ่นเหมือนทำรีซอตโตในหม้อดิน ตอนเสิร์ฟโรยข้าวพองและไข่แดงด้านบน เมื่อวอร์มท้องอุ่นๆ เรียบร้อย ถัดไปเชฟเสิร์ฟ Chicken Wing & Autumn Truffle ปีกไก่ทอดที่สอดไส้ข้าวเหนียวมาพร้อม ท็อปด้านบนด้วยทรัฟเฟิลสไลซ์
มาถึงจานหลักเชฟเลือกเสิร์ฟเป็ด (Barbary Duck) ที่ดรายเอจก่อน 21 วัน กับซอสรากผักชีน้ำส้ม ข้างๆ ทำแก่นตะวันสองแบบคือแบบนึ่งและทอดกรอบ รับประทานเคียงกับมันแกว สับปะรดย่าง และซอสพลัม
ก่อนเข้าของหวานเชฟเสิร์ฟ Palate Cleanser เป็นซอร์เบตที่ทำจากใบทำมัง ผักที่นิยมนำมาทำน้ำพริก แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นซอร์เบตให้ความสดใสเหมือนจับสับปะรดมาผสมกับฝรั่ง ต่อด้วยของหวานจานหลัก เสิร์ฟทรัฟเฟิลไอศกรีมบนพานาคอตต้ากะทิ ข้างๆ เป็น Streusel ที่ทำจากกาแฟและคาเคา ส่วนจานสุดท้ายเป็นขนมปิดท้ายสองคำ คือมาร์ชเมลโลแพสชันฟรุตกับซอสโหระพา และฟินองเซียซีอิ๊วดำ มื้อนี้เราได้เห็นเทคนิคอาหารไทยจากเชฟที่นำเสนอผ่านเทคนิคที่หลากหลาย จุดที่ประทับใจที่สุดคือการเลือกคู่รสชาติ (Flavour Combination) ที่จับสิ่งต่างๆ มาเจอกันได้ลงตัว เปิดให้เห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่สนุกตลอดทั้งมื้อ
ตอนนี้กวีเปิด Soft Opening ในราคา 2,590 บาทต่อท่าน ก่อนปรับเป็นราคาเปิดจริงที่ 2,890 บาท และออปชันไวน์แพริ่งเพิ่ม 1,900 บาท
กวี (Kavee)
Open: เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-22.00 น.
Address: Ideo Morph 38, ซอยสุขุมวิท 38
Budget: 2,890 บาท
Contact: 08 0995 9095
WEB: www.facebook.com/kaveerestaurant/
MAP: https://goo.gl/maps/ZLZoppK2eekGAUi76