กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ประกาศผลการไต่สวนในเบื้องต้น เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาแล้วว่า ยางล้อรถยนต์นั่งและรถบรรทุกเล็กจากไทยมีความผิดฐานทุ่มตลาดร่วมกันกับอีก 3 ชาติ คือ ไต้หวัน เกาหลีใต้ และเวียดนาม ทำให้ระหว่างที่การไต่สวนยังดำเนินต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสิ้นสุดกลางปี 2564 ผู้นำเข้ายางล้อจากไทยจะต้องเสียภาษี (Anti-Dumping Duty หรือ AD) ชั่วคราวในอัตรา 13.25-22.21%
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า บริษัทส่วนใหญ่ของไทยมีโอกาสหลุดจากข้อกล่าวหาได้สูง และบางบริษัทอาจโดนปรับในอัตราภาษีที่ต่ำกว่าที่สหรัฐฯ กำหนดไว้เบื้องต้น แต่การที่ต้นทุนการส่งออกของไทยต้องเพิ่มขึ้นชั่วคราวกว่าครึ่งปี ย่อมส่งผลต่อการส่งออกยางล้อรถยนต์ไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า การที่ไทยโดนตัดสินเบื้องต้นให้มีความผิดจากการทุ่มตลาดของสินค้ายางล้อรถยนต์นั่งและรถบรรทุกเล็ก แม้ผลตัดสินสุดท้ายจะไปจบที่ประมาณกลางปี 2564
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเงินภาษี AD ชั่วคราว หรือเงินประกันที่ต้องเสียไปก่อนระหว่างที่การไต่สวนยังไม่สิ้นสุดนี้ แม้จะเรียกคืนได้เป็นรายบริษัทในภายหลัง หากสุดท้ายแล้วไม่พบความผิดหรือต้องเสียภาษี AD จริงในระดับต่ำกว่าที่ถูกเรียกเก็บชั่วคราวไปก่อนหน้าก็ตาม แต่ย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกยางล้อรถยนต์ไทยในระยะสั้น ทำให้กลายมาเป็นต้นทุนเพิ่มกับยางล้อนำเข้าจากไทย
โดยระดับผลกระทบขึ้นอยู่กับว่า บริษัทยางล้อที่ส่งออกจากไทยจะมีแหล่งผลิตอื่นที่สามารถผลิตยางรุ่นเดียวกัน และส่งออกไปทดแทนได้ด้วยต้นทุนที่ดีกว่าได้หรือไม่ ซึ่งบริษัทยางล้อรถยนต์ระดับโลกที่มีฐานผลิตหลายแห่งอาจทำได้ ส่วนไทยจะได้รับผลกระทบจากการส่งออกได้น้อยลงในจุดนั้น หลังบริษัทยางโยกการผลิตและส่งออกไปยังฐานอื่นเป็นการชั่วคราว
แต่สำหรับบางบริษัทที่ไม่ได้มีฐานผลิตมากเท่า อาจประสบปัญหาต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อราคาขายในสหรัฐฯ ที่เข้าใกล้กับคู่แข่งมากขึ้น และอาจกระทบต่อการส่งออกของไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่ามีการผลักภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปยังผู้บริโภคได้มากน้อยขนาดไหน
ทั้งนี้ ระหว่างที่ผลการตัดสินยังไม่สิ้นสุด แต่ไทยกลับได้รับผลกระทบเรียบร้อยแล้ว จากการต้องเสียภาษี AD ชั่วคราว ซึ่งทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า การส่งออกยางล้อรถยนต์นั่งและรถบรรทุกเล็กรวมกันของไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 อาจส่งออกได้เพียง 18.5-19.2 ล้านเส้น น้อยกว่าระดับศักยภาพที่ไทยทำได้หากไม่ต้องเสียภาษี AD ชั่วคราว และแม้ว่ายอดส่งออกรวมจะขยายตัวกว่า 1-5% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2563 แต่เป็นเพราะช่วงนั้นโดนผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้สหรัฐฯ นำเข้ายางล้อลดน้อยลงมากจากทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งไทยเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 2564 อาจต้องรอดูผลการตัดสินสุดท้ายอีกครั้งว่า จะออกมาทิศทางใด โดยนอกจากอัตราภาษี AD ที่มีส่วนสำคัญต่อทิศทางการส่งออกยางล้อของไทยแล้ว อัตราการแข็งค่าของค่าเงินบาทจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับอินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งอาจจะเป็นคู่แข่งการส่งออกยางล้อของไทยได้ในระยะสั้นนี้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์