×

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ 7 เดือนแรกปีนี้เบี้ยประกันชีวิตหดตัว 3.6% คาดทั้งปีติดลบ 2-6%

28.09.2020
  • LOADING...

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่าวิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจประกันชีวิต เพราะปัจจัยลบจากเศรษฐกิจยิ่งลดทอนอำนาจการซื้อลง ขณะเดียวกันความน่าสนใจในการซื้อประกันเพื่อออมที่ลดลงตามอัตราผลตอบแทนของผลิตภัณฑ์ประกันหลักลงมาเหลือเพียงเฉลี่ยราว 1% ในปี 2563 ถือว่าใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ 

 

ปัญหาผลตอบแทนจากการลงทุนอยู่ในระดับต่ำคาดว่าจะปรากฏต่อเนื่อง 1-2 ปีข้างหน้า ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว

 

ทั้งนี้ ช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 ในภาพรวมเบี้ยประกันชีวิตจะอยู่ที่ 5.74-5.99 แสนล้านบาท หดตัวลง 3.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และคาดว่าแนวโน้มทั้งปีนี้จะหดตัวในกรอบ ติดลบ 2-6% ถือว่าติดลบต่อเนื่องจากปี 2562 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าเบี้ยรับรายใหม่มีความเสี่ยงที่จะหดตัวต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ระดับติดลบ 10-15% แม้ว่าเบี้ยปีต่ออายุน่าจะมีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้

 

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาบริษัทประกันชีวิตต่างปรับตัวเพื่อเข้าถึงลูกค้าหลายกลุ่ม โดยมองว่าควรปรับทุนประกันของแผนประกันชีวิตสัญญาหลักให้เล็กลง ให้สอดคล้องกับกำลังซื้อ และขยายโอกาสการเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปี เบี้ยประกันสุขภาพน่าจะปรับตัวดีขึ้น และผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/63 

 

ส่วนหนึ่งที่จะทำให้เบี้ยประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจัยบวกของการเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อประกันสุขภาพเป็น 25,000 บาทต่อปี และการเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ของประเทศไทยในปีหน้า รวมถึงความตื่นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 

 

ทั้งนี้ ยังต้องติดตามข้อเรียกร้องจากบริษัทประกันชีวิตที่ขออนุมัติการขายประกันสุขภาพเดี่ยว โดยไม่ต้องควบคู่กับสัญญาหลัก เหมือนปัจจุบันประกันวินาศภัยขายอยู่เดิม ขณะที่การบริหารต้นทุนของบริษัทประกันภัยโดยเฉพาะค่าคอมมิชชันอาจมีการปรับลดลง ในส่วนของลูกค้าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายให้ลูกค้าที่คงเงินปันผลสะสมไว้ในบริษัทด้วย ในอีกทางหนึ่งครึ่งปีแรก 2563 ธุรกิจประกันชีวิตมีรายจ่ายการเคลมสินไหมลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การเข้าใช้บริการในโรงพยาบาลลดลง

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising