×

ทอดน่องชมสีสันฤดูใบไม้ร่วงที่ Kamikochi เมื่อธรรมชาติ ขุนเขา อยู่กับเราแค่เอื้อม

25.08.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MINS READ
  • คามิโคจิ มงกุฎอัญมณีแห่งเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น เป็นจุดชมทัศนียภาพที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,500 เมตร โดยมีความงามของเทือกเขาแอลป์ซึ่งอยู่สูงขึ้นไปอีก 1,500 เมตรเป็นฉากหลัง ในอดีตคามิโคจิถือเป็นพื้นที่ต้องห้ามของชาวบ้าน เพราะเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของเทพเจ้า หากปุถุชนคนธรรมดาหลงเข้ามา ถ้าไม่หายสาบสูญก็เสียชีวิต
  • เสียงใบไม้เสียดสีแทรกแซมด้วยเสียงธารน้ำไหล ท่วงทำนองแห่งชาติที่ชวนให้จิตใจสงบยิ่ง น้ำในทะเลสาบใสจนอยากแปลงร่างเป็นปลาลงไปแหวกว่าย ลอยตัวเหนือผิวน้ำให้สายน้ำไหลผ่าน

มีทริปอีกหลายพันทริปและสถานที่อีกหมื่นพันแห่งที่ชวนเราให้ลุ่มหลงในความเป็น ‘ญี่ปุ่น’ ไม่จะเป็นวัฒนธรรมอันเจนจัด ธรรมชาติ และความงามของวิถีชีวิตซึ่งแฝงไปด้วยปรัชญา คามิโคจิ (Kamikochi) คือหนึ่งในสถานที่ดังกล่าวบนที่ราบสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,500 เมตร รายล้อมทิวทัศน์ของขุนเขาและปรัญชาแห่งเซนอันเวิ้งว้าง เสียงใบไม้เสียดสีแทรกแซมด้วยเสียงธารน้ำไหล ท่วงทำนองแห่งชาติ ซึ่งแม้ได้ยินเพียงนิดก็สามารถปลดเปลื้องภาระบนบ่าเราออกได้โดยพลัน

 

ฉันรู้จักคามิโคจิผ่านการแนะนำจากการท่องเที่ยวของจังหวัดนากาโนะ (Nagano) จำได้ว่าตอนไปถึงคามิโคจิครั้งแรก รู้สึกไม่ชอบใจเท่าไร อากาศที่สมควรอยู่ที่ 10 กว่าองศาเซลเซียส แต่ก็ยังคงอยู่ที่ 0 องศาเซลเซียส เย็นยะเยือกแม้จะล่วงเลย 10 โมงเช้าไปแล้ว แสงแดดสาดส่อง ทว่าพื้นดินยังถูกปกคลุมด้วยเกล็ดน้ำค้างแข็ง พูดทีก็ควันออกปาก

 

 

คามิโคจิ มงกุฎอัญมณีแห่งเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น เป็นจุดชมทัศนียภาพอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,500 เมตร โดยมีความงามของเทือกเขาแอลป์ซึ่งอยู่สูงขึ้นไปอีก 1,500 เมตรเป็นฉากหลัง ในอดีตคามิโคจิถือเป็นพื้นที่ต้องห้ามของชาวบ้าน เพราะเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของเทพเจ้า หากปุถุชนคนธรรมดาหลงเข้ามา ถ้าไม่หายสาบสูญก็เสียชีวิตทุกราย ยกเว้นแต่นักบวชหรือผู้ถือศีลเท่านั้นที่ปลอดภัย จนกระทั่ง พ.ศ. 2431 วอลเตอร์ เวสตัน (Walter Weston) มิชชันนารีชาวอังกฤษผู้ชื่นชอบการปีนเขาเป็นชีวิตจิตใจ จ้างไกด์ชื่อ คามิโจ คามอนจิ (Kamijo Kamonji) เข้าสำรวจเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น โดยใช้เวลานานเกือบ 30 ปี จากนั้นเขาก็ออกหนังสือชื่อ Exploration in the Japanese Alps (1896) อวดความงามที่ธรรมชาติสร้างให้คนภายนอกรับรู้ โจษจัน และสร้างคามิโคจิให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในปัจจุบัน

 

 

การเที่ยวมีหลายเส้นทาง วิธีที่ง่ายที่สุดในการชมคามิโคจิภายใน 1 วัน คือการเดินตามเส้นทางเดินป่าริมแม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) เริ่มจากสระน้ำไทโช (Taisho Pond) ไปยังสะพานเมียวจิน (Myojin Bridge) ก่อนวกกลับสู่ท่ารถบัส สำหรับใครที่อยากสูดโอโซนให้เต็มปอด ทางอุทยานก็มีโรงแรมให้บริการอยู่หลายแห่ง ซึ่งฉันแนะนำเลยว่าสมควรพักอย่างน้อย 1 คืนเพื่อซึมซับบรรยากาศและความงามให้ครบทุกช่วงเวลา

 

 

คณะเราตกลงเดินสำรวจคามิโคจิโดยใช้เส้นทางยอดฮิต รวมระยะทางทั้งสิ้น 8 กิโลเมตรจากทั้งหมด 15 กิโลเมตร ตลอดทางเดินเป็นพื้นที่ราบ เดินง่าย ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์สามารถเดินได้ภายในเวลา 3-4 ชั่วโมง ระหว่างทางมีไฮไลต์ให้ชมความงามเป็นระยะๆ เช่น สระน้ำไทโช บึงน้ำขนาดใหญ่ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟยาเกดาเกะ (Yakedake) ในปี 1915 หรือสระน้ำทาชิโระ (Tashiro Pond) หนึ่งในจุดชมธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ ใกล้กับทางเดินป่าที่เชื่อมต่อระหว่างคัปปาบาชิ (Kappabashi) กับสระน้ำไทโช ต้นไม้ที่นี่ส่วนใหญ่ลำต้นสูงใหญ่ มีต้นไม้หายากเติบโตอยู่หลายชนิด กรวดดินทรายริมทางล้วนเป็นสีขาวนวล ตัดกับสีฟ้าอมเขียวของน้ำในแม่น้ำ สายน้ำตามคูคลองใสมากจนอยากกระโจนเล่น หากมาช่วงกลางเดือนตุลาคม ต้นไม้ทั้งหุบเขาจะถูกแต่งแต้มด้วยสีสันแห่งฤดูกาล เห็นสีเหลืองสีแดงไปทั่ว สวยงามมาก

 

การเที่ยวคามิโคจิมีกฎให้ปฏิบัติอยู่ไม่กี่ข้อคือ ห้ามทิ้งขยะ ห้ามจับสัตว์ทุกชนิด และห้ามออกนอกเส้นทาง ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยและคงธรรมชาติไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

 

เสียงใบไม้เสียดสีแทรกแซมด้วยเสียงธารน้ำไหล ท่วงทำนองแห่งชาติที่ชวนให้จิตใจสงบยิ่ง น้ำในทะเลสาบใสจนอยากแปลงร่างเป็นปลาลงไปแหวกว่าย ลอยตัวเหนือผิวน้ำให้สายน้ำไหลผ่าน เดินสำรวจจนหนำใจ หากเหนื่อยแต่ยังไม่อยากกลับ แนะนำให้พักเหนื่อยจิบชา ณ Grindelwald เลานจ์น่านั่งของ Kamikochi Imperial Hotel ที่พักแห่งแรกในอุทยานและเป็นรีสอร์ตระดับ 5 ดาวแห่งเดียว เคยต้อนรับนักเดินทางคนดังมาแล้วหลายท่าน รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ไทยในรัชกาลปัจจุบันด้วย บรรยากาศด้านในตกแต่งด้วยไม้สีเข้ม กลางโถงมีเตาผิงขนาดใหญ่ให้ความอบอุ่น เซตน้ำชาที่นี่ดังมาก หากอยากลองต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น หนึ่งเซตประกอบไปด้วยขนม 1 ชิ้น และเครื่องดื่ม 1 ชนิด สั่งร้อนหรือเย็นก็ตามแต่ชอบ เมนูแนะนำ ได้แก่ เค้กโอเปราและบลูเบอร์รีชีสพาย ทั้งหมดสนนราคาเพียง 1,500 เยนเท่านั้น

 

 

สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น คามิโคจิช่างสวยงามสมคำร่ำลือ ว่ากันว่าที่นี่มาฤดูไหนก็สวย หน้าร้อนเขียวชอุ่มมีดอกไม้ชูช่อเบ่งบาน ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีปกคลุมด้วยสีสันทางธรรมชาติ สำหรับคนที่มองหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ เบื่อคาวากุจิโกะหรือนิกโกะ แนะนำให้นั่งรถไฟมาลงยังนากาโนะ แล้วต่อรถบัสมาคามิโคจิ เชื่อว่าคุณต้องชอบและหลงรักคามิโคจิเหมือนที่ผู้เขียนยกให้ที่นี่เป็น One of my favorite in Japan.

 

ภาพ: พลอยจันทร์ สุขคง, Shutterstock

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

FYI

Getting there

  • มีสายการบินทั้งฟูลเซอร์วิสและราคาประหยัดบินตรงจากกรุงเทพฯ-โตเกียว, เช็กตารางและเวลาบินได้ที่ Thai Airways, Air Asia, Japan Airline เป็นต้น จากนั้นต่อรถไฟหรือรสบัสไปลงสถานีนากาโนะ
  • วิธีการเดินทางไปคามิโคจิมีหลายวิธี
  1. จากมัตสึโมโตะ (Matsumoto) ด้วยรถไฟหรือรถบัส: ขึ้นที่สถานี Matsumoto Station ด้วยรถไฟ Matsumoto Electric Railway ไปลงที่ Shin-Shimashima Station (30 นาที) ต่อรถบัสที่ไปยัง Kamikochi (60 นาที)
  2. จากทาคายามะ (Takayama) ด้วยรถบัส: ขึ้นรถที่สถานี Takayama โดยรถบัส Nohi Bus ไปลงที่ Hirayu Onsen (60 นาที 1,570 เยน รถบัสออกชั่วโมงละรอบ) จากนั้นต่อรถบัสที่ไปยัง Kamikochi (25 นาที)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก kamikochi.or.jp

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising