คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เริ่มการเดินทางเยือนสองประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วในวันจันทร์ (23 สิงหาคม) โดยเริ่มจากสิงคโปร์เป็นเวลา 3 วัน และจากนั้นจะเดินทางต่อไปยังเวียดนาม ซึ่งสำนักข่าว AP ระบุว่าเป็นการเดินทางที่มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายความร่วมมือกับทั้งสองชาติเพื่อถ่วงน้ำหนักกับอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้การเยือนของแฮร์ริสถือเป็นการเดินทางเยือนของบุคคลระดับสูงของสหรัฐฯ ครั้งแรกในสมัยการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของ โจ ไบเดน และเกิดขึ้นท่ามกลางการฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 55 ปี
โดยในภาคเช้าของวานนี้ เธอร่วมพิธีการต้อนรับที่นอกทำเนียบประธานาธิบดี และตรวจแถวกองเกียรติยศร่วมกับ ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ จากนั้นยังได้เข้าคารวะประธานาธิบดีฮาลิมาห์ ยาค็อบ ก่อนจะเข้าสู่การประชุมทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์และคณะ
ลีเซียนลุง กล่าวว่า เขามีการหารือที่ ‘ยอดเยี่ยม’ กับแฮร์ริสในช่วงเช้า โดยเน้นย้ำว่าพวกเขาได้ยืนยันการเป็นหุ้นส่วนที่ ‘แข็งแกร่งและยั่งยืน’ ระหว่างสิงคโปร์และสหรัฐอเมริกา เขายังแสดงความชื่นชมต่อบทบาทที่กระตือรือร้นของสหรัฐฯ ในเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนการสนับสนุนร่วมกันเพื่อระเบียบระหว่างประเทศที่มั่นคงและมีกฎกติกาเป็นรากฐาน สิงคโปร์ยังต้องการเสนอเครื่องบินของกองทัพอากาศสิงคโปร์เพื่อช่วยสหรัฐฯ ในการอพยพผู้ลี้ภัยจากอัฟกานิสถาน
ส่วนประเด็นที่มีการหารือกัน เช่น ความมั่นคงทางไซเบอร์ ที่ทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงสามฉบับ ระหว่างหน่วยงานด้านไซเบอร์ กลาโหม และการเงิน, ความร่วมมือด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทั้งสองประเทศจะเปิดตัวความเป็นหุ้นส่วนด้านสภาพภูมิอากาศและความริเริ่มใหม่เพื่อสร้างขีดความสามารถด้านเมืองอัจฉริยะ (Smart City), ความร่วมมือด้านโรคระบาด ที่สหรัฐฯ และสิงคโปร์จะแสวงหาการทำงานร่วมกันในการจัดลำดับจีโนมและกระบวนการระบุข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโรคติดเชื้ออุบัติใหม่และเหตุการณ์เฉพาะ ที่เรียกว่า Epidemic Intelligence ซึ่งจะช่วยเร่งการระบุสายพันธุ์ใหม่ๆ ของไวรัสโควิด รวมทั้งภัยคุกคามจากโรคอุบัติใหม่ และเสริมความพร้อมในระดับภูมิภาคสำหรับการระบาดใหญ่ในปัจจุบันและอนาคต
ในประเด็นเศรษฐกิจยังมีการเปิดตัวความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสหรัฐฯ-สิงคโปร์เพื่อการเติบโตและนวัตกรรม ที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างสหรัฐฯ และสิงคโปร์ โดยเริ่มจากสี่เสาหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม การผลิตขั้นสูงและการดูแลสุขภาพ รวมถึงเปิดตัวการเจรจาระดับสูงเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงโอกาสในการขยายความร่วมมือทวิภาคีในด้านอวกาศ และการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นการอุดมศึกษา
ทั้งนี้แฮร์ริสแสดงความเชื่อมั่นว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินโดแปซิฟิกจะมีส่วนกำหนดอนาคตของโลกอย่างมาก และข้อตกลงที่สหรัฐฯ ได้ลงนามกับสิงคโปร์และกับภูมิภาคนี้ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนทั่วโลก เธอยังบอกว่านี่ไม่ใช่เพียงลำดับความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงหรือผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แต่ยังเกี่ยวข้องกับความท้าทายที่โลกกำลังเผชิญในอนาคต อาทิ โรคระบาดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงประเด็นทะเลจีนใต้ด้วย
“ดิฉันยืนยันอีกครั้งในการประชุมถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการทำงานร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วนของเราในแถบอินโดแปซิฟิก เพื่อรักษากฎบนพื้นฐานระเบียบสากลและเสรีภาพในการเดินเรือ ซึ่งรวมทั้งในทะเลจีนใต้” เธอระบุ
และเธอก็ต้องพบกับคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถานในการเดินทางครั้งนี้ด้วยเช่นกัน โดยเธอย้ำว่าสหรัฐฯ กำลังมุ่งความสนใจไปที่ความพยายามในการอพยพชาวอเมริกัน ชาวอัฟกันกลุ่มเสี่ยง และชาวอัฟกันที่ทำงานกับสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานเป็นการเฉพาะ และย้ำว่ามีเวลาเหลือเฟือที่จะวิเคราะห์บริบทของการถอนทหารจากอัฟกานิสถาน
ทั้งนี้ อเล็กซานเดอร์ เฟลด์แมน ประธานและซีอีโอของสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียนระบุว่า แฮร์ริสจะต้องระวังในการสนทนากับผู้นำสิงคโปร์ไม่ให้โฟกัสที่จีนมากเกินไป แต่เพื่อเน้นย้ำความสัมพันธ์เชิงบวกและมีประสิทธิผลของสหรัฐฯ กับสิงคโปร์และเวียดนาม ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของสิงคโปร์ให้สัมภาษณ์กับสื่อสิงคโปร์อย่าง CNA และมีการเปิดเผยบทสัมภาษณ์เมื่อสุดสัปดาห์ ซึ่งเขาระบุว่าสิงคโปร์จะ ‘เป็นประโยชน์ แต่จะไม่ถูกใช้’ ในความสัมพันธ์ทั้งกับสหรัฐฯ และกับจีน แต่เขาก็ยอมรับว่าเป็นจุดยืนที่ยากที่จะแสดง และย้ำว่าสิงคโปร์ไม่ได้เลือกข้าง แต่จะแสดงจุดยืนที่ขึ้นอยู่กับประเด็นต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เศรษฐกิจดิจิทัล ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการระบาดใหญ่ ตามการคิดคำนวณหรือตามผลประโยชน์ของชาติในระยะยาว
นอกจากนี้ยังมีปฏิกิริยาของสำนักข่าว Xinhua ของจีน ซึ่ง AP รายงานว่า Xinhua ออกบทความเมื่อวันอาทิตย์ (22 สิงหาคม) ระบุว่าการเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของแฮร์ริสมีจุดประสงค์เพื่อโน้มน้าวประเทศเหล่านี้ให้สร้างกลุ่มแห่งการจำกัดอำนาจทางการเมืองต่อจีน แต่ประเทศเหล่านี้ก็ลังเลที่จะเลือกข้าง และ ‘แผนของอเมริกาจะสิ้นสุดด้วยความล้มเหลว’ สำนักข่าว Xinhua ของจีนระบุ
ภาพ: Evelyn HOCKSTEIN / POOL / AFP
อ้างอิง:
- https://www.whitehouse.gov/briefing-room/statements-releases/2021/08/23/fact-sheet-strengthening-the-u-s-singapore-strategic-partnership/
- https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3146053/singapore-pm-lee-backs-us-guarantor-security-asia-harris-grilled
- https://www.reuters.com/world/kamala-harris-visits-singapore-deepen-ties-counter-chinas-influence-2021-08-22/
- https://apnews.com/article/business-asia-singapore-187fb2d7ad17edf539c13764e582ce5c
- https://www.straitstimes.com/singapore/politics/pm-lee-hsien-loong-us-vice-president-kamala-harris-hail-robust-enduring
- https://www.channelnewsasia.com/singapore/us-singapore-climate-economic-afghanistan-kamala-harris-pm-lee-2130071
- https://www.channelnewsasia.com/singapore/new-golden-age-technology-if-us-china-can-build-trust-sit-same-table-vivian-balakrishnan-2125306