วันนี้ (13 กันยายน) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปเปิดที่ทำการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร พร้อมเปิดการฝึกอบรมแกนนำเครือข่ายประจำเขตเลือกตั้ง โดยระหว่างการปราศรัยกับสมาชิกพรรค จุรินทร์ได้กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าหลายฝ่ายมีความเห็นว่า รัฐธรรมนูญควรได้รับการแก้ไขไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น แม้จะมีความเห็นต่างในเรื่องของเนื้อหาและรูปแบบการแก้ไขว่าจะตั้ง สสร. หรือแก้รายประเด็นก็ตาม ซึ่งตนเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้ต้องมี 3 เงื่อนไขประกอบกัน นั่นคือ
- ต้องใช้เวทีสภาฯ แสวงหาความเห็นร่วมกันให้ได้ เพราะถ้าขาดเสียงฝ่ายค้าน 20% หรือขาดเสียงวุฒิ 1 ใน 3 การแก้รัฐธรรมนูญก็สำเร็จตามมาตรา 256 ไม่ได้ เมื่อวานตนจึงเสนอว่า ให้วิปของพรรคประชาธิปัตย์ ชินวรณ์ บุณยเกียรติ เร่งไปหารือกับวิปรัฐบาล เพื่อประสานงานกับวิปฝ่ายค้านและวิปวุฒิสภา เพื่อหาความสอดคล้องต้องกันว่ามีประเด็นใดที่เห็นตรงกันบ้าง อะไรที่เห็นต่าง อะไรที่จะปรับหันหน้าเข้าหากันได้ เพื่อหาทางให้แก้รัฐธรรมนูญเดินหน้าต่อไปได้ เกิดผลสัมฤทธิ์จริง เพราะความเห็นพ้องในรัฐสภาเป็นเรื่องจำเป็น ไม่เช่นนั้นก็แก้ไม่ได้
- การแก้รัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้ประชาชนต้องเห็นพ้องด้วย เพราะเขาเป็นเจ้าของประเทศ และเมื่อผ่านรัฐสภาแล้วต้องเอาไปทำประชามติถามประชาชน ถ้าประชามติไม่ผ่านก็แก้ไม่ได้
- ทุกฝ่ายต้องจริงใจ ต้องตั้งเป้าหมายร่วมกันว่าประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง แต่เป็นประเด็นที่ต้องจับมือร่วมใจกัน หวังให้เกิดการแก้ไขได้จริงเท่านั้น ถ้าไม่ครบ 3 เงื่อนไขนี้ก็ยากที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ต้องการเห็นการแก้รัฐธรรมนูญบังเกิดผลสำเร็จได้จริง โดยจะใช้กลไกวิปของพรรคและวิปรัฐบาลในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเป็นตัวขับเคลื่อน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล