วันนี้ (23 เมษายน) เวลา 17.00 น. พรรคประชาธิปัตย์จัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยมีแกนนำพรรคเข้าร่วมการปราศรัยเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ ชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค และอดีตประธานรัฐสภา, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค, เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค, องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค, วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม., ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พร้อมด้วยแกนนำและผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 33 เขต เข้าร่วมเวทีอย่างคับคั่ง
สำหรับบรรยากาศรอบบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ มีพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ ทั้งจากฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี รวมถึงบรรดาแฟนคลับและผู้สนับสนุนพรรคเดินทางร่วมรับฟังปราศรัยอย่างหนาแน่นคับคั่งเต็มพื้นที่
องอาจขึ้นเวทีเป็นคนแรก เริ่มปราศรัยว่า เหลือเวลาอีก 20 วันจะถึงวันเลือกตั้ง มีคนจากทั่วสารทิศบอกกับพวกเราว่า ถึงการเลือกตั้งปี 2562 จะไม่ได้เลือกประชาธิปัตย์ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้พี่น้องประชาชนจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26
“จากการเดินสายหาเสียงทั่วประเทศ พี่น้องจากทั่วสารทิศบอกว่า คราวนี้ประชาธิปัตย์นอนมา ขอให้นอนมาดีๆ อย่าให้มีพระนำหน้า แล้วขอให้มีพี่น้องประชาชนนำหน้าพวกเราเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร” องอาจกล่าว
ขณะที่จุรินทร์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นปราศรัยประกาศยุทธศาสตร์ใน 20 วันสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง ‘4 ทำ 3 ไม่’ มั่นใจแลนด์สไลด์ไม่มีอยู่จริง และขอให้พี่น้องประชาชนเลือกพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมือง
สำหรับยุทธศาสตร์ 4 ทำ คือ
- ประชาธิปัตย์จะทำประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้มีความเข้มแข็งยั่งยืนต่อไป และสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น เพื่อเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยเต็มใบ โดยไม่แก้หมวด 1 และหมวด 2 ที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์
- ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องมีเงื่อนไข 2 ข้อ ข้อ 1 ต้องได้รับเสียงข้างมากในที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภารวมกันเกิน 376 เสียงจาก 750 เสียง ข้อ 2 ต้องมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนด้วย เพื่อให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เพราะถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรีจากที่ประชุม 2 สภา แต่มีเสียงน้อยในสภาผู้แทนราษฎร ก็จะทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย สุดท้ายก็จะบริหารประเทศไม่รอด
- จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี
- ประชาธิปัตย์จะจัดการกับปัญหายาเสพติดที่คุกคามสังคมไทยให้สิ้นซากโดยเร็วที่สุด ด้วยยุทธศาสตร์ตาต่อตาฟันต่อฟัน และประชาธิปัตย์สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ แต่ไม่เอากัญชาเสรี
ส่วน ‘3 ไม่’ ก็คือ
- ไม่ยกเลิกมาตรา 112
- ไม่เอายาเสพติด
- ไม่เอาทุจริตคอร์รัปชัน
“ขอให้พี่น้องได้มาจับมือร่วมกันกับพรรคประชาธิปัตย์เดินหน้านโยบาย 4 ทำ 3 ไม่ ไปด้วยกันกับเราด้วยวิถีประชาธิปไตยไม่โกง เพื่อให้พวกเราทั้งชาวประชาธิปัตย์และพี่น้องคนไทยร่วมกันพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืนต่อไป ขอให้พี่น้องหนักแน่นมั่นคง กับสิ่งที่เราทำดีให้กับประเทศ และให้ช่วยกันเป็นกำลังใจสนับสนุนประชาธิปัตย์ สำหรับหลายคนที่จากเราไปคราวที่แล้ว เที่ยวนี้ขอให้กลับบ้านเรา มาช่วยสนับสนุนประชาธิปัตย์ของเรา ให้ขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ที่ดีกว่า ด้วยการเลือกผู้แทนทั้ง 400 เขต และลงคะแนนเลือกบัตรใบที่ 2 ประชาธิปัตย์ เบอร์ 26” จุรินทร์กล่าว