×

เปิดประวัติ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ กับภารกิจอเวนเจอร์สกอบกู้พรรคให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

โดย THE STANDARD TEAM
15.05.2019
  • LOADING...
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

เป็นที่แน่นอนแล้วสำหรับเส้นทางของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ที่เพิ่งได้หัวหน้าพรรคคนที่ 8 คือ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่ได้รับคะแนนการเลือกตั้งสูงสุดในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ หลังล้มเหลวจากการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา โดยคว้าเก้าอี้ ส.ส. รวมได้เพียง 52 เสียงในสภา ท่ามกลางความไม่แน่ชัดทางการเมืองว่าหลังจากนี้ประชาธิปัตย์จะจับมือร่วมรัฐบาลกับฝ่ายไหน ระหว่างกลุ่มพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคพันธมิตร หรือพรรคพลังประชารัฐ

 

สำหรับจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคคนที่ 8 ของพรรคประชาธิปัตย์ เกิดวันที่ 15 มีนาคม 2499 จบการศึกษารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขานโยบายสาธารณะและการวางแผน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และรัฐศาสตรบัณฑิต สาขาบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

ที่ผ่านมาเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถึง 11 สมัย จากการเป็น ส.ส. จังหวัดพังงา 6 สมัย และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 5 สมัย อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งยังเคยเป็นประธานวิปฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน และได้ดำรงตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก่อนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคด้วย

 

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

 

ในการแสดงวิสัยทัศน์ก่อนการเลือกตั้งห้วหน้าพรรค จุรินทร์ได้กล่าวถึงประวัติและผลงานในอดีตใต้ร่มเงาของประชาธิปัตย์ โดยร่วมอุดมการณ์กับประชาธิปัตย์มาอย่างน้อย 33 ปี นับจาก พ.ศ. 2529 ตอนเป็น ส.ส. ครั้งแรก เคยเป็นเลขาฯ ชวน หลีกภัย สมัยเป็นรัฐมนตรี และรองนายกฯ ในช่วงปี 2531 ก้าวเป็นรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ครั้งแรกอายุ 36 ปี อยู่ในทีมเศรษฐกิจของนายกฯ ชวน

 

สมัยรัฐบาลชวน 2 เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ดูแลการท่องเที่ยว กีฬา และทำหน้าที่วิปรัฐบาลในยุครัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ มีเสียงเหนือฝ่ายค้าน 18 เสียง จนกระทั่งอยู่จนเกือบครบเทอม ขาดเพียงสัปดาห์เดียว เพราะนายกฯ ชวนไปประกาศก่อนว่าจะไม่อยู่ครบเทอม

 

จุรินทร์กล่าวต่อว่า “ที่พูดมาไม่ได้อวดว่าเก่งหรือดี แต่ผมมีโอกาส ซึ่งทำให้ตระหนักดีว่าโอกาสเป็นสิ่งสำคัญ”

 

ถ้าได้เป็นหัวหน้าพรรค จะยิบยื่นโอกาสให้ทุกคนที่ทำงานหนักเพื่อพรรค โดยไม่จำเป็นว่าท่านจะอยู่ฝ่ายไหน หรือเป็นเด็กของใคร

 

ถ้าเลือกตน ‘ประชาธิปัตย์’ ต้องเปลี่ยน แต่เปลี่ยนอย่างมีวุฒิภาวะ

 

อะไรดีต้องรักษา อะไรไม่ดีต้องเปลี่ยน

 

อุดมการณ์ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต้องไม่เปลี่ยน อุดมการณ์การทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต้องไม่เปลี่ยน แต่นโยบาย วิสัยทัศน์ต้องเปลี่ยน และระบบบริหารจัดการต้องเปลี่ยน ระบบ Big Data และ AI ต้องถูกนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจทั้งในทางบริหารและการเมือง

 

“หมดยุคซูเปอร์แมนแล้ว ยุคต่อไปต้องเป็นยุคของอเวนเจอร์ส ซูเปอร์ฮีโร่ของพรรคต้องมาร่วมมือกัน จับมือกันเป็นอเวนเจอร์ส กรณ์ อภิรักษ์ และพีระพันธุ์ จะเป็นซูเปอร์ฮีโร่หนึ่งในทีมอเวนเจอร์สนี้” จุรินทร์กล่าว

 

จุรินทร์กล่าวด้วยว่า แต่แค่นี้ไม่พอ เพราะประชาธิปัตย์ต้องมีความเป็นเอกภาพภายใต้การร่วมมือ

 

“ผมพร้อมจับมือกับทุกคนที่มุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อพรรค ทั้งรวมกันเป็นหนึ่ง และพาพรรคประชาธิปัตย์ไปเป็นที่หนึ่งในใจประชาชนในอนาคต” จุรินทร์กล่าว

 

ต้องจับตาดูต่อไปว่าอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะเปลี่ยนโฉมหน้าการเมืองไทยไปมากน้อยแค่ไหน และจะกอบกู้ความนิยมของพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยกลับมาได้อย่างไร

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising