×

Johnson & Johnson เตรียมเผยผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 สัปดาห์หน้า ทั่วโลกจับตาเป็น ‘ตัวพลิกเกม’ เพราะใช้วัคซีนโดสเดียวต่อคน

27.01.2021
  • LOADING...
Johnson & Johnson เตรียมเผยผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 สัปดาห์หน้า ทั่วโลกจับตาเป็น ‘ตัวพลิกเกม’ เพราะใช้วัคซีนโดสเดียวต่อคน

Johnson & Johnson เปิดเผยว่า บริษัทอาจเผยรายงานผลการทดลองทางคลินิกเฟสที่ 3 ของวัคซีนโควิด-19 ภายในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะสามารถส่งมอบวัคซีนจำนวน 100 ล้านโดสสำหรับใช้งานในสหรัฐฯ ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน หากได้รับการอนุมัติโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว

 

อเล็กซ์ กอร์สกี ประธานและซีอีโอของ Johnson & Johnson กล่าวว่า เขามองในแง่ดีเกี่ยวกับผลการทดลองวัคซีนในคนที่มีอาสาสมัครเข้าร่วม 45,000 คน โดยระบุว่า “เราหวังว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่เราจะได้เห็นในกลุ่มประชากรที่ใหญ่ขึ้น แต่แน่นอนว่า เรายังไม่รู้อะไรแน่ชัดจนกว่าเราจะได้เห็นผลการทดลองขั้นสุดท้ายนี้แล้ว”

 

ทั้งนี้ หากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติให้ใช้วัคซีนเป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว รัฐบาลกลางสหรัฐฯ อาจมีทางเลือกมากขึ้นในการสั่งซื้อวัคซีนเพิ่มเติม จากเดิมที่สั่งไป 100 ล้านโดส ขณะที่ผู้ผลิตวัคซีนเจ้าใหญ่อย่าง Pfizer ของสหรัฐฯ และ AstraZeneca ของอังกฤษ ต่างกำลังประสบปัญหาในการจัดหาวัคซีนให้กับหลายประเทศได้ไม่ตรงตามเป้า

 

ข้อได้เปรียบสำคัญของวัคซีน Johnson & Johnson ที่อาจเป็นตัวพลิกเกมในสงครามต่อสู้โควิด-19 ก็คือ บริษัทได้ทดลองกับกลุ่มทดลองด้วยวัคซีนเพียงเข็มเดียว ซึ่งหากได้ผล ก็หมายความว่าการฉีดวัคซีนจะง่ายขึ้น เพราะใช้เพียงโดสเดียวต่อคน ขณะที่วัคซีนของบริษัทอื่นๆ ต้องใช้อย่างน้อยคนละ 2 โดสในระยะเวลาห่างกันหลายสัปดาห์ นอกจากนี้วัคซีนของ Johnson & Johnson ยังสามารถเก็บรักษาในตู้เย็นอุณหภูมิปกติ ขณะที่วัคซีนของ Pfizer และ Moderna ต้องใช้ตู้แช่พิเศษ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเก็บรักษาและขนส่ง

 

“เราวางแผนที่จะเป็นส่วนหนึ่งของทางแก้ปัญหา ข้อเท็จจริงที่ว่าเราไม่ต้องใช้ตู้แช่พิเศษซึ่งต่างจากวัคซีนอื่นๆ รวมถึงใช้วัคซีนเพียงโดสเดียวนั้น มีส่วนทำให้คนนอกบริษัทเรียกมันว่าตัวพลิกเกม” โจเซฟ โวล์ก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Johnson & Johnson กล่าว 

 

ข้อมูลเบื้องต้นที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้ระบุว่า วัคซีนของ Johnson & Johnson ใช้เทคโนโลยี Viral-Vector หรือการใช้ไวรัสที่ทำให้อ่อนลงและไม่ทำให้เกิดโรค มาตัดต่อสารพันธุกรรม เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบเดียวกับวัคซีนของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และ AstraZeneca รวมถึงวัคซีน Sputnik V ของรัสเซีย

 

และจากข้อมูลชุดแรกที่ Johnson & Johnson เผยแพร่ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว พบว่า วัคซีนโดสเดียวของ Johnson & Johnson ให้ผลในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้คล้ายกับวัคซีนแบบ 2 โดส ของ Pfizer-BioNTech และ Moderna ถึงแม้ว่าวิธีการวัดระดับภูมิคุ้มกันจะแตกต่างกัน และไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันโดยตรงได้ แต่ข้อดีที่เห็นชัดเจนของวัคซีนจาก Johnson & Johnson คือการตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่ยังคงเห็นผลดี และดีขึ้นอีกหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว 71 วัน ซึ่งผลลัพธ์นี้เกิดขึ้นเหมือนกันทั้งในกลุ่มผู้อายุเกิน 65 ปี และกลุ่มวัยรุ่นอายุ 18 ปีขึ้นไป

 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่าวัคซีน Johnson & Johnson มีประสิทธิภาพต่อเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่หรือไม่ ขณะที่ทั่วโลกกำลังวิตกกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์จากสหราชอาณาจักรและแอฟริกาใต้ ขณะที่ผู้ผลิตเตือนว่าประสิทธิภาพของวัคซีนอาจลดลง แต่พวกเขาสามารถปรับปรุงวัคซีนโดยใช้เวลาไม่นาน เพื่อให้สามารถป้องกันเชื้อสายพันธุ์ใหม่ได้ 

 

ภาพ: vovidzha via ShutterStock

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

 อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising