×

ย้อนรอย ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ กับก้าวที่ไม่เคยหยุดสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันสู่อนาคตตลอด 100 ปี [ADVERTORIAL]

25.04.2024
  • LOADING...
Johnnie Walker

ใครกันจะไม่รู้จัก ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ (Johnnie Walker) แบรนด์วิสกี้อันดับหนึ่งของโลกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 200 ปี และมีความสัมพันธ์อันยาวนานร่วมศตวรรษกับประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2467 (ค.ศ. 1924)

 

ตลอด 100 ปี ทุกก้าวย่างของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ในประเทศไทย ภายใต้ปรัชญา ‘Keep Walking’ ได้สร้างแรงบันดาลใจในการก้าวไปข้างหน้าในแบบของตัวเอง

 

ก้าวที่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบหรือดีที่สุด อาจเป็นก้าวที่พลาด แต่การก้าวออกไปนั้นต้องมีจุดหมายที่ชัดเจน เพราะ ‘ทุกก้าวที่พาเราไปข้างหน้า คือก้าวที่มีความหมาย’ นี่คือความหมายที่แบรนด์ซ่อนไว้ในทุกก้าว

 

สำหรับจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คำว่า ‘Keep Walking’ ยังหมายถึงการพาสังคมก้าวไปข้างหน้าด้วยความกล้าที่จะก้าวออกมาทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน สิ่งที่ทำจะสำเร็จหรือล้มเหลวไม่อาจรู้ แต่ก็เลือกที่จะก้าวออกไปลองทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและแรงผลักดันให้เห็นว่า ‘การก้าวนำ’ เป็นอย่างไร

 

ในวาระครบรอบ 100 ปีของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ในเมืองไทย THE STANDARD ขอพาย้อนรอยแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดก้าว เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเรื่องราวในเมืองไทยตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบัน สู่อนาคต

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

จากยอนนี่วอล์คเกอร์ ตราดำ ตราแดง’ สู่ ‘จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ แบรนด์สกอตช์วิสกี้อันดับหนึ่งของไทย

 

ปี 1924 เป็นปีแรกที่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบรนด์สกอตช์วิสกี้สัญชาติสกอตแลนด์ เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาสู่ประเทศไทย โดยมีชื่อเรียกแบบไทยๆ ว่า ‘ตราดำ’ หมายถึง Johnnie Walker Black Label และ ‘ตราแดง’ ใช้เรียกแทน Johnnie Walker Red Label

เนื่องจากในยุคสมัยนั้นการโฆษณาเหล้ายังไม่ถูกควบคุม ป้ายโฆษณาที่เห็นจึงมีภาพขวดจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ และเขียนด้วยคำทับศัพท์ว่า ‘ยอนนี่วอล์คเกอร์’

 

 

ยุค 30-50 เสรีภาพในการโฆษณาทำให้จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ได้ไปปรากฏอยู่ในนิยาย สามเกลอ พล นิกร กิมหงวน ในรูปเมนูของห้องอาหารโรงแรมราชธานีของการรถไฟแห่งประเทศไทย และยังได้พื้นที่โฆษณาบนหนังสือพิมพ์ศรีกรุง ป้ายโฆษณาตามท้องถนนหลายแห่ง รวมไปถึงภาพยนตร์ เงิน เงิน เงิน ที่นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา 

 

ยุค 90 ถือเป็นยุคที่มีจุดเปลี่ยนของแบรนด์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการกลับด้านของโลโก้ The Striding Man จากเดิมที่เคยหันซ้ายก็เปลี่ยนมาหันขวา เพื่อสื่อถึงการเดินไปข้างหน้าสู่สหัสวรรษใหม่ และให้สอดคล้องไปกับแคมเปญ ‘Keep Walking’

 

สำหรับประเทศไทย ปี 1990 ยังเป็นปีแรกที่เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาภายใต้แนวคิด ‘ศักดิ์ศรีผู้ชายที่แท้จริง’ ถือเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบรนด์แรกๆ ในยุคนั้นที่ทำโฆษณาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม ถือเป็นตัวอย่างความกล้าของแบรนด์ที่จะก้าวออกไปค้นหาความท้าทายใหม่ๆ ผ่านการสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง 

 

แคมเปญ ‘Will You Keep Walking?’ ในปี 2013 ที่กลายเป็น Talk of the Town กลับมาตอกย้ำดีเอ็นเอของแบรนด์อีกครั้ง ด้วยการนำเสนอภาพยนตร์ชุดพิเศษเฉลิมฉลองชีวิตอันเป็นที่สุดของ เรวัต พุทธินันทน์ ผู้พลิกตำนานวงการธุรกิจเพลงไทย ตัวอย่างของคนที่มุ่งมั่นที่จะตามความฝันของตัวเอง กล้าทำในสิ่งที่ท้าทาย ไม่ยอมแพ้ สื่อให้เห็นถึงคนที่ไม่กลัวที่จะ ‘ก้าว’ เพื่อไปถึงฝัน เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทั่วประเทศ  

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

ปี 2015 แบรนด์เริ่มต้นก้าวใหม่อีกครั้งผ่านโลโก้ The Striding Man สุภาพบุรุษบนขวดจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ซึ่งเป็นโลโก้ที่ถูกใช้มาจนถึงปัจจุบัน โดย แกรี เรดฟอร์ด ได้นำเอารอยยิ้มบนในหน้ากลับคืนมาให้กับบุรุษในชุดทักซิโดที่กำลังก้าวเดินพร้อมไม้เท้าคู่ใจ โดยมือข้างหนึ่งกำลังจับที่ปลายหมวกทรงสูง แสดงถึงความเป็นมิตร อบอุ่น มองโลกในแง่ดี ตอกย้ำว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะไม่หยุดก้าวต่อไปข้างหน้า 

 

 

ในปีเดียวกัน แบรนด์รังสรรค์ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ยกระดับปาร์ตี้แห่งปีที่ทุกคนรอคอย ‘THE BLACKLIST’ ให้กลายเป็นประสบการณ์การเฉลิมฉลองเหนือระดับในชื่อ THE BLACKLIST ‘THE NEW SHADE OF BLACK’ ด้วยการร่วมมือกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตทุกวินาทีโดยมีแพสชันเป็นพลังขับเคลื่อน เนรมิตปาร์ตี้ที่มีแต่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เท่านั้นที่ทำได้ 

 

 

และเป็นครั้งแรกที่ ‘House of Walker’ แคมเปญสุดยิ่งใหญ่ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เวียนมาจัดที่เมืองไทย หลังจากตระเวนจัดมาแล้วทั่วทุกมุมโลก ในชื่อ ‘House of Walker 4D Sensory’ ที่นำนวัตกรรม 4D Sensory มากระตุ้นทุกประสาทสัมผัส พร้อมเทคโนโลยี Digital Projection Mapping และการแสดงในรูปแบบ Theatrical Performance

 

ร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ยังถูกจารึกผ่านการพัฒนานวัตกรรม เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และแพ็กเกจจิ้งที่ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ สะท้อนตัวตนของแบรนด์ที่ทันสมัยและไม่หยุดนิ่ง

 

ปี 2016 แบรนด์เปิดตัวจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล ลิมิเต็ด เอดิชั่น (Johnnie Walker Black Label Limited Edition) ขวดสีขาว ผลงานการออกแบบของ มัตติอา บิอาจิ ศิลปินชาวอิตาลี ที่ได้แรงบันดาลใจจากตำนานการเกิดจันทรุปราคา วางจำหน่ายเพียง 2 ประเทศ คือ ประเทศไทยและเลบานอน

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ 

 

เข้าสู่ปี 2017 คงจะเป็นปีที่น่าจดจำ เพราะเป็นปีที่แบรนด์ลุกขึ้นมาปรับภาพลักษณ์ใหม่ในหลายมิติ ตั้งแต่การปรับลุคและจุดยืนของแบรนด์ให้ดูวัยรุ่น มีความสนุกสนาน ทันสมัย ตอบโจทย์วิถี Socialize ที่เปลี่ยนไป เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงง่ายขึ้น พร้อมคิกออฟแคมเปญ ‘Taste of Black ครบทุกมิติแห่งรสชาติ’ สลัดภาพจำของป้าย Black Label สีดำ แทนที่ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ภายใต้สีสัน 4 แบบ เพื่อสะท้อน 4 มิติแห่งรสชาติ ได้แก่ Refreshing, Bold, Mysterious และ Vibrant ตามมาด้วยกิจกรรมความสนุกตลอดทั้งปี เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ผ่านประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมกับมิติต่างๆ ของการใช้ชีวิต

 

ปีต่อมาจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ก็เปิดตัวจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล ‘เจน วอล์กเกอร์ เอดิชั่น’ (Johnnie Walker Black Label ‘Jane Walker Edition’) จำนวนจำกัดเพียง 250,000 ขวดทั่วโลก เป็นการปรับภาพลักษณ์ให้มีความเฟมินีนและสื่อถึงความเป็นผู้หญิง เพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศและยกย่องสตรีทั่วโลก

 

 

ต่อเนื่องด้วยการจับมือกับ HBO ผู้ผลิตซีรีส์ Game of Thrones ในปี 2019 เปิดตัว White Walker by Johnnie Walker ‘ไวท์ วอล์กเกอร์ บาย จอห์นนี่ วอล์กเกอร์’ และ The Game of Thrones Single Malt Whisky Collection ‘เกมออฟโธร์น ซิงเกิลมอลต์ วิสกี้คอลเลคชั่น’ นำแรงบันดาลใจของฤดูหนาวมาถ่ายทอดเป็นวิสกี้ที่เหมาะกับการดื่มแบบเย็นเจี๊ยบจากฟรีซเซอร์ อุณหภูมิ 1.5 องศาเซลเซียส ออกแบบลวดลายบนขวดด้วยเทคนิคพิเศษ ใช้โทนสีฟ้า-ขาวราวกับพื้นที่ซึ่งปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ตกแต่งสัญลักษณ์ The Striding Man ให้เข้ากันด้วยการสวมชุดเกราะ อีกทั้งหมึกพิเศษสีฟ้าที่จะมองเห็นเมื่อแช่แข็งในอุณหภูมิเยือกเย็น เป็นลวดลายกราฟิกทั่วทั้งขวด และปรากฏคำว่า ‘Winter is Here’ 

 

ตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา แบรนด์ได้ออกแคมเปญ Keep Walking มากมาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนก้าวออกมาตามความฝันของตัวเอง โดยเชื่อมโยงกับประเด็นสำคัญต่างๆ ในสังคม 

 

ปี 2023 หนึ่งในภารกิจ Keep Walking ที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ โครงการ ‘STEP OUT OF THE BOX #ก้าวต่อไปไร้กล่อง’ ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกของดิอาจิโอที่มุ่งลดการใช้กล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของแบรนด์ต่างๆ ในเครือ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ หรือ Take a Bold Stride ภายใต้ปรัชญา Keep Walking ของแบรนด์

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

ประเทศไทยต่อยอดการ ‘ถอดกล่อง’ ครั้งแรกเมื่อปี 2022 ในต่างประเทศ ด้วยการตั้งเป้าลดมลพิษจากการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 1 ล้านกล่อง ลดขยะจากการสังสรรค์จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 1 ล้านกล่องใน 1 ปี และลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนกว่า 2.5 ล้านกิโลกรัมภายในระยะเวลา 10 ปีผ่านความร่วมมือกับ EcoMatcher ในการปลูกป่า Keep Walking Forest

 

ประเดิมต้นปี 2023 เดินเครื่องการผลิตจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ล็อตใหม่แบบไม่มีกล่องในประเทศไทย ถือเป็นอินเตอร์แบรนด์รายแรกในไทยที่ปรับขายสินค้าแบบไร้บรรจุภัณฑ์ (กล่อง) นำร่อง Johnnie Walker ทั้ง Red Label, Black Label และ Double Black เป็นกลุ่มแบรนด์แรก  

 

 

อีกหนึ่งแคมเปญที่ส่งพลังใจให้กับคนรุ่นใหม่อย่างมากก็คือแคมเปญ KEEP  WALKING ภายใต้คอนเซปต์ใหม่ ‘ทุกก้าวที่พาเราไปข้างหน้า คือก้าวที่มีความหมาย’ เปิดตัว นลิน-กัญญ์นลิน เสถียรุจิกานนท์ ในฐานะ The Walker โดยเป็นคนไทยคนแรกที่ได้เป็น 1 ใน 5 ตัวแทนของแคมเปญระดับโลกอย่างประเทศไทย สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก บราซิล และออสเตรเลีย ให้มาเป็นผู้นำในการก้าว 

 

ความพิเศษของแคมเปญนี้คือ การเชิญชวนทุกคนได้ลองมาก้าวต่อไปในแบบของตัวเองผ่านป้ายโฆษณาบิลบอร์ดขนาดใหญ่ใจกลางสยามสแควร์ โดยมีกิมมิกที่ป้ายโฆษณาดังกล่าวจะฉายภาพเคลื่อนไหวของผู้คนที่กำลังก้าวเดินอยู่ในบริเวณนั้นผ่านจอแบบเรียลไทม์

 

The Legacy ยุคสมัยแห่ง ‘ก้าวที่กล้า’

 
ระยะเวลากว่า 100 ปี ย่อมต้องมีเรื่องราวมากมายให้เล่าขาน แต่ถ้าให้หยิบยกที่สุดของผลงานที่เป็นตำนานและควรถูกเล่าขานในแง่ของการเป็นแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดกรุยทาง เพื่อค้นหาความท้าทายใหม่ๆ ผ่านการสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาด จนสามารถสร้างอิมแพ็กต์ให้กับผู้คนแล้วละก็ นี่คือ 3 ผลงานที่ THE STANDARD ขอแปะป้าย The Legacy of Mind

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

1. Winter in Bangkok: เป็นไปไม่ได้…ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ 

 

ใช่…แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ในปี 2004 จะมีใครกล้าทุ่มทุนใช้งบโฆษณาไปกับการเนรมิตกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นเมืองหิมะ เปลี่ยนแม่น้ำเจ้าพระยาให้กลายเป็นน้ำแข็งด้วย CG ในยุคที่ยังไม่ค่อยถูกใช้อย่างแพร่หลาย แต่ในฐานะแบรนด์ที่กล้าก้าวออกไปลองทำสิ่งใหม่ๆ และกล้าทำในสิ่งที่คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นไปไม่ได้ คำว่าเป็นไปไม่ได้มันก็แค่ยังไม่ได้ทำต่างหาก

 

หลังจากที่ภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้ปรากฏสู่สายตาคนไทย มันกลายเป็น Talk of the Town ทันที และส่งผลให้ สาธิต กาลวันตวานิช ผู้กำกับโฆษณามือรางวัลระดับโลก เจ้าของบริษัท Phenomena กลายเป็นที่จับตามอง ไม่เพียงเท่านั้น แรงกระเพื่อมนี้ยังก่อให้เกิดความหวังว่าวงการโปรดักชันเฮาส์เมืองไทยเป็นไปได้ที่จะเทียบชั้นวงการระดับโลก และยังอิมแพ็กต์ไปถึงวงการอื่นๆ ได้เห็นว่า ‘อะไรก็เป็นไปได้’ เหนือสิ่งอื่นใด Winter in Bangkok ยังถูกพูดถึงในฐานะผลงานที่ทำให้ปรัชญา ‘Keep Walking’ ของแบรนด์ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

 

2. WALK FESTIVAL #WALKไทยให้ไกลกว่าเดิม

 

ที่โหวตให้ WALK FESTIVAL เป็นผลงานที่ควรค่ากับตำแหน่งแคมเปญในตำนานของแบรนด์ เพราะเป็นครั้งแรกที่แบรนด์เข้าถึงความเป็นไทยอย่างแท้จริง

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

WALK FESTIVAL เทศกาลดนตรี ศิลปะ และรสชาติ ภายใต้สโลแกน #WALKไทยให้ไกลกว่าเดิม จัดขึ้นใน 3 จังหวัด คือ WALK ขอนแก่น, WALK เชียงใหม่ และ WALK กรุงเทพฯ ที่ตั้งต้นมาจากความเชื่อที่ว่า หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่คือฟันเฟืองสำคัญที่จะนำพาความเป็นไทยไปสู่ระดับโลกได้ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินไทยคนรุ่นใหม่ เป็นที่มาของการฮุกอินไซต์ท้องถิ่นแบบจริงจังของแบรนด์ นำศิลปินท้องถิ่นมาร่วมสร้างสรรค์ความเป็นไทย เช่น ปลุกจังหวะไทยๆ ด้วยดนตรีไทยให้เท่ไม่เหมือนใคร 

 

ยกระดับศิลปะไทยกับ Visual Artists ไทย เพื่อสร้างสรรค์บรรกาศไทยๆ ในฟีลลิ่งใหม่ๆ อาทิ Interactive Installation ที่หยิบจับเอาความเป็นไทยของภาคเหนือ ใต้ อีสาน และกลาง ครีเอตออกมาเป็นโชว์เจ๋งๆ ไปจนถึงการเปิดสัมผัสรสชาติเสน่ห์ไทยที่รังสรรค์โดยบาร์เทนเดอร์ไทยระดับโลก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อมอบประสบการณ์ ‘ความเป็นไทย’ ที่ใหม่และแตกต่าง เพื่อสร้างสรรค์ความเป็นไทยให้ไปไกลได้อย่างที่ตั้งใจ

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

3. Keep Walking Thailand & Awakening Bangkok: กลับสู่ยุคที่ต้องลุกเดินอีกครั้ง!

 

ขอยกตำแหน่งให้กับสองผลงานที่สร้างอิมแพ็กต์ต่อเนื่องกันในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน และน่าจะเป็นแคมเปญที่สร้างการจดจำให้กับคนไทยอย่างมาก เริ่มจาก ‘Keep Walking Thailand’ ในปี 2022 ในเวลานั้นแบรนด์เลือกที่จะปลุกแรงบันดาลใจให้กับไทย ด้วยการชวนคนไทยก้าวออกไปใช้ชีวิตบนท้องถนนที่คนไทยรักและผูกพันอีกครั้ง โดยมี วี-วิโอเลต วอเทียร์ ทำหน้าที่เป็น The Walker หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คนแรกของเมืองไทย ผ่านภาพยนตร์โฆษณาและจัดกิจกรรมต่างๆ บนถนนข้าวสาร เจริญกรุง นานา เรื่อยมาจนถึงการรวมเป็นพลังสำคัญในเทศกาลไฟ Awakening Bangkok ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน 

 

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์

 

Awakening Bangkok ไม่เพียงเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่อยู่ในแคมเปญ Keep Walking ชวนคนไทยก้าวต่อไปข้างหน้าเท่านั้น แต่ทำให้คนไทยได้เห็นก้าวสำคัญอีกครั้งของแบรนด์ผ่านงานออกแบบสุดล้ำที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น ปี 2020 ออกแบบประติมากรรมแสงไฟสุดอลังการทั่วย่านเจริญกรุง Interactive Design กว่า 36 ชิ้นจากศิลปินไทยและเทศในธีม Re/Wind/Fast/Forward 

 

หรือในปี 2022 ดึงเสน่ห์ของถนนไทยออกมาให้ชมผ่าน Johnnie Walker Light Installation ที่ไปรษณีย์กลาง บางรัก สนุกไปกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอาย Modernized Chinese ที่ Johnnie Walker Hub @Yellow House

 

 

 

100 ปีที่ไม่เคยหยุดก้าว ถูกถ่ายทอดผ่าน ‘Johnnie Walker 100th Year Limited Edition’

 

ในฐานะแบรนด์ที่มีเรื่องราวความผูกพันกับคนไทยมามากกว่า 100 ปี ไม่ง่ายเลยที่จะรักษาความเป็นผู้นำและเป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภค โดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูง 

 

แต่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ทำได้ สามารถครองใจผู้บริโภคและรั้งตำแหน่งผู้นำในหมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่องยาวนานถึง 22 ปีจากผลสำรวจของ Thailand’s Most Admired Brand 2022 

 

ก้าวย่างสู่ศตวรรษที่ 2 ของแบรนด์ เราคงได้เห็นแคมเปญการตลาดที่ยังตั้งอยู่บนพื้นฐานของคำว่า Keep Walking ซึ่งเป็นปรัชญาของแบรนด์อย่างแน่นอน 

 

และสิ่งที่จะได้เห็นแน่ๆ จากการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีประเทศไทย คือ ‘Johnnie Walker Limited Edition ฉลอง 100 ปีประเทศไทย’ งานดีไซน์สุดคลาสสิกที่ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ 100 ปีที่ผ่านมาของแบรนด์ในประเทศไทย ผ่านลวดลายกราฟิกตั้งแต่ชื่อเรียก ‘ยอนนี่วอล์คเกอร์’ โลโก้ The Striding Man ดีไซน์แรกสุดจากปี 1908 ที่ออกแบบโดย ทอม บราวน์ มีการนำไอคอนิกของกิจกรรมและแคมเปญที่ผ่านมามาใส่ อย่างเช่น สัญลักษณ์ที่ปรากฏในภาพยนตร์โฆษณาชุด Winter in Bangkok และสัญลักษณ์ของ Blacklist Party รวมถึงตัวแทนของ Walk Thai

 

ทั้งหมดนี้ถูกผสมผสานเข้ากับเรื่องราวอีก 100 ปีข้างหน้าที่นำเสนอไอคอนิกแห่งอนาคตไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจจิ้ง โลโก้ The Striding Man ที่มีความล้ำสมัย และแน่นอนว่ายังคงใช้โทนสีทองเป็นสีหลัก

 

ถือเป็น Special Edition ฉบับประวัติศาสตร์ 100 ปีที่คนไทยควรเก็บสะสม เพราะจะมีวางจำหน่ายที่ประเทศไทยเท่านั้น 

 

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ได้แล้ววันนี้ที่ The Mall, Tops, Foodland และ Villa Market ทุกสาขา

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising