×

ไบเดน เตือนรัสเซียบุกยูเครนเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่สหรัฐฯ ขอคณะมนตรีความมั่นคง UN เปิดประชุมด่วนจันทร์นี้

28.01.2022
  • LOADING...
ไบเดน เตือนรัสเซียบุกยูเครนเดือนกุมภาพันธ์

เอมิลี ฮอร์น โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ แถลงข่าววานนี้ (27 มกราคม) ภายหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน โทรศัพท์สายตรงถึงประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน โดยระบุเนื้อหาการพูดคุย ซึ่งไบเดนได้กล่าวเตือนผู้นำยูเครน ถึงความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจเปิดฉากบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์

 

“ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ชัดเจนว่า รัสเซียจะบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ เขาได้พูดเรื่องนี้ต่อสาธารณ ะและเราได้รับการเตือนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเป็นเวลานานหลายเดือน” ฮอร์นกล่าว

 

ท่าทีของไบเดนมีขึ้นขณะที่สหรัฐฯ พยายามเรียกร้องให้มีการเปิดประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อหารือถึงวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับยูเครน ซึ่งสหรัฐฯ ระบุว่าเป็น ‘พฤติกรรมคุกคาม’ ของฝ่ายรัสเซีย

 

“กองทหารรัสเซียมากกว่า 100,000 นาย ถูกส่งไปประจำการที่ชายแดนยูเครน และรัสเซียกำลังมีส่วนร่วมในการกระทำบั่นทอนความมั่นคงอื่นๆ ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ยูเครน และกำลังเป็นภัยคุกคามที่ชัดเจนต่อสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ และกฎบัตรสหประชาชาติ” ลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำ UN กล่าวในแถลงการณ์ที่ออกมาเมื่อวานนี้ พร้อมยืนยันว่า สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทั้ง 15 ประเทศ ต้องช่วยกันตรวจสอบข้อเท็จจริงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และพิจารณาถึงสิ่งที่เป็นเดิมพันสำหรับยูเครน รัสเซีย และยุโรป ตลอดจนพันธกรณีและหลักการของกฎระเบียบระหว่างประเทศ

 

“นี่ไม่ใช่เวลาที่จะรอดู ความสนใจอย่างเต็มที่ของคณะมนตรีความมั่นคงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในตอนนี้ และเราคาดหวังที่จะมีการหารืออย่างตรงไปตรงมา และมีจุดมุ่งหมายในวันจันทร์” 

 

ทางด้านรัสเซียยืนยันว่า ยังคงเปิดประตูสำหรับการพูดคุยกับสหรัฐฯ และแสดงความคาดหวังในแง่บวกที่จะสามารถคลี่คลายวิกฤตครั้งนี้ได้ แม้ว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ และพันธมิตรชาติตะวันตก จะปฏิเสธข้อเรียกร้องหลักของรัสเซีย ที่ต้องการให้รับรองว่ายูเครนจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO

 

สถานการณ์ตึงเครียดในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังรัสเซียส่งกำลังทหารกว่า 100,000 นาย ประจำการตามแนวชายแดนติดกับยูเครน ซึ่งรัสเซียได้ยื่นข้อเรียกร้องหลายประการ รวมถึงการขอให้จัดทำข้อตกลงความมั่นคงฉบับใหม่ในยุโรปตะวันออก ที่คล้ายกับยุคสงครามเย็น ซึ่งสหรัฐฯ และ NATO ได้ส่งคำตอบเป็นลายลักษณ์อักษรกลับไปเมื่อวันพุธ (26 มกราคม) 

 

โดย ดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลเครมลิน กล่าวว่ารัสเซียจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ และไม่เร่งรีบที่จะให้ข้อสรุปต่อคำตอบจากสหรัฐฯ และ NATO แม้ว่าแถลงการณ์จากทั้งสองฝ่ายจะบ่งชี้ว่า ไม่สามารถตอบรับข้อเรียกร้องของรัสเซีย ซึ่งทำให้ความหวังในการหาทางออกของวิกฤตนี้เหลือไม่มากนัก

 

“จากสิ่งที่เพื่อนร่วมงานของเรา (สหรัฐฯ และ NATO) กล่าวเมื่อวานนี้ เป็นที่แน่ชัดว่า หมวดหมู่หลักที่เขียนไว้ในเอกสารฉบับร่างนั้น…เราไม่สามารถพูดได้ว่าความคิดของเราถูกนำมาพิจารณา หรือมีความเต็มใจที่จะรับข้อกังวลของเรามาพิจารณา แต่เราจะไม่เร่งรีบในการประเมิน” เปสคอฟกล่าว

 

วิกฤตที่เกิดขึ้น ยังขยายวงไปยังเรื่องพลังงาน ซึ่งล่าสุดสหรัฐฯ เตือนว่าจะระงับไม่ให้มีการเปิดท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 ที่เป็นท่อส่งก๊าซสายสำคัญ ความยาว 1,225 กิโลเมตร ซึ่งจะสามารถเพิ่มกำลังการส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังเยอรมนี ผ่านใต้ทะเลบอลติกได้มากกว่าเท่าตัว โดยถือเป็นโครงการด้านพลังงานขนาดยักษ์ ที่ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 5 ปี ด้วยงบประมาณกว่า 11 พันล้านดอลลาร์ และมีกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ของยุโรปหลายรายร่วมลงทุน

 

โดย เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า หากรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน การเปิดท่อส่งก๊าซสายสำคัญนี้จะไม่เกิดขึ้น

 

“ผมต้องการให้ชัดเจนอย่างมาก ว่าหากรัสเซียบุกยูเครนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง Nord Stream 2 จะไม่เดินหน้าต่อ” เขากล่าว 

 

ขณะที่ไพรซ์ไม่เปิดเผยรายละเอียดชัดเจนว่าสหรัฐฯ จะยับยั้งการเปิดท่อส่งก๊าซนี้ได้อย่างไร และสหรัฐฯ มีอำนาจหรือไม่ แต่ยืนยันว่าสหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับเยอรมนี เพื่อไม่ให้โครงการท่อส่งก๊าซนี้เดินหน้าต่อ

 

ซึ่งทางด้านรัฐบาลเยอรมนี ก็ไม่ปฏิเสธว่าอาจมีการคว่ำบาตรเพื่อยับยั้งโครงการท่อส่งก๊าซนี้

 

ภาพ: Photo by Drew Angerer/Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising