×

จิ๋ว ปิยนุช จากรองแชมป์สู่ชัยชนะที่รอมา 15 ปี ผู้หญิงคนนี้ฝากอะไรไว้ให้วงการเพลงไทย

04.10.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • ครั้งหนึ่งจิ๋วเคยหยิบยกเอาเพลง And I’m Telling You, I’m Not Going จากเรื่อง Dreamgirls ขึ้นมาร้องบนคอนเสิร์ตจบการศึกษาของเธอเมื่อ 11 ปีก่อน และเมื่อเธอหยิบยกเพลงนี้ขึ้นมาร้องอีกครั้งในรายการ The Mask Project A เราพบว่าเธอมีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมและกลายเป็นหนึ่งโชว์ที่น่าจดจำในฐานะศิลปินหญิงของวงการเพลงไทย

“คุณสนครับ คุณได้เป็นเดอะสตาร์”

 

สิ้นเสียงของ แซน-พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ พิธีกรของรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ในซีซันแรก คนในห้องส่งและทางบ้านเองก็ล้วนแต่ร้องไชโยและร่วมแสดงความยินดีกับแชมป์อย่าง สน-สนธยา ชิตมณี กันอย่างมีความสุข แน่นอนว่าในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ผู้หญิงในชุดสีชมพูบานเย็นแปร๋นๆ ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ดูจะหมดซีนไปในบัดดล เพราะเราก็ต่างร่วมเฉลิมฉลองและแสดงความยินดีกับแชมป์กันอยู่ แล้วคนที่ได้ที่ 2 ควรยืนอยู่ตรงไหน

 

 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2546 ประเทศไทยของเราได้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่ารายการประกวดร้องเพลงแบบเรียลิตี้ กล่าวคือรายการประกวดร้องเพลงที่มีการติดตามการประกวดตั้งแต่เริ่มต้นสมัคร ฝ่าฟันเพื่อเข้ารอบ ก่อนจะไปประกวดและออกอากาศกันสดๆ ซึ่งแน่นอนว่าเราต่างคุ้นเคยชื่อของรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ที่มีมาอย่างยาวนานถึง 12 ซีซัน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าในยุคนั้นที่รายการประกวดร้องเพลงไม่ได้มีมากมายจนเราดูมันอย่างเคยชินประหนึ่งดูละครหลังข่าวหรือกินของว่างระหว่างวันไปแล้ว รายการ เดอะสตาร์ คือสิ่งใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนภูมิทัศน์รายการโทรทัศน์บ้านเรา ถึงแม้รูปแบบรายการจะคล้ายๆ กับรายการ American Idol ในยุคเดียวกันอยู่พอสมควร แต่มันก็ครองใจผู้ชมมาตลอดและปลุกปั้นดาวมาประดับวงการมากมาย

 

 

ผู้หญิงที่ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศในวันนั้นชื่อ จิ๋ว-ปิยนุช เสือจงพรู ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ต้องการจะตามหาความฝันในการเป็นศิลปิน และเธอก็ทำผลงานได้อย่างน่าชื่นชมในทุกๆ สัปดาห์จนเป็นที่มาของฉายา ‘จิ๋วแต่แจ๋ว’ ซึ่งหนึ่งในคณะกรรมการอย่าง เพชร มาร์ มอบให้เธอ

 

ความน่าสนใจของจิ๋วในยุคนั้นคือการเป็นผู้หญิงที่ร้องเพลงโชว์พลังเสียงแบบ ‘ดิว่า’ ซึ่งเธอเองก็หยิบยกเอาหลายๆ บทเพลงขึ้นมาประชันกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ขอเพียงที่พักใจ, เสียใจได้ยินไหม, ไม่มีใคร และบทเพลงที่อยู่ในความทรงจำของแฟนๆ อย่าง ทำไมต้องเธอ ที่การแอดลิบของเธอบิดแปลงโน้ตในช่วงท้าย นั่นคือความท้าทายใหม่ๆ และความธรรมชาติที่ผู้ฟังอย่างเราๆ ต่างตื่นเต้น

 

 

หลังจากการประกวด เธอเองก็เงียบหายไปสักพักราว 2 ปี ก่อนจะออกอัลบั้มแรกคู่กับเพื่อนสาวคนสนิทอย่าง นิว-นภัสสร ภูธรใจ ในชื่อ ‘นิว-จิ๋ว’ อัลบั้ม Together ในปี 2548 โดยมีเพลง คนเจ้าน้ำตา อันเป็นเพลงเด่นของอัลบั้มจากปลายปากกาของ นิ่ม สีฟ้า ที่ปัจจุบันกลายมาเป็นเพลงบัลลาดป๊อปไทยที่คลาสสิกที่สุดเพลงหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าในกรณีที่คุณไม่รู้ เพลงนี้ในเวอร์ชันสตูดิโอไม่ใช่เสียงของจิ๋ว ขณะเดียวกันในอัลบั้มนั้นเธอก็ยังฝากเพลงเด่นๆ ของเธอไว้อย่าง ทำไม เพลงป๊อปอาร์แอนด์บีรวดร้าวอารมณ์ที่กลายเป็นเพลงที่แรกในชีวิตการทำงานในวงการดนตรีอย่างแท้จริง

 

 

หลังจากนั้นพวกเธอก็เงียบหายไปทำอัลบั้มและซิงเกิลเล็กๆ น้อยๆ อยู่นานถึง 6 ปี ก่อนจะมีอัลบั้มที่ 2 ที่ดังเป็นพลุแตกในชื่อ Next Step ตามออกมาในปี 2554 ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ทำให้เราได้รู้จักกับเพลงแบบนิว-จิ๋วที่มีท่อนสอดรับไลน์ประสานสวยงามจากการปลุกปั้นของ ต้น-สุวัธชัย สุทธิรัตน์ และเพลงฮิตมากมายของพวกเธอ เช่น อย่าเอาความเหงามาลงที่ฉัน, รอแล้วได้อะไร ซึ่งในเพลงหลังเองนี้ที่จิ๋วโชว์การร้องได้อย่างยอดเยี่ยม และสิ่งหนึ่งที่เราชื่นชมเธอมากๆ คือเธอเป็นศิลปินที่มีภาพของความเป็น ‘เพื่อนนางเอก’ อยู่เสมอ เพราะต้องยอมรับว่าหลายๆ เพลงของนิว-จิ๋วที่ฮิตนั้นเป็นเสียงร้องของนิวเป็นส่วนใหญ่ แต่จิ๋วก็หาลู่ทางและใส่ความสามารถในการร้องประสานของเธอลงไปแทนที่จะแก่งแย่งกันโดดเด่น ซึ่งเธอทำหน้าที่นั้นได้เหมาะสม

 

นอกจากนี้จิ๋วเองยังมีเพลงเดี่ยวที่น่าจดจำอีกมากมาย เช่น ถ้าไม่ฟังจะถามทำไม จากอัลบั้ม Signature (2555) กับเทคนิคการร้อง Run-note ที่มีเสน่ห์คล้ายๆ กับเทคนิคของมารายห์ แครีย์ หรืออีกหลายๆ บทเพลงที่เธอใช้อารมณ์ร้องอย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้จิ๋วยังคงเป็นศิลปินที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ชมในเรื่องของการร้องสดได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งพลังในการร้องและเทคนิคแพรวพราวมากมาย (คุณลองฟังเพลง ห่วงใย เพลงเก่าของเบิร์ด ธงไชย ในเวอร์ชันของจิ๋วดูสิ อลังการดาวล้านดวงมาก!) ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเธออาจจะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งอาจส่งผลมาจากสุขภาพและอายุการใช้งานของเส้นเสียงเธอ แต่เราก็เอาใจช่วยเธอเสมอให้กลับมาแข็งแรงและร้องเพลงแบบ ‘สะใจ’ ให้เราได้ฟังอีก

 

 

แน่นอนว่าหลายๆ ครั้งเธอถูกค่อนขอดถึงความสามารถอยู่บ้างว่าร้องได้ไม่ดีเท่าคนอื่นๆ ในเพลงเดียวกัน หรือการที่เธอมีเนื้อเสียงที่บางและไร้พลัง หลายครั้งเธอก็โดนครหาว่าถูกอวยจากแฟนๆ มากเกินไป โดยเฉพาะการปรากฏตัวของเธอในรายการ The Mask Project A ล่าสุดนี้ที่ต่างมีกลุ่มคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมหน้ากากเดอะซันถึงชนะ แต่ในฐานะคนฟังเพลงคนหนึ่ง เราเชื่อว่าศิลปินทุกคนไม่ได้ต้องการอยากจะร้องเพลงออกมาแล้วเปรียบเทียบกับใครหรือเอาชนะใคร แต่พวกเขาอยากทำเพื่อทะลุขีดจำกัดของความสามารถตัวเองมากกว่า เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าจากการฝึกซ้อมทั้งการร้องและเทคนิค พวกเขาสามารถทำได้ โดยเฉพาะจิ๋วเองที่ครั้งหนึ่งในปี 2550 เธอเคยหยิบยกเอาเพลง And I’m Telling You, I’m Not Going จากเรื่อง Dreamgirls ขึ้นมาร้องบนคอนเสิร์ตจบการศึกษาของเธอมาแล้ว และเมื่อเธอหยิบยกเพลงนี้ขึ้นมาร้องอีกครั้งในรายการ เราพบว่าเธอมีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมและกลายเป็นหนึ่งโชว์ที่น่าจดจำในฐานะศิลปินหญิงของวงการเพลงไทย

 

ในวันนี้ที่หน้ากากเดอะซัน หรือจิ๋ว ปิยนุช ได้ครองตำแหน่งแชมป์ของรายการ The Mask Project A นั้นเท่ากับการพิสูจน์ว่าตลอดระยะเวลา 15 ปีในวงการของเธอ จากรองแชมป์เดอะสตาร์สู่หนึ่งในดูโอดิว่าที่ประสบความสำเร็จที่สุด เธอคู่ควรกับชัยชนะในครั้งนี้อย่างแท้จริง ด้วยความสามารถและทัศนคติที่บ่มเพาะมาทำให้เห็นว่าเธอไม่เคยที่จะหยุดพัฒนาตัวเองและสร้างขอบเขตความสามารถใหม่ๆ ของเธอให้เราได้ชื่นชมอยู่เสมอ

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

FYI
  • ปิยนุช เสือจงพรู หรือจิ๋ว เกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2525 ปัจจุบันอายุ 35 ปี เธอมีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีจากคณะมนุษยศาสตร์ สาขาดุริยศิลป์ มหาวิทยาลัยพายัพ ซึ่งเธอเองก็เดินทางมาในสายดนตรีโดยตรง
  • ห่วงใย คือเพลงเก่าของเบิร์ด ธงไชย ที่จิ๋วเคยหยิบมาร้องในคอนเสิร์ต The Battle of BFF Concert เมื่อปี 2559 และเธอก็ทำให้เพลงนี้ทะลุทะลวงไปไกลกว่าที่มันเคยเป็น

 

 

  • เมื่อ 11 ปีก่อน เธอเคยหยิบเพลง And I’m Telling You, I’m Not Going มาร้องในคอนเสิร์ตจบการศึกษาของเธอ และแน่นอนว่าเธอทำได้เท่าที่ความสามารถในวันนั้นของเธอจะทำได้

 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising