×

เจฟฟ์ เบโซส์ แบ่งทรัพย์สินหลังหย่า อดีตภรรยารับหุ้น 25% ใน Amazon มูลค่า 1.1 ล้านล้านบาท

05.04.2019
  • LOADING...
jeff-bezos

หลังประกาศข่าวการแยกทางออกมาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เจฟฟ์ เบโซส์ ผู้ก่อตั้ง ประธานกรรมการบริหารบริษัท แอมะซอน และ แม็กเคนซี ทุตเติล ก็ได้ดำเนินการแบ่งทรัพย์สินเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ โดยฝ่ายหญิงจะได้รับหุ้น 25% ของฝ่ายชายในแอมะซอน (นับเป็นสัดส่วนการถือหุ้นทั้งบริษัทที่ 4%) คิดเป็นมูลค่า 36,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามราคาตลาด ณ ปัจจุบัน หรือราว 1.11 ล้านล้านบาท ส่วนกระบวนการหย่าจะแล้วเสร็จประมาณ 90 วัน

 

ทั้งนี้ แม็กเคนซีได้ตกลงที่จะยกสิทธิการโหวตออกเสียงในฐานะผู้ถือหุ้นให้กับเจฟฟ์ทั้งหมด และหากเธอตัดสินใจที่จะขายหุ้นแอมะซอนไปให้ผู้ซื้อรายใดก็ตาม ผู้ที่ซื้อหุ้นจำนวนดังกล่าวจะต้องทำข้อตกลงเพื่อยินยอมให้ เจฟฟ์ เบโซส์ สามารถใช้สิทธิโหวตออกเสียงของหุ้นนั้นๆ ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

 

มีรายงานอีกด้วยว่า แม็กเคนซีตัดสินใจที่จะไม่รับหุ้นหรือการจัดสรรส่วนแบ่งทรัพย์สินในบริษัทอื่นๆ เช่น หนังสือพิมพ์ The Washington Post และบริษัทเทคโนโลยีอวกาศ Blue Origin

 

เมื่อคำนวณจากหุ้น 4% ในแอมะซอนที่แม็กเคนซีจะได้รับ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 36,000 ล้านเหรียญ ก็นับเป็นจำนวนเงินที่มากพอจะทำให้เธอก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีนีอันดับ 4 ของโลก ตามหลัง ฟรองซัวส์ เบตตองกูร์ เมเยอร์ (Françoise Bettencourt Meyers) เศรษฐีนีอันดับ 1 ของโลก ทายาทครอบครัวผู้ก่อตั้งบริษัทเครื่องสำอาง L’Oréal ที่มีทรัพย์สินในครอบครองมูลค่ากว่า 45,600 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

หลังข่าวการแบ่งทรัพย์สินจากการหย่าได้เผยแพร่ออกไป ทั้งเจฟฟ์และแม็กเคนซีก็ได้ออกมาทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัวของทั้งคู่ โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวขอบคุณกันและกัน เพื่อน ครอบครัว ที่ให้ความช่วยเหลือ เข้าใจถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งยังอวยพรให้อีกคนโชคดีและประสบความสำเร็จในเส้นทางที่จะก้าวเดินต่อไป

 

“ในทุกๆ งานที่เราทำร่วมกัน ความสามารถของแม็กเคนซีได้แสดงออกมาให้เห็นเด่นชัดอยู่แล้ว เธอเป็นทั้งภรรยาที่มหัศจรรย์ เพื่อน และแม่ของลูกๆ เธอฉลาด ยอดเยี่ยม มีเมตตา และแม้ว่าเราจะยังไม่ล่วงรู้อนาคตของตัวเอง แต่สิ่งที่ผมรู้แน่นอนคือผมจะเรียนรู้จากเธอตลอดไป” เจฟฟ์กล่าว

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising