×

ศึกหนัก! ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นอาจเป็นผู้แพ้ในสนาม EV จีน หลังยอดขายตกมากกว่า 2 เท่าของตลาดรวม ขณะที่การแข่งขันยังรุนแรง

03.05.2023
  • LOADING...
รถยนต์ไฟฟ้า

สำนักข่าว Reuters เปิดเผยรายงานกึ่งวิเคราะห์ซึ่งระบุว่า บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับวิกฤตยอดขายในจีน เนื่องจากการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างรวดเร็วได้พลิกโฉมตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และทำให้ยอดซื้อรถยนต์ที่ใช้น้ำมันลดลง

 

ข้อมูลอุตสาหกรรมที่วิเคราะห์โดย Reuters แสดงให้เห็นว่ายอดขายรวมของแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นในจีนลดลง 32% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสแรก ซึ่งมากกว่า 2 เท่าของการหดตัวของตลาดโดยรวม

 

ทั้งนี้ ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ เช่น Volkswagen AG ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในจีน ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นมีความโดดเด่นเนื่องจากยังมีการขายรถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

 

นักวิเคราะห์ชี้ว่าการผลิตและอัตรากำไรจะได้รับแรงกดดันในจีน เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ปรับลดกำลังการผลิตและราคาของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเพื่อรักษาสินค้าคงคลัง ถือเป็นสัญญาณที่น่ากังวลของการแข่งขันที่ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นอาจเผชิญมากขึ้นนอกตลาดในประเทศของตน

 

Yasushi Matsui ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Denso Corp ผู้ผลิตชิ้นส่วนในจีนกล่าวว่า ผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นต้องเผชิญกับสต๊อกรถยนต์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในประเทศจีน

 

ขณะที่ Mitsubishi Motors Corp เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าได้ระงับการผลิต Outlander SUV ในจีนเป็นเวลา 3 เดือน และจะรับผิดชอบในส่วนของการขายที่ร่วมทุนกับ GAC Group ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่ชะลอตัวลง คิดเป็นมูลค่า 77 ล้านดอลลาร์

 

ทั้งนี้ สถานการณ์ของ Mitsubishi Motors Corp ไม่ต่างจากผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายอื่นๆ มากนัก แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขยอดขายในจีน แต่ข้อมูลอุตสาหกรรมที่วิเคราะห์โดย Reuters แสดงให้เห็นว่ายอดขายไตรมาสแรกของบรรดาค่ายรถยนต์ผู้ผลิตในจีนลดลง 58% จากปีก่อนหน้า

 

ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ซีดาน SYLPHY ของค่าย Nissan ที่มียอดขายสูงสุดในตลาดจีนเป็นเวลา 3 ปี ถูกเบียดตกอันดับเมื่อปี 2022 โดย BYD Song รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ผลิตโดย BYD ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของจีนเบียดแซงหน้าไป

 

Nissan ได้แสดงความเห็นผ่านอีเมลว่า บริษัทสามารถขายรถยนต์ซีดาน SYLPHY ได้มากกว่า 5 ล้านคันในตลาดจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังมีรถยนต์รุ่นไฮบริดที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้รับสิทธิพิเศษที่จูงใจให้คนซื้อจากรัฐบาลท้องถิ่นในกว่างโจว

 

Nissan กล่าวว่าบริษัทกำลังทำงานร่วมกับเมืองอื่นๆ ในการสนับสนุนที่คล้ายกัน รถยนต์ซีดานรุ่นไฮบริดที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า E-Power จะเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ของ Nissan ในประเทศจีน

 

ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า Toyota Motor Corp ได้มองแนวทางแบบค่อยเป็นค่อยไปสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าล้วน เพื่อช่วยปกป้องทางเลือกของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ดังกล่าวนี้ก็สร้างภาระต้นทุนการขายในจีน

 

Bill Russo ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอของ Automobility บริษัทที่ปรึกษาในเซี่ยงไฮ้กล่าวว่า ในตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีน ญี่ปุ่นถือเป็นผู้แพ้รายใหญ่ที่สุดในสงครามรถยนต์ครั้งนี้ เพราะรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาย่อมเยามากขึ้นดึงดูดใจผู้ซื้อมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่ผู้บริโภคชาวจีนไม่นิยมซื้อแบรนด์ต่างชาติอยู่แล้ว

 

ข้อมูลอุตสาหกรรมจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนที่วิเคราะห์โดย Reuters เผยว่า ส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ญี่ปุ่นในตลาดจีนลดลงเหลือ 18.5% ในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยลดลงจาก 24% ในปี 2020

 

ขณะที่ข้อมูลของ Toyota ชี้ว่ารถยนต์ของค่ายซึ่งรวมถึง Lexus แบรนด์หรู ลดลง 14.5% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 เช่นกัน โดย Koji Sato ซีอีโอของ Toyota กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่า บริษัทจำเป็นต้องเพิ่มความเร็วและความพยายามเพื่อตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าอย่างมั่นคงในตลาดจีน

 

ด้าน Nissan Motor เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ของทางค่ายในจีนลดลง 45.8% ยอดขาย Mazda Motor Corp ลดลง 66.5% และยอดขายของ Honda Motor ลดลง 38.2% ตามข้อมูลอุตสาหกรรมในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้เช่นกัน

 

Toshihiro Mibe ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Honda ยอมรับว่าค่ายรถของตนล้าหลังคู่แข่งชาวจีนในด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์บางอย่าง ก่อนย้ำว่าขณะนี้ Honda กำลังมุ่งพัฒนาระบบการขับขี่อัตโนมัติและบริการต่างๆ เช่น เกม

 

Masatoshi Nishimoto นักวิเคราะห์วิจัยหลักของ S&P Global Mobility ในโตเกียว กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นสร้างชื่อเสียงจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความทนทาน แต่การเปลี่ยนแปลงในจีนแสดงให้เห็นถึงการดึงดูดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาต่ำกว่าและข้อเสนอใหม่ๆ ที่ใช้ซอฟต์แวร์ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นอาจเผชิญการต่อสู้แบบเดียวกันในสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกับในจีน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising