×
SCB Omnibus Fund 2024

สตาร์ทอัพ ‘รถยนต์ไฟฟ้าจีน’ เนื้อหอม โกยเงินลงทุนจาก Venture Capital ไปกว่า 6 พันล้านดอลลาร์

15.10.2022
  • LOADING...
รถยนต์ไฟฟ้าจีน

ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอการเติบโต เงินทุนไหลออกจากภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง แต่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ากลับได้รับความสนใจจาก Venture Capital เพิ่มขึ้นอย่างมาก และครองแชมป์อุตสาหกรรมที่ได้รับเงินระดมทุนสูงสุดของปีนี้ จากธุรกรรมการลงทุนในสตาร์ทจีนทั้งหมด 147 รายการ รวมมูลค่า 5.95 พันล้านดอลลาร์ (ข้อมูลจากบริษัทวิจัย Preqin) 

 

ทั้งนี้ เงินลงทุนในสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ไหลเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า ตามมาด้วยแบตเตอรี่และเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงอีก 2 ธุรกิจที่มีการเติบโตสูงในห่วงโซ่ยานยนต์พลังงานทดแทน ตามมาเป็นอันดับที่ 4 และ 5 โดยทั้งหมดที่กล่าวนี้ได้รับเงินระดมทุนมากกว่าปีที่แล้ว ในขณะที่การระดมทุนสำหรับอุตสาหกรรมที่ร้อนแรง เช่น ธุรกิจอินเทอร์เน็ต การศึกษา และอสังหาริมทรัพย์ กลับลดลง 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


โดยการระดมทุนที่ใหญ่สุดของปีนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 1.57 พันล้านดอลลาร์ จาก Changjiang Capital ที่ลงทุนในสตาร์ทอัพรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ ซึ่งริเริ่มโดย Soh Weiming ผู้ก่อตั้ง Renault China   

 

ถัดมาคือดีลลงทุนในรอบ Series A ของ Sunwoda เพื่อรุกธุรกิจแบตเตอรี่ โดยได้รับเงินระดมทุนจาก Shenzhen Capital Group และกองทุน National Green มูลค่า 1.17 พันล้านดอลลาร์

 

“ค่อนข้างชัดเจนว่าตลาดเดียวที่ทำผลงานได้ดีมากคือตลาด EV สำหรับตอนนี้ มันเป็นตลาดเดียวที่ยังสามารถฝากความหวังไว้ได้” Jochen Siebert กรรมการผู้จัดการของ JSC Automotive กล่าว 

 

โดยรายละเอียดสตาร์ทอัพจีน 5 อันดับแรกที่ได้รับเงินระดมทุนจาก Venture Capital มีดังนี้

  1. ธุรกิจยานยนต์และชิ้นส่วนประกอบที่เกี่ยวข้อง 5.95 พันล้านดอลลาร์
  2. ธุรกิจซอฟต์แวร์ 5.31 พันล้านดอลลาร์
  3. ธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพ 5.23 พันล้านดอลลาร์
  4. ธุรกิจหน่วยจัดเก็บพลังงานและแบตเตอรี่ 4.87 พันล้านดอลลาร์
  5. ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ 4.77 พันล้านดอลลาร์

 

นอกจากนี้ แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ของผู้ผลิตรถยนต์รุ่นเก่า เช่น Aion ของ GAC, IM Motors ของ SAIC และ Voyah ของ Dongfeng ต่างก็ได้รับเงินทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์เช่นกัน เช่น Hozon Auto รถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด ที่วางเป้าหมายเจาะตลาดในชนบทและเมืองเล็กๆ ก็ระดมเงินได้มากกว่า 3 พันล้านหยวน (420 ล้านดอลลาร์) ในรอบ Series D เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็ได้วางแผนขยายธุรกิจขั้นต่อไปด้วยการขายหุ้น IPO และเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง

 

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจนี้ยังคงสดใสอยู่แม้ว่าเงินลงทุนจากนักลงทุนทั่วโลกจะลดลง เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นที่มักจะจัดตั้งกองทุนเพื่อการลงทุน เพื่อเข้ามาถือหุ้นในสตาร์ทอัพแทนการเข้ามาถือหุ้นโดยตรง โดยสตาร์ทอัพรถยต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด 5 แห่งของประเทศ ซึ่งมียอดขายรวม 465,300 คันตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2022 ล้วนมีรัฐบาลท้องถิ่นในฐานะนักลงทุนส่วนน้อยทั้งสิ้น

 

Changjiang Capital และ Shenzhen Capital Group ซึ่งเป็น Venture Capital ที่อยู่เบื้องหลังข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้ คือกองทุนที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลหูเป่ย์และเซินเจิ้น ตามลำดับ และรัฐวิสาหกิจ เช่น Shanghai Electric Group และรัฐบาลท้องถิ่น เช่น ฉางโจว ก็สนับสนุนการเสนอขายหุ้น IPO ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 2 รายเมื่อไม่นานมานี้ 

 

“การไม่ลงทุนในห่วงโซ่คุณค่าของรถยนต์ไฟฟ้าในตอนนี้ ก็เหมือนกับการไม่ซื้อบ้านเมื่อ 20 ปีที่แล้ว” Ren Zeping อดีตนักเศรษฐศาสตร์ที่ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาที่ดูแลโดยคณะรัฐมนตรีของจีน กล่าวในการประชุมการลงทุนในฉางโจวเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว 

 

“มันเป็นโอกาสแห่งศตวรรษ” Ren กล่าวกับคณะผู้แทน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ในเมืองและผู้บริหารระดับสูงของ CALB

 

ถึงกระนั้น ท่ามกลางมูลค่าการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ แต่มูลค่าการลงทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยแม้จะมีรอบบล็อกบัสเตอร์ไม่กี่รอบ โดย Siebert ของ JSC เตือนว่าการระดมทุนยากขึ้นเมื่อเศรษฐกิจที่แท้จริงของจีนปรากฏเด่นชัดขึ้น

 

“แม้ตอนนี้จะมีเงินเพียงพอในจีน แต่จะหมดไปในไม่ช้า เพราะจีนกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยในงบดุล การลงทุนในจีนยังสามารถทำกำไรได้แค่เฉพาะตอนนี้เท่านั้น” Siebert กล่าว

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising