เงินเยนของญี่ปุ่น ซึ่งอ่อนค่าอย่างหนักในปีนี้ อาจพลิกกลับมาแข็งค่าในปีหน้า เนื่องจาก 2 ปัจจัยหลัก นั่นก็คือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ใช้นโยบายการเงินเข้มงวด และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายในปีนี้ น่าจะสลับจุดยืนกันในปีหน้า
Barclays และ Nomura Holdings ประเมินว่า ในปีหน้าเงินเยนของญี่ปุ่นอาจแข็งค่าขึ้นกว่า 9% จากระดับปัจจุบัน ขณะที่ Vontobel Asset Management กล่าวว่า มูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ของเงินเยนอยู่ที่ต่ำกว่า 100 เยนต่อดอลลาร์ หรือแข็งค่าขึ้นกว่า 35% จากระดับปัจจุบัน
ด้าน State Street Global Markets มองว่าการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเงินเยนเป็นผลมาจากความกังวลว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงต่อไปลดลง ขณะที่ T. Rowe Price ก็มองว่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้น เนื่องจาก BOJ จะหันมาใช้นโยบายการเงินที่แข็งกร้าวขึ้น
Sébastien Page หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์ระดับโลกจาก T. Rowe กล่าวว่า การอ่อนค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์อาจเข้าใกล้จุดสูงสุด เมื่อ Fed หยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในที่สุด และมีที่ว่างสำหรับ BOJ สร้างความประหลาดใจให้ตลาดด้วยการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นอีกเล็กน้อย
การใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษของ BOJ ทำให้ช่องว่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เงินเยนลดลงมากถึง 25% ในปีนี้
ด้วยมาตรการแทรกแซงตลาดโดยตรงจากรัฐบาลญี่ปุ่น และความหวังว่า Fed จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ได้ช่วยให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นมากกว่า 10% จากจุดต่ำสุดในเดือนตุลาคม ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า BOJ อาจปรับเปลี่ยนนโยบายภายใต้การนำของผู้ว่าการคนใหม่ในเดือนเมษายน
แม้การแข็งค่าของเงินเยนอาจดึงเงินทุนหลายแสนล้านดอลลาร์กลับเข้าญี่ปุ่น แต่ขณะเดียวกันก็อาจทำลายผลกำไรของยักษ์ใหญ่ด้านการส่งออกของประเทศได้ นอกจากนี้ยังจะลดความต้องการการซื้อขายเงินเยน ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนที่กู้ยืมเงินในสกุลเงินเยน เพื่อไปลงทุนในสกุลเงินที่มีผลตอบแทนสูงกว่าด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ต้องรีบซื้อตุน? เหตุยุค ‘เงินเยน’ อ่อนค่าอาจจบแล้ว! หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ แผ่วกว่าคาด ดึงดอลลาร์อ่อน
- ราคาห้องพักและโรงแรมใน ญี่ปุ่น พุ่งขึ้นแล้ว 10-20% จากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวและเงินเฟ้อ
- ญี่ปุ่นจ๋าพี่มาแล้ว! นี่คือ 5 เซอร์ไพรส์เล็กๆ จากญี่ปุ่นที่เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง
อ้างอิง: