Nikkei Asia รายงานว่า หนึ่งในอาชีพที่กำลังเป็นที่ต้องการตัวมากสุดในขณะนี้ คือเชฟซูชิชาวญี่ปุ่น เพราะหลังจากวิกฤตโควิดเริ่มคลี่คลาย ร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ ลูกค้าเริ่มกลับมา ทำให้ร้านซูชิบาร์หรือร้านอาหารโอมากาเสะหลายแห่งขาดแคลนเชฟญี่ปุ่นจำนวนมาก
หากย้อนกลับไปในช่วงโควิดระบาดหนัก เชฟหลายคนกลับไปญี่ปุ่นแล้วไม่กลับมา ทำให้ร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศมักจะถูกลูกค้าถามว่าเชฟเป็นชาวญี่ปุ่นหรือไม่ ด้วยเหตุนี้ร้านเหล่านั้นจึงต้องการจ้างเชฟชาวญี่ปุ่นมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีกำลังซื้อ และไม่สามารถเดินทางไปยังญี่ปุ่นได้ แต่มีความนิยมรับประทานอาหารแบบสไตล์โอมากาเสะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ไม่ขายแต่ปิดกิจการเลย! Toyota ยุติการผลิตและการขายในรัสเซีย แม้ครองส่วนแบ่งมากที่สุดในบรรดาแบรนด์ญี่ปุ่นก็ตาม
- ญี่ปุ่นแทรกแซงค่าเงินแล้ว! ครั้งแรกในรอบ 24 ปี หลังเยนอ่อนค่าหลุด 145 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ
- โปรดเช็กราคาก่อนจะช็อกตอนจ่ายเงิน! ‘โอมากาเสะ’ ในนิวยอร์กดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ 35,000 บาทต่อคน หลังค่าขนส่ง วัตถุดิบ และค่าแรงพุ่งสูงขึ้น
จากข้อมูลจากกระทรวงเกษตรของญี่ปุ่น ในปี 2021 จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วโลกเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว หรือมีประมาณ 159,000 แห่ง ยิ่งหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ยังมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกมาก จึงมีการแย่งตัวเชฟที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี และต้องเป็นผู้ที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีเท่านั้น
ตามรายงานของ Connect ในโตเกียว ผู้ดำเนินการเว็บไซต์ Washokujob สำหรับผู้หางานในร้านอาหารญี่ปุ่นบอกว่า โดยทั่วไปแล้วเชฟซูชิในญี่ปุ่นจะได้รับเงินเดือนระหว่าง 3-5 ล้านเยน หรือ 7.8 แสน – 1.3 ล้านบาทต่อปี แต่ร้านอาหารในต่างประเทศเสนอค่าจ้างสูงถึง 5.5-6.5 ล้านเยน หรือ 1.4-1.7 ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้เชฟญี่ปุ่นหลายคนกำลังพิจารณาที่จะไปทำงานในต่างประเทศเพื่อเป็นทางเลือกใหม่
อย่างไรก็ตาม การทำงานในต่างประเทศไม่ได้ราบรื่นมากนัก เพราะยังมีภาษีและค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่โดยทั่วไปแล้วเจ้าของร้านอาหารจะให้การสนับสนุนด้านสวัสดิการหลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่าง พ่อครัวซูชิหลายคนในญี่ปุ่นไม่สามารถหยุดงานได้ในช่วงที่มีงานยุ่ง แต่คนที่ทำงานในต่างประเทศจะหยุดงานได้มากขึ้น และได้รับค่าจ้างในวันหยุด
แน่นอนว่าปัจจัยดังกล่าวทำให้เชฟชาวญี่ปุ่นถูกร้านอาหารจากทั่วโลกดึงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีค่าแรงอยู่ในระดับค่อนข้างสูง
รวมถึงมาสเตอร์เชฟ นาโอยะ คาวาซากิ วัย 46 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในเชฟซูชิที่โด่งดังที่สุดในมาเลเซียมาตั้งแต่ปี 2015 หลังจากทำงานที่ร้านซูชิรายใหญ่ในโตเกียวและที่อื่นๆ มาเป็นเวลา 21 ปี เพื่อฝึกฝนทักษะการทำซูซิ ตลอดจนการร่ำเรียนภาษา ทำให้มีประสบการณ์อย่างมาก
ปัจจุบันคาวาซากิถูกจองเต็มล่วงหน้า 1 เดือน และมีเงินเดือนเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่า ถ้าเทียบกับจำนวนเงินที่เคยได้รับในญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้าที่มีฐานะดีมักจะชักชวนให้ไปทำงานที่อื่นด้วยข้อเสนอที่เพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า
พร้อมกันนี้ Washoku Agent หน่วยงานในกัวลาลัมเปอร์ที่มีหน้าที่จัดหาเชฟชาวญี่ปุ่นให้กับร้านอาหารในต่างประเทศบอกว่า ความต้องการเชฟซูชิในต่างประเทศเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 17 เท่าจากเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเฉพาะในฮ่องกง สิงคโปร์ และตะวันออกกลาง ขณะที่อเมริกาเหนือชูอัตราเงินเดือนพุ่งขึ้นไปถึง 8-8.5 ล้านเยน หรือ 2-2.2 ล้านบาท
อ้างอิง: