×

นักวิเคราะห์ลุ้น ปี 2024 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นสร้างผลตอบแทนสูงสุดนับตั้งแต่ยุคนโยบาย Abenomics

29.12.2023
  • LOADING...
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

Bloomberg คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีลุ้นที่จะเติบโตได้มากที่สุดในรอบทศวรรษสำหรับปี 2024 ที่จะถึงนี้ เนื่องจากปัจจัยการส่งออกที่ได้รับประโยชน์จากค่าเงินเยนที่อ่อนตัว การปรับโครงสร้างด้านธรรมาภิบาลบริษัท และอัตราเงินเฟ้อที่กลับมาอยู่ในระดับเหมาะสม เป็นสัญญาณดึงดูดเม็ดเงินลงทุน

 

ดัชนีอ้างอิงตลาดหุ้นญี่ปุ่น TOPIX มีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนในปีหน้าได้ 25% รวมถึงดัชนี Nikkei 225 ก็มีทีท่าว่าจะสามารถขึ้นได้ 29% ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงนับตั้งแต่ช่วงเวลาของการผ่อนคลายนโยบายการเงินและการคลังที่ค่อนข้างสุดโต่งในปี 2013

 

ดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นอยู่ในระดับที่ไม่เคยเห็นมานับตั้งแต่ปี 1990 การขึ้นครั้งนี้มาจากสาเหตุที่นักลงทุนเริ่มมองหาตัวเลือกอื่นนอกตลาดประเทศจีน และจากความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ต้องการผลักดันให้บริษัทต่างๆ เพิ่มมูลค่าของตัวเอง อีกทั้งยังมีอานิสงส์จากการลงทุนของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ทำให้หุ้นญี่ปุ่นได้รับความสนใจมากขึ้น

 

อายาโกะ เซระ นักกลยุทธ์การลงทุนประจำธนาคาร SMTB กล่าวกับ Bloomberg ว่า “การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นญี่ปุ่นในปีนี้ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญมาก เพราะมันส่งสัญญาณว่าทุกอย่างเริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติ สภาวะที่เงินฝืดเริ่มหายไป และนโยบายการเงินผ่อนคลายของธนาคารกลางญี่ปุ่นน่าจะใช้ได้ผลสักที”

 

ในปี 2023 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นสามารถเติบโตแซงหน้าดัชนีประเทศอื่นๆ ในเอเชียได้ โดยดัชนี MSCI Asia-Pacific โตต่ำกว่า 9% เพราะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความกังวลต่อการใช้กฎเกณฑ์ควบคุมที่คาดเดาได้ยากจากรัฐบาลจีน

 

การเติบโตในปี 2023 อยู่ในระดับสูงนับตั้งแต่ปี 2013 ที่ดัชนี TOPIX ปรับตัวขึ้น 51% ตอบรับนโยบาย Abenomics ที่หวังจะกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น แต่การกระตุ้นครั้งนั้นก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของ ชินโซ อาเบะ ที่ต้องการจะนำญี่ปุ่นออกจากวงจร ‘เงินฝืด’ ให้ได้ แต่นโยบายดังกล่าวก็ไม่สามารถแก้ปัญหาเงินฝืดได้โดยเฉพาะในช่วงโควิดที่สถานการณ์ยิ่งเป็นเรื่องท้าทายมากขึ้นไปอีก

 

กลับมาที่เวลาปัจจุบัน ระดับเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเริ่มอยู่ในจุดที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ 2% มาเป็นเวลาปีครึ่งแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักวิเคราะห์บางคนมีความเป็นห่วงในระยะสั้นคือ ความเสี่ยงของการบริโภคที่ไม่สูงตามคาดการณ์ และปรากฏการณ์ค่าเงินเยนอ่อนอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising