การออกมายอมรับของ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ รายล่าสุด มีขึ้นหลังจากที่เจ้าตัวได้จัดการประชุมวาระพิเศษร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน ซึ่งรวมถึงประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ และผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ เพื่อหารือเกี่ยวกับความผันผวนในตลาดหุ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่นักลงทุนรายย่อยปั่นราคาหุ้น GameStop และหุ้นของบริษัทอื่นๆ
โดยเยลเลนระบุอย่างชัดเจนว่า ตนเองและเจ้าหน้าที่ทุกคนจำเป็นต้องทำความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ให้ลึกซึ้ง และถ่องแท้ก่อนที่จะลงมือดำเนินการใดๆ ต่อไป ภายใต้เป้าหมายหลักเพื่อสร้างหลักประกันที่รับรองว่า กลไกการทำงานของตลาดการเงินยังคงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ตัวนักลงทุนเองก็ได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างเหมาะสม
ก่อนหน้าการประชุม นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่า กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจจะปรับกฎระเบียบในตลาดให้กำกับดูแลเฮดจ์ฟันด์ โบรกเกอร์ และนักลงทุนรายย่อยให้เข้มงวดมากขึ้น หลังเกิดกรณี GameStop ที่บรรดานักลงทุนรายย่อยบนแพลตฟอร์มออนไลน์ Reddit รวมตัวเข้าซื้อหุ้นของ GameStop เพื่อดัดหลังนักลงทุนสถาบันที่เข้ามาทำการชอร์ตเซลทำให้ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 483 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยล่าสุดในสัปดาห์นี้ ราคาหุ้น GameStop ลดลงมาอยู่ที่ 90 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากบรรดาแอปฯ เทรดหุ้น รวมถึงโรบินฮูด สั่งจำกัดการซื้อหุ้น
ทั้งนี้ เยลเลนไม่ได้ระบุรายละเอียดความเป็นไปได้ของแผนการดำเนินการใดๆ ที่จะต้องสนองต่อสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยังใช้โอกาสนี้แสดงจุดยืนสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับค่าแรงและการจ้างงาน ที่เยลเลนกล่าวว่า มีความจำเป็นที่จะต้องทำให้ชาวอเมริกันทุกคนมีงานทำ หรือถ้าหากยัง คนเหล่านี้ย่อมต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมต่อไป
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
