ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้วในรอบ 2 ปีของประเทศอิตาลี กับการยื่นเรื่องต่อองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO เพื่อขึ้นทะเบียน ‘เอสเพรสโซ’ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage) ของประเทศอิตาลี หลังจากที่เมื่อปลายปี 2021 UNESCO เองก็เพิ่งประกาศเพิ่ม ‘ประเพณีการหาเห็ดทรัฟเฟิล’ อยู่ในรายชื่อของมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ไปหมาดๆ
โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี้เอง กระทรวงนโยบายเกษตรอาหารและป่าไม้ ประเทศอิตาลี ได้มีมติเอกฉันท์ให้ยื่นเรื่องไปทางองค์การ UNESCO ประจำประเทศอิตาลี และเมื่อผ่านการพิจารณา คำขอจึงจะถูกส่งต่อไปยัง UNESCO สำนักงานใหญ่ตามลำดับ
นอกจากนี้ตามรายงานของ The Local นั้น Gian Marco Centinaio รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ก็ยังกล่าวไว้ว่า “กาแฟเอสเพรสโซนั้นเปรียบเสมือนตัวแทนของชาวอิตาลี และยังคงสะท้อนให้เห็นถึงขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมทางสังคม รวมไปถึงวรรณกรรมของอิตาลี ซึ่งสามารถทำให้ผู้คนทั้งประเทศ ตั้งแต่เนเปิลส์ เวนิส ไปจนถึงตรีเยสเต โรม และมิลาน หลงใหลไปกับมันได้
“ที่อิตาลี กาแฟนั้นเป็นมากกว่าแค่เครื่องดื่มธรรมดา เพราะมันคือวัฒนธรรมและประเพณีที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงรูปแบบการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมที่ทำให้อิตาลีแตกต่างจากชาติอื่นๆ”
ปีที่แล้ว UNESCO ได้ปฏิเสธคำร้องก็จริง แต่นั่นไม่ใช่เพราะทาง UNESCO ไม่ยอมรับให้เอสเพรสโซเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศอิตาลี แต่เป็นเพราะมีการยื่นเรื่องขึ้นทะเบียนจากหน่วยงานในอิตาลีซ้ำกันถึง 2 เจ้า ซึ่งทำให้ UNESCO ได้ตัดสินใจปฏิเสธไปทั้ง 2 หน่วยงาน และแนะนำให้พวกเขารวมพลังเพื่อสมัครใหม่ในปีนี้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า ‘เอสเพรสโซ’ จะถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของประเทศอิตาลีหรือไม่ ช็อตกาแฟแก้วนี้ก็ยังคงเป็นเครื่องดื่มที่ชาวอิตาเลียนทั่วประเทศเลือกเมื่อต้องการความสดชื่นยามเช้าเสมอ และคงไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมนี้ได้ ส่วนการยื่นขอรอบนี้จะสำเร็จหรือไม่นั้น เราคงต้องติดตามกันต่อไป
อ่านต่อ:
อ้างอิง:
