ยอดตาย 'อิสราเอล' สู้รบ 'ฮามาส' พุ่ง 4,000 คน ไทยเสียชีวิต 28 คน

กองทัพอิสราเอลระดมกองกำลังทหารพร้อมรถถังและอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากประชิดชายแดนฉนวนกาซา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการจู่โจมทางบก พร้อมเดินหน้าทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง

โดยกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์รายงานว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดของอิสราเอลตลอดระยะเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้วอย่างน้อย 2,670 คน ในจำนวนนี้กว่า 1 ใน 4 เป็นเด็ก ซึ่งทางการปาเลสไตน์คาดการณ์ว่ามีผู้สูญหายอีกกว่า 1,000 คน ที่ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนที่ถูกทำลาย

ขณะที่ทางการอิสราเอลรายงานจำนวนประชาชนในอิสราเอลที่เสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธฮามาสเพิ่มเป็นกว่า 1,400 คน และในจำนวนนี้เป็นทหาร 286 นาย

ในส่วนของไทยนั้น กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า มีแรงงานไทยในอิสราเอลที่เสียชีวิตเพิ่มเป็น 28 คน บาดเจ็บ 16 คน ส่วนผู้ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปเพิ่มเป็น 17 คน ขณะที่สหรัฐอเมริการายงานว่ามีพลเรือนเสียชีวิตในอิสราเอลเพิ่มเป็น 30 คนแล้ว

กองทัพอิสราเอลยังรายงานว่า ได้สังหาร มูตาซ อีด ผู้บัญชาการเขตความมั่นคงตอนใต้ของฮามาส ในการโจมตีทางอากาศเมื่อวานนี้ (15 ตุลาคม) ซึ่งมีการถล่มเป้าหมายของฮามาสกว่า 250 จุด โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา ขณะที่กลุ่มฮามาสยังไม่แสดงท่าทีใดๆ ต่อการสูญเสียผู้บัญชาการกองกำลังของตน

ทางด้าน ฮอสเซน อามีร์-อับดุลลาเฮียน (Hossein Amir-Abdollahian) รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวกับสำนักข่าว Al Jazeera เตือนอิสราเอลถึงการขยายความขัดแย้งในระดับภูมิภาค หากกองทัพอิสราเอลบุกโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา

“หากมาตรการต่างๆ ที่มุ่งเป้าไปที่การหยุดยั้งการโจมตีของอิสราเอลที่กำลังคร่าชีวิตเด็กๆ ในฉนวนกาซาในทันที จบลงด้วยทางตัน ก็มีความเป็นไปได้สูงที่แนวรบอื่นๆ อีกหลายแนวจะถูกเปิดขึ้น ตัวเลือกนี้ไม่ได้ถูกตัดออกและมีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ”

ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านยังได้พบกับ อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาสที่อยู่ในกาตาร์ โดยกลุ่มฮามาสได้ออกแถลงการณ์เผยว่า ทั้งสองได้หารือถึงวิกฤตในกาซา และอิหร่านเห็นพ้องที่จะสนับสนุนความร่วมมือต่อฮามาสต่อไป

สำหรับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซายังคงอยู่ในภาวะวิกฤต โดยองค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนว่า น้ำมันเชื้อเพลิงสำรองสำหรับผลิตไฟฟ้าใช้ในโรงพยาบาลทั้งหมดในฉนวนกาซาจะหมดลงในอีกไม่เกิน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ซึ่งหากไม่มีไฟฟ้าใช้จะส่งผลให้ชีวิตของผู้ป่วยจำนวนหลายพันคนตกอยู่ในความเสี่ยงร้ายแรง

ขณะที่การอพยพของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ล่าสุด UN เปิดเผยว่า มีชาวปาเลสไตน์อพยพหนีการโจมตีของอิสราเอลแล้วมากกว่า 1 ล้านคนในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

ด้านโฆษกกองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่า มีชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซาลงไปยังพื้นที่ตอนใต้แล้วมากกว่า 5 แสนคน โดยการอพยพเป็นไปตามประกาศเตือนของอิสราเอลที่กำหนดเส้นตายให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 1.1 ล้านคน อพยพออกจากตอนเหนือของกาซา ซึ่งอิสราเอลอนุญาตให้มีการอพยพได้อย่างปลอดภัยไปตามถนนที่กำหนด

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ตอนใต้ของฉนวนกาซาก็เผชิญความลำบากในการรองรับการหลั่งไหลของผู้คนจำนวนมาก โดยค่ายพักพิงต่างๆ มีผู้คนหนาแน่นเกินไป และกำลังประสบปัญหาภาวะขาดแคลนอาหาร น้ำ และเชื้อเพลิง

ทางด้านแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยภายหลังการพบปะกับประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ของอียิปต์ ว่าอียิปต์ยอมเปิดด่านราฟาห์ ซึ่งเป็นด่านควบคุมชายแดนทางใต้ของกาซาติดกับอียิปต์ เพื่อเปิดทางให้สามารถส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และเปิดให้อพยพชาวต่างชาติบางส่วนออกมาด้วย แต่ยังไม่ระบุเวลาแน่ชัดว่าจะเปิดได้เมื่อใด

ขณะที่รายงานจากสำนักข่าว NBC อ้างข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ ระบุว่าจะมีการเปิดด่านราฟาห์ในเวลา 09.00 น. ของวันนี้ (16 ตุลาคม) ตามเวลาท้องถิ่น โดยล่าสุดพบว่ามีสิ่งของบรรเทาทุกข์หลายร้อยตันที่ถูกส่งไปยังพื้นที่คาบสมุทรไซนายของอียิปต์ เพื่อรอข้อตกลงสำหรับส่งเข้าไปในกาซาได้อย่างปลอดภัย

ภาพ: Abed Rahim Khatib / Anadolu via Getty Images

อ้างอิง: