จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาดแมกนิจูด 7.3 บริเวณพรมแดนประเทศอิรัก-อิหร่าน เมื่อช่วงสายของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งมีศูนย์กลางแรงสั่นสะเทือนอยู่ที่เมืองฮาลับจา ในเขตปกครองพิเศษเคอร์ดิสถานแห่งอิรัก แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้เป็นวงกว้าง
ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้สูงถึง 452 คนแล้ว พลเมืองกว่า 7,100 คนได้รับบาดเจ็บ นับเป็นเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่มียอดผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในปีนี้ แซงหน้าเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมืองปวยบลา (Puebla) เม็กซิโก ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ที่มียอดผู้เสียชีวิตราว 370 คน ได้รับบาดเจ็บกว่า 6,000 คน
ทางด้านนายไฮเดอร์ อัล-อาบาดี (Haider al-Abadi) นายกรัฐมนตรีอิรัก ได้ทวีตข้อความระบุว่า เขาได้ให้ทุกหน่วยออกปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือและค้นหาผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เเล้ว และหวังว่าทุกคนจะปลอดภัย
I have instructed Civil Defence teams and health and aid agencies to do all that they can to provide assistance to our citizens affected by yesterday’s earthquake. We will do everything possible to help them. Wishing safety and security for all our people
— Haider Al-Abadi (@HaiderAlAbadi) November 13, 2017
ด้วยพื้นที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของอิรักที่อยู่ระหว่างแผ่นเปลือกโลกอาระเบียนและแผ่นยูเรเซีย ทำให้อิรักเผชิญหน้ากับเหตุแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง หนึ่งในนั้นคือเหตุแผ่นดินไหวที่อาจเรียกได้ว่ามีผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในรอบ 100 ปี เหตุเกิดขึ้นที่เมือง Bam ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอิรัก เมื่อปี 2003 แรงสั่นสะเทือนขนาดแมกนิจูด 6.6 คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 26,000 คน ได้รับบาดเจ็บกว่า 30,000 คน และมีผู้อพยพย้ายถิ่นอาศัยเกือบแสนคน
อ้างอิง:
