×

สัมภาษณ์ผู้ก่อตั้ง GCIRCUIT กว่าจะมาเป็นปาร์ตี้ระดับโลกของชาว LGBTQ+ และความสัมพันธ์ที่ยืนยาวกับ Absolut

23.01.2024
  • LOADING...
G-CIRCUIT

GCIRCUIT ถือเป็นอีกหนึ่งปาร์ตี้เดสติเนชันสำหรับชาว LGBTQ+ ที่โด่งดังไปทั่วโลก ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายนของทุกๆ ปี ก่อตั้งโดยคู่รัก อุ้ย-สุเมธ ศรีเมือง และ ทอม-ตัน เซียงเกี๊ยบ ตั้งแต่ปี2007 ด้วยจุดมุ่งหมายที่อยากสร้างพื้นที่ให้ทุกคนที่มาร่วมงานได้เป็นตัวเองผ่านดนตรีและเสียงเพลง

 

ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจาก Absolut แบรนด์วอดก้าจากประเทศสวีเดน ภายใต้การดูแลของ Pernod Ricard สปอนเซอร์รายแรกที่เข้ามาสนับสนุนงาน GCIRCUIT ในยุคที่หลายแบรนด์ยังไม่กล้าลงเงินกับงานปาร์ตี้สำหรับชาวเกย์ 

 

แต่ด้วยประวัติการสนับสนุนเรื่องความหลากหลาย สิทธิความหลากหลายทางเพศผ่านแคมเปญมากมายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของ Pride ในเหตุการณ์ Stonewall ในมหานครนิวยอร์ก การร่วมงานกับศิลปินจากกลุ่ม LGBTQ+ ระดับตำนานอย่าง Andy Warhol, Keith Haring David LaChapelle ในช่วงยุค 1980 และการปฏิวัติวงการโฆษณาด้วยการสนับสนุนนิตยสารเกย์อย่างเปิดเผยท่ามกลางความหวาดกลัวและความแบ่งแยกเมื่อหลายสิบกว่าปีก่อน การร่วมงานครั้งนี้จึงกลายเป็นการตอกย้ำเรื่องความเชื่อและพันธกิจที่แบรนด์มีต่อสังคมเสมอมา

 

มาฟังการสัมภาษณ์จากผู้ก่อตั้งปาร์ตี้ระดับโลกฝีมือคนไทย ร่วมด้วย Patrick Castanier กรรมการผู้จัดการของบริษัท Pernod Ricard ประเทศไทย ที่จะมาให้แง่มุม และเล่าเรื่องตั้งแต่จุดเริ่มต้นก่อตั้ง ความท้าทายในอดีตและปัจจุบัน ความหลากหลายทางเพศในสังคมไทย และการร่วมงานที่มีความหมายกับทั้งสองฝ่าย

 

สำหรับคนที่ไม่รู้จักว่า ปาร์ตี้ Circuit คืออะไร ช่วยอธิบายให้เราฟังคร่าวๆ หน่อยได้ไหม

 

ทอม: อย่างแรกเลยมันคือเทศกาลดนตรีแดนซ์นี่แหละ เป็นที่ที่ให้คนมาสนุกและมาเต้นกัน แต่มากไปกว่างานปาร์ตี้คือมันเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้คนได้เป็นตัวของตัวเอง และเฉลิมฉลองเรื่องการเป็นเกย์ที่คุณไม่สามารถทำได้ที่บ้าน ที่โรงเรียน ที่ทำงาน ปาร์ตี้ Circuit เลยเป็นเหมือนพื้นที่ปลอดภัยที่ชุมชนของเรา

 

ส่วน GCIRCUIT เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อย

 

ทอม: เราเจอกันเมื่อปี 1999 มันเหมือนเป็นรักแรกพบเลยก็ว่าได้ หลังจากนั้นอุ้ยก็ย้ายมาอยู่กับผมที่นิวยอร์กได้ประมาณ 4 ปี หลังจากนั้นเราตัดสินใจว่าจะมาอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน และคิดว่าจะทำอะไรที่นี่ดี 

 

ซึ่งตอนนั้นที่อยู่ที่นิวยอร์กเราไปปาร์ตี้เยอะมากในฝั่งอเมริกา จนเรารู้ว่าปาร์ตี้นั้นจัดอย่างไร ต้องมีโปรดักชันใหญ่ๆ ในสถานที่ดีๆ แต่ตอนนั้นปาร์ตี้ในเอเชียต้องแอบจัดในคลับเล็กๆ ที่ไม่มีคนรู้จัก 

 

อุ้ย: ช่วงนั้นคลับหรือบาร์ในไทยจะเหลือให้เราแค่วันที่คนน้อย อย่างวันจันทร์หรือวันพุธ และเก็บวันคนเยอะอย่างศุกร์ หรือเสาร์อาทิตย์ ไว้ให้ลูกค้าชายหญิงทั่วไป เราเลยเอาไอเดียปาร์ตี้ที่เราเจอในอเมริกามาจัดที่เอเชีย ทั้งโปรดักชัน ดีเจ สถานที่ ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรา

 

 

แล้วทำไมถึงเลือกเป็นช่วงสงกรานต์

 

ทอม: เหตุผลที่เราเลือกช่วงสงกรานต์เพราะว่ามันเป็นเทศกาลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแค่ที่ประเทศไทย และไม่เหมือนที่ไหน และมันก็ตามมาด้วยความท้าทายที่ว่า เราจะชวนคนทั่วโลกมาเที่ยววันหยุดที่ไทยซึ่งไม่เหมือนช่วงปีใหม่ แต่ผลตอบรับก็ดีเกินคาด และไม่คิดว่าคนจะมาเยอะขนาดนี้ในตอนนั้น

 

ตั้งแต่ก่อตั้งมาจนถึงวันนี้ ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในสังคมและกลุ่ม LGBTQ+ อย่างไรบ้าง

 

ทอม: ถึงแม้ว่าตอนนั้นทั้งผมและอุ้ยเราเปิดเผยเรื่องรสนิยมทางเพศของเรามาก ผมเป็นตัวเองแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร และครอบครัวของอุ้ยก็รู้เรื่องของเขาเช่นกัน ซึ่งตอนที่เราเริ่มจัด GCIRCUIT ใหม่ๆ ก็มีทั้งคนที่ยังไม่เปิดเผยตัวเองเยอะมากเหมือนกัน หรือไม่อยากให้คนอื่นรู้ด้วยซ้ำว่ามางานปาร์ตี้เกย์ 

 

มากไปกว่านั้น เราไม่สามารถโฆษณางานของเราว่าเป็นงานเกย์ปาร์ตี้ได้ และมันก็ตามมาด้วยเรื่องการขอสปอนเซอร์ที่ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีแบรนด์ไหนอยากจะมาสนับสนุนงานของกลุ่มชาวเกย์

 

แต่ตอนนี้คนรุ่นใหม่เขาเปิดเผยเรื่องนี้มาก และดูภูมิใจในการได้เป็นตัวเอง ทั้งที่บ้าน ที่โรงเรียน และตอนนี้หลายแบรนด์ก็พร้อมที่จะมาเป็นสปอนเซอร์ให้งานของกลุ่ม LGBTQ+ มากกว่าช่วงแรกๆ มาก

 

 

ซึ่งตอนที่เริ่มก่อตั้งใหม่ๆ ก็ได้ Absolut มาเป็นพาร์ตเนอร์ด้วย จนถึงตอนนี้ก็ยังร่วมงานกันอยู่ จุดเริ่มต้นเป็นมาอย่างไร 

 

ทอม: เราอยู่นิวยอร์กได้ 4 ปี และก็เห็น Absolut เป็นสปอนเซอร์งานปาร์ตี้เกือบทุกที่ แล้วพอย้ายมาเมืองไทย เราก็นึกถึงแบรนด์เป็นอย่างแรก เพราะเราจำได้ว่า Absolut สนับสนุนทั้งเรื่องสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ มาโดยตลอด

 

อุ้ย: ซึ่งมันก็ทำให้ทุกครั้งที่เราเห็น Absolut เราจะรู้ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนของเรา และมันก็เลยเป็นตัวเลือกแรกที่เราอยากร่วมงานด้วยตั้งแต่ตอนนั้น 

 

จนถึงตอนนี้ GCIRCUIT ได้กลายเป็นอีเวนต์ระดับนานาชาติที่มีผู้เข้าร่วมงานมากมายจากหลากหลายประเทศ คิดว่าแพลตฟอร์มนี้สามารถกระจายสารเรื่องความเท่าเทียมอย่างไรบ้าง

 

อุ้ย: ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน เรามีโอกาสได้ร่วมงานกับธนาคารแห่งหนึ่งในการให้คู่เกย์ได้ยื่นกู้สินเชื่อบ้าน และจุดนั้นทำให้หลายคู่ได้มีโอกาสทำธุรกรรมทางการเงินร่วมกัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นคู่สมรสตามกฎหมายก็ตาม

 

หรือแม้กระทั่งสปอนเซอร์ต่างๆ ตั้งแต่เครื่องดื่ม หรือโรงแรมที่เราไปจัดงาน จะต้องมีความเข้าใจว่างานของเราคือปาร์ตี้เกย์ และปฏิบัติต่อลูกค้าของเราอย่างถูกวิธี รวมไปถึงเราได้ร่วมงานกับองค์กร NGO ต่างๆ ตั้งแต่ APCOM ในการรณรงค์เรื่องสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ 

 

ถึงบ้านเราจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ต้อนรับกลุ่ม LGBTQ+ มากที่สุดในภูมิภาค แต่ยังมีบางจุดที่กลุ่มคนยังไม่ได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียม มีปัญหาด้านไหนที่ยังคงต้องช่วยกันแก้ไข

 

อุ้ย: ตอนที่เราแต่งงานกัน เราจัดทุกอย่างเองหมดเลย เราให้ทั้งครอบครัว ทนาย นักกฎหมาย มาร่วมงานเราและเป็นพยานยืนยัน โดยทุกฝ่ายรับรู้และรับรอง ถ้าเกิดอะไรขึ้น สมบัติของเราก็จะเป็นของทอมทั้งหมด แต่ตอนนั้นเราต้องช่วยตัวเองก่อน ก่อนที่รัฐจะมาช่วยเรา ถ้าบ้านเรามีเรื่องกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเป็นสิ่งที่ดีมาก

 

 

ที่ผ่านมา Absolut ได้สนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ ผ่านแคมเปญมากมาย ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยว่ามีแคมเปญไหนที่คุณประทับใจส่วนตัว

 

Patrick: ต้องบอกก่อนว่า Absolut ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1879 โดย Lars Olsson Smith ซึ่งเราเป็นแบรนด์ที่มีประวัติมายาวนาน และตลอดเวลาที่ผ่านมา Absolut เองก็ได้ทะลายกรอบความคิดสร้างสรรค์มามากมาย

 

กลับไปที่คำถามของคุณแคมเปญที่ผมชอบมากที่สุดน่าจะเป็นของ Andy Warhol ในช่วงยุค 80 ที่ทาง Absolut ได้ทำขวด Limited edition ออกมาขายเพื่อโปรโมทวัฒนธรรมประชานิยม หรือ Pop Culture ที่ร่วมไปกับความคิดสร้างของกลุ่มเควียร์

 

 

คุณเคยพูดว่า “Absolut เป็นมากกว่าแค่แบรนด์วอดก้า” คุณช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยได้ไหม?

 

Patrick: ผมว่ามันเป็นมากกว่าแค่เครื่องดื่ม เพราะเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำแบรนด์ ในการผลักดันความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคม เราอยากเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดโลกให้กับผู้คนให้เห็นถึงความหลากหลายในสังคมเรา และยังสอดคล้องไปกับจุดมุ่งหมายของแบรนด์อย่าง ‘Born to Mix’

 

คุณทอมกับคุณอุ้ยบอกผมว่า Absolut เป็นสปอนเซอร์งาน GCIRCUIT ตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งในปี 2007 อะไรที่ทำให้แบรนด์ระดับโลกอย่าง Absolut สนใจงานปาร์ตี้ของเขาทั้งสอง

 

Patrick: เป็นคำถามที่ดีมากครับ อย่างที่ผมเล่าไป Absolut เราสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ ในสังคมมานานหลายสิบปีแล้ว ซึ่งแคมเปญต่างๆ ของเราก็ช่วยให้คนได้เห็นถึงความสวยงามของความหลากหลาย และยุติเรื่องการแบ่งแยก

 

และ Absolut ก็เห็นถึงแพสชันและวิสัยทัศน์ของทั้งคู่ตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ามาติดต่อ พวกเขาทั้งสองมีความฝันที่ชัดเจน และอยากสร้างชุมชนที่ไปไกลกว่าแค่เรื่องเชื้อชาติหรือพรมแดน ด้วยดนตรี ความคิดสร้างสรรค์ ผู้คน พื้นที่ปลอดภัย และประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหนในประเทศไทย ซึ่งแค่นี้ก็ทำให้เราตื่นเต้นที่จะสนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่นที่ไปไกลระดับนานาชาติอย่าง GCIRCUIT แล้ว

 

 

หลังจากที่คุณอยู่ประเทศไทยมานาน คิดว่าตอนนี้ตลาดเครื่องดื่มเป็นอย่างไรบ้างในบ้านเรา

 

Patrick: ผมว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลย ผมเห็นอยู่สองอย่างคือ เทรนด์การบริโภคภายในประเทศ และจากการท่องเที่ยว ซึ่งตอนนี้เราอยู่ในช่วงเวลาที่น่าสนใจ เพราะว่าคนรุ่นใหม่เขากำลังหาประสบการณ์ใหม่ๆ โปรดักต์ใหม่ๆ และวิธีการบริโภคใหม่ๆ 

 

ซึ่งผมว่าแบรนด์ต่างๆ ภายใต้เครือ Pernod Ricard น่าจะสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายนี้ได้ ซึ่งไม่ใช่การดื่มให้เยอะเข้าไว้ แต่ดื่มให้ดีขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น

 

มุมมองที่คุณมีต่อกลุ่ม LGBTQ+ ในประเทศไทยเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้ และ Absolut จะมีส่วนสนับสนุนชุมชนนี้อย่างไรบ้าง

 

Patrick: ผมคิดว่าประเทศไทยเปิดกว้างกว่าหลายประเทศในภูมิภาค หรือในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งถือว่าเป็นแต้มต่ออยู่แล้ว แน่นอนว่าก็ยังมีอีกหลายแง่มุมที่ต้องพัฒนาต่อไป แต่ผมเชื่อว่ากำลังไปในทิศทางที่ดีนะ เพราะนโยบายเรื่อง Soft Power ทั้งเรื่องศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณี  

 

อย่าง GCIRCUIT ที่จัดขึ้นในช่วงสงกรานต์ ที่กระตุ้นเรื่องท่องเที่ยว อาหาร และเครื่องดื่ม และการมีงานแบบนี้ในประเทศเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะเปิดประตูต้อนรับความหลากหลายจากทั่วโลกให้มายังประเทศไทย

 

 

ดูรายละเอียดการจองและราคาบัตรได้ที่

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising