×

หุ้นกลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต – อัตรากำไรมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น

30.03.2022
  • LOADING...
หุ้นกลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต - อัตรากำไรมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น

เกิดอะไรขึ้น:

SCBS คาดว่าผลประกอบการของบริษัทประกันภายใต้การวิเคราะห์ (BLA, TQM, THRE และ THREL) จะมีอัตรากำไรที่ดีขึ้น อันเป็นผลมาจากการตั้งสำรองเผื่อเคลมโควิดลดลง และการเน้นออกผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูงเพิ่มมากขึ้น

 

รวมทั้งการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ส่งผลให้บริษัทประกันได้ประโยชน์จากผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีขึ้น และการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังเป็นผลดีต่อตลาดผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์อีกด้วย

 

นอกจากนี้บริษัทประกันจะได้รับประโยชน์จากเมกะเทรนด์ ได้แก่ 1. สังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย 2. การเติบโตอย่างมากของประกันสุขภาพหลังเกิดโรคระบาด และ 3. ตลาดรถ EV ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

 

ปัจจุบันตลาดประกันภัยมีอัตราการแข็งตัวมากขึ้น (Hard Market) อันเป็นผลมาจากภาระค่าสินไหมทดแทนจำนวนมากจากโรคระบาด, อันดับเครดิตที่ลดลง, ROI ที่ลดลง และแนวทางการรับประกันภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้น การบังคับใช้แบบประกันสุขภาพมาตรฐานใหม่ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ส่งผลให้เบี้ยประกันแพงขึ้น

 

ขณะที่การปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลส่งผลให้มีช่องทางการจำหน่ายออนไลน์แบบใหม่ที่มีต้นทุนลดลง บริการเคลมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และนวัตกรรม ทั้งนี้ SCBS เลือก BLA และ TQM หุ้นเด่นของกลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต 

 

กระทบอย่างไร: 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต (SETINSUR) ปรับลดลง 1.0%MoM โดย

  • ราคาหุ้น BLA ไม่เปลี่ยนแปลง MoM อยู่ที่ระดับ 44.00 บาท
  • ราคาหุ้น TQM ปรับลดลง 9.4%MoM อยู่ระดับ 41.00 บาท
  • ราคาหุ้น THRE ปรับเพิ่มขึ้น 3.6%MoM สู่ระดับ 1.14 บาท
  • ราคาหุ้น THREL ปรับเพิ่มขึ้น 11.2%MoM สู่ระดับ 5.25 บาท 

 

แนวโน้มผลประกอบการ BLA และ TQM หุ้นเด่นของกลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต:

SCBS ประเมินผลประกอบการ BLA (บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต) ในปี 2565 โดยคาดว่า Combined Ratio จะปรับตัวดีขึ้นด้วยมาร์จิ้นมีแนวโน้มดีขึ้นจากการปรับแผนการขายผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง และได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 

 

นอกจากนี้ด้านราคาหุ้นยังมี Sentiment เชิงบวกต่อ Valuation จากการเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (TLI) ที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี กำไรปี 2565 คาดว่าจะเติบโต 23% อันเป็นผลมาจากเบี้ยประกันภัยรับสุทธิในระดับทรงตัว พร้อมกับเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ที่เติบโต 10% Combined Ratio และ ROI ที่ลดลง โดยไม่มีการรับรู้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

 

สำหรับ TQM (บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น) คาดผลประกอบการจะเติบโตดี ทั้ง Organic และ Inorganic โดยคาดว่ากำไรปี 2565 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 40% โดยเกิดจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตขึ้น 47% (การเติบโตของบริษัทเองที่ 12%) แม้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นลดลง (จากการมีสัดส่วนลูกค้าองค์กรมากขึ้นจาก TQR) แต่มีรายได้เพิ่มเติมจากการเปิดให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการประหยัดต่อขนาดมากขึ้น  

 

อย่างไรก็ดี ประมาณการผลประกอบการดังกล่าวได้รวมดีล TQR (TQM เตรียมซื้อหุ้น 44.35% ใน TQR (ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ) จากตระกูลพรรณนิภา ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ TQM ใน 1Q65) เข้ามาแล้ว ขณะที่ดีล M&A อื่นๆ ที่ TQM เดินหน้าซื้อกิจการ ยังไม่ได้รวมเข้ามาไว้ในประมาณการ โดยปล่อยเป็น Upside

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising