×

นักลงทุนสถาบันไทยเชื่อมั่นในตลาดหุ้นเพิ่ม หลังการเมืองชัด จัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ ฟันธงสิ้นปียืนเหนือ 1,600 จุด

08.09.2023
  • LOADING...

กองทุนมั่นใจตลาดหุ้นไทยถึงสิ้นปียืนเหนือ 1,600 จุด ความชัดเจนทางการเมืองรัฐบาลใหม่เดินหน้าทำงานเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นปัจจัยบวกเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน

 

ภายหลังการเมืองในประเทศมีความชัดเจน การโหวตเลือก ‘เศรษฐา ทวีสิน’ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย และการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วเสร็จ นักลงทุนสถาบันในประเทศต่างมองว่าเป็นการเปิด Upside ให้กับตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้บริหารกองทุนส่วนใหญ่ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยจะสามารถปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือ 1,600 จุดได้ในสิ้นปีนี้ แม้จะยังมีปัจจัยเสี่ยงภายนอกที่ยังต้องเผชิญ

 

โดยผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) กสิกรไทย ชี้ว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ที่ระดับปัจจุบัน (1,547 จุด ณ 5 กันยายน 2566) กลับไปสู่ระดับก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้มองว่าตลาดอาจรอดูความชัดเจนของนโยบายของรัฐบาลที่จะประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนกันยายน

 

ซึ่งหากมีความชัดเจนมากขึ้น คาดว่าตลาดหุ้นจะปรับขึ้นต่อได้จากความมั่นใจของนักลงทุนที่มีมากขึ้น และน่าจะสามารถประเมินผลกระทบเชิงนโยบายต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนได้ชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งอาจสามารถคาดหวังเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติที่มีโอกาสกลับเข้ามา

 

หากประเมินผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปี 2567 จากนโยบายต่างๆ ที่คาดว่าจะมีการนำมาใช้ได้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ในเบื้องต้นประกอบด้วย ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป 50 บาทในปี 2567, ลดค่าไฟ 10%, ลดราคาน้ำมันดีเซล 10% และ GDP เพิ่มขึ้นประมาณ +1% จะทำให้กำไรของตลาดในปี 2567 เพิ่มขึ้นประมาณ 2.4% จากกรณีฐาน

 

บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองว่า SET Index จะปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 1,650 จุดได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่จะฟื้นตัวตามภาคการท่องเที่ยว คาดว่ารัฐบาลที่เข้ามาใหม่จะให้ความสำคัญกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยเป็นเรื่องเร่งด่วน 

 

และคาดหวังที่จะเห็นมาตรการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเน้นที่การเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน การบริโภคภายในประเทศ การส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพของประเทศ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนมากกว่าตลาด ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว

 

ด้าน บลจ.ทิสโก้ มองการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะปรับตัวดีขึ้น SET Index แตะ 1,600 จุด มีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อลดลง ราคาหุ้นแต่ละอุตสาหกรรมจะปรับตัวเพื่อสะท้อนผลกระทบด้านบวกและลบจากนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่จะออกมา นอกจากนี้ยังต้องติดตามกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น ที่จะมีผลโดยตรงต่อกระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศด้วย

 

ก่อนหน้านี้ บลจ.วรรณ ได้ปรับลดเป้าหมาย SET Index สิ้นปีนี้ลงเหลือ 1,570 จุด จากเดิม 1,640 จุด พจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ มีมุมมองหุ้นไทยช่วงที่เหลือปีนี้จะ Sideway ในกรอบ โดย Downside เริ่มจำกัดจากระดับปัจจุบัน หลังภาพรวมตลาดหุ้นตอบสนองเชิงบวกต่อความชัดเจนการเมืองในประเทศ ส่งผลบวกต่อกลุ่มหุ้นที่อ่อนไหวกับปัจจัยการเมืองและนโยบายภาครัฐ 

 

ทั้งนี้ ยังคงให้ความระมัดระวังการลงทุนจากแนวโน้มการปรับลดประมาณการ EPS หุ้นไทย นำโดยกลุ่มปิโตรเคมี โดยตั้งแต่ต้นปี EPS หุ้นไทยถูกปรับลงมาแล้วประมาณ -15% จากประเด็นเรื่องส่งออกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวได้ช้ากว่าคาด นักท่องเที่ยวจีนยังกลับมาน้อย ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นที่เพิ่มขึ้นมี Spending ต่อหัวไม่สูงเท่านักท่องเที่ยวจีน และความไม่แน่นอนจากราคาอาหารและพลังงาน ซึ่งกดดันต้นทุนของผู้ประกอบการ

 

อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบตลาดหุ้นไทยกับตลาดภูมิภาค พบว่ามีอัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS Growth) ในภาพรวมที่อ่อนแอกว่าค่าเฉลี่ย ขณะที่ในแง่ของมูลค่าหุ้นของตลาดหุ้นไทย มองว่า Valuation ยังค่อนข้างตึงตัว Forward P/E อยู่ที่ 17.15 เท่า ในปี 2566 ในขณะที่ภูมิภาคอยู่ที่ 14.4 เท่า

 

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่ทำให้หุ้นไทย Turnaround ได้คือราคาน้ำมันทรงตัวสูง เนื่องจากช่วยชะลอการปรับลด EPS ของตลาดหุ้นไทย และทำให้ตลาดฟื้นตัวในระยะสั้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนของกำไรและมูลค่าตลาดค่อนข้างสูง อีกทั้งสถิติในอดีตพบว่า ราคาน้ำมันมีความสัมพันธ์กับผลตอบแทนของ SET Index สูงราว 63% โดยกลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีคิดเป็น 25.5% ของกำไรตลาดหุ้นไทยปี 2566 ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจฟื้นตัวขึ้นแรง สำหรับปัจจัยต่างประเทศที่คาดว่าจะช่วยหนุนความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทย ได้แก่ การคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา รวมถึงนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศจีน

 

ส่วน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ประเมิน SET Index มี Upside ได้ถึง 1,620 จุด เนื่องจากมีรัฐบาลใหม่ และนโยบายที่จะเร่งดำเนินการคือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจบางส่วนจะทำให้เม็ดเงินเริ่มไหลเข้าสู่ระบบตั้งแต่ไตรมาส 4 นี้เป็นต้นไป

 

 

ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising